Page 9 - ISSUE18_AUGUST
P. 9

W W W . H E A L T H A D D I C T . C O M





















                                                                          เรามองว่าตัวเองเป็นแฟมิลี่แมน เป็นคนมุ่งมั่น

                 Passion ในกีฬา...ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่เด็ก                บางทีก็หมกมุ่น คือไม่ว่าจะท�าอะไรเราจะต้องท�าให้สุด
                 เขาเล่าให้เราฟังว่า เป็นคนที่ชอบเล่นกีฬามาตั้งแต่เด็กๆ กีฬาที่มีการ
                 แข่งขัน มีแพ้-ชนะ โดยเฉพาะกีฬาที่ต้องออกแอคชั่น มีการขยับตัว ต้อง  เพราะเราไม่อยากมานั่งเสียใจกับมันทีหลัง
                 ออกแรง เช่น ว่ายน�้า ฟุตบอล วอลเล่ย์บอล บาสเก็ตบอล “ตอนเด็กๆ เล่น
                 บาสฯ ที่อเมริกา ได้มีโอกาสไปคัดตัวของเขต พอติดทีมเขตแล้ว ก็ได้ไป
                 แข่งในระดับรัฐ พอได้กลับมาไทยก็ได้เป็นนักบาสฯ ของโรงเรียน ได้ลงแข่ง  ลูกอยู่แล้ว เที่ยวกันแทบทุกอาทิตย์ เราไม่อยากท�าอะไรที่มันไม่ใช่ตัวเอง แล้ว
                 ระดับเอเชีย” นอกจากบาสฯ แล้วก็มีเล่นวอลเล่ย์บอล และว่ายน�้าที่ทุกวัน  ต้องมานั่งเสียเวลาเพื่อท�าสิ่งนั้น ซึ่งไหนๆ ครอบครัวเราก็ชอบเที่ยวอยู่แล้ว เรา
                 นี้เลิกเล่นไปแล้ว หลังจากที่ว่ายมา 8 ปีเต็ม “ตอนอยู่ที่อเมริกา ตอนนั้น  ก็เลยอยากให้คนดูได้เห็นว่า การมีลูกไม่ได้เป็นอุปสรรคในการไปเที่ยว บางที
                 ว่ายทุกวัน 6 โมงถึง 3 ทุ่ม จนแทบจะนับได้เลยว่ามีกระเบื้องกี่แผ่น เพราะ  คนอาจจะไม่ได้อยากดูว่าเราไปเที่ยวที่ไหน แต่คนชอบดู reaction ของเด็กๆ
                 แค่วอล์มอัพก็เป็นพันเมตรแล้ว การว่ายน�้ามันเหมือนกับเป็นการแข่งกับ  มันก็เหมือนลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ” อีกหนึ่ง mindset ที่เราชอบมากในการ
                 ตัวเอง ไม่ได้ปะทะอะไรกับใคร ว่ายจนท้อ เพราะเรายังไม่เคยชนะ จนวัน  เลี้ยงลูกของเขาคือ การให้อิสระ “เราจะไม่บังคับ หรือขีดเส้นว่าเขาจะต้องเป็น
                 นึงบอกกับตัวเองว่าถ้าวันนี้ไม่ได้เหรียญ ไม่ได้ต�าแหน่ง จะเลิกเล่นแล้ว”   อะไร ต้องเรียนให้เก่ง ต้องฉลาด ต้องเก่งกีฬา เขาอยากเป็นอะไรก็ได้ที่เขา
                 แต่สุดท้ายเขาก็ได้เหรียญมา และหลังจากนั้นก็ได้ต�าแหน่งมาตลอด  อยากเป็น อยากท�าก็ปล่อยให้เขาท�าเลย เราพร้อมซัพพอร์ต ขอแค่เป็นคนดี
                                                                     เพราะเรามองว่าการบังคับลูกมันเหมือนการเอาความฝันของตัวเองที่ท�าไม่ได้
                 Journey สิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์กว่าการได้รางวัล         ไปยัดให้เขา เราจะไม่เปิดโอกาสให้เขาฝันเองบ้างเลยหรอ”
                 ส�าหรับเขา รางวัลอาจไม่ใช่สิ่งส�าคัญ เพราะเส้นทางระหว่างนั้นมันมีค่า
                 มากกว่ามาก “การได้รางวัลมันเหมือน Stamp ว่าเราท�าส�าเร็จแล้ว คือ  นี่แหละ! ตัวตนของผู้ชายที่ชื่อ กาย รัชชานนท์
                 ตอนเด็กๆ เราอาจจะไม่ได้คิดว่าเราต้องซ้อมเพราะเราต้องเก่ง เราไม่ได้  สุดท้ายเมื่อถามว่ากาย รัชชานนท์ มองตัวเองเป็นยังไง ค�าตอบของเขาก็ตรง
                 สนใจ Journey ระหว่างทางว่ามันส�าคัญ เพราะเรามัวแต่ไปมองที่ปลาย  กับสิ่งที่เราได้สัมผัสจริงๆ ไม่มีค�าประดิษฐ์ แต่จริงใจกับทุกค�าพูด “เรามองว่า
                 ทาง ซึ่งพอเราหันกลับมา เรารู้สึกว่าเส้นทางระหว่างนั้นมันศักดิ์สิทธิ์  ตัวเองเป็นแฟมิลี่แมน เป็นคนมุ่งมั่น บางทีก็หมกมุ่น คือไม่ว่าจะท�าอะไรเรา
                 มากกว่าการแข่ง อย่างตอนที่ซ้อมต่อยมวยมา 3-4 เดือน เพื่อไปแข่ง 10   จะต้องท�าให้สุด เพราะเราไม่อยากมานั่งเสียใจกับมันทีหลัง อีกอย่างเราเป็น
                 Fight 10 เรารู้สึกว่า journey ของการซ้อม ไม่ว่าสุดท้ายจะชนะหรือแพ้   คนที่ชอบ Collect Stamp เราจะมีเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าเราท�าสิ่งนี้สิ่งนั้นไป
                 สิ่งที่มันได้รับมาก่อนที่จะไปถึงการรับรางวัลมันส�าคัญกว่าเยอะ มันได้ทั้ง  เพื่ออะไร เพื่อให้คนเห็น ให้คนรู้สึกดี รู้สึกชื่นชม และถ้าสิ่งที่เราท�าแล้วยังไม่
                 มิตรภาพ ได้วินัย ได้สู้ใจตัวเอง” และนั่นคือสิ่งที่ท�าให้เขามีวินัยกับตัวเอง  ได้รับการยอมรับ เราจะถือว่าเรายังท�าได้ไม่ส�าเร็จ เราเลยต้องท�าทุกอย่างให้
                 มากขึ้น ซึ่งส่งผลให้การท�างานของเขาก็มีวินัยมากขึ้นตามไปด้วย  สุดที่สุด ซึ่งนี่มันอาจจะเป็นทั้งจุดอ่อนและจุดแข็ง มันอาจจะมีคนที่ท�าอะไรโดย
                                                                     ไม่ได้หวังผล แต่สิ่งที่เราหวังคือการยอมรับ ซึ่งตอนนี้ก็พยายามหาวิธีที่จะท�า
                 ในโมเมนต์ที่ก�าลังจะหลุดออกจาก Track ...            โดยที่ไม่หวังอะไรกลับมา”
                 แน่นอนว่าเส้นทางระหว่างทางมันคงไม่ได้ราบเรียบและสวยหรูไปซะทุก
                 ครั้ง เขาต้องเจอทั้งความล�าบาก ความเหนื่อย ความท้อ “ตอนแข่งเพาะ  เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งอินสไปเรชั่นดีๆ ที่เราอยากแชร์ให้กับทุกคนได้รู้จักกับอีก
                 กาย มันเป็นเส้นทางที่เหนื่อยที่สุด ทรมานที่สุดในชีวิตที่เคยท�ามา เพราะ  มุมหนึ่งของผู้ชายคนนี้ กาย-รัชชานนท์ สุประกอบ
                 ว่ากีฬาอื่นเราซ้อมแล้วก็จบ สมมุติต่อให้ซ้อมนาน 8 ชั่วโมงแล้วก็พัก แต่
                 เพาะกายมันคือ 24 ชั่วโมง ต้องวัดทุกอย่างที่กิน ต้องชั่งทุกอย่างที่กิน
                 ต้องตวงทุกอย่างที่ใส่ ต้องคุมน�้า คุมโปรตีน คุมแป้ง คุม fat คุมทุกสิ่งทุก
                 อย่าง ทั้งการนอน ชั่วโมงในการกิน การซ้อม การคาร์ดิโอ เรียกว่าเป็น
                 เวลา 2 เดือนของการเตรียมตัวที่เราสามารถหลุดเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะ
                 ระหว่างนั้นเราก็ยังท�างานอยู่ ยังเที่ยวอยู่ ใช้ชีวิตปกติ สมมุติไปโรงแรม มี
                 Buffet ตอนเช้า เราต้องเอาอกไก่ไปให้เขาเวฟ ตอนเย็นมี Buffet Sea-
                 food เราก็ต้องไปนั่งกินอกไก่” แต่ไม่ว่าจะมีอุปสรรคขนาดไหน เขาก็
                 สามารถก้าวข้ามมาได้อย่างสง่างาม “ทุกครั้งที่เหนื่อย หรือใกล้จะหลุด ให้
                 คิดเอาไว้อย่างเดียวว่าเราเหนื่อยมาขนาดนี้แล้ว ถ้าเราปล่อยตัวเอง แค่อ้า
                 ปากกัดไปซักค�า เราจะรู้สึกผิดขนาดไหนกับวันเวลาที่สู้อดทนมา” และ
                 สุดท้ายเขาก็คว้ารางวัลที่ 5 มาได้ในการแข่งขันเพาะกาย “มันคือสิ่งที่ภูมิใจ
                 มาก ไม่ได้ภูมิใจที่ได้ที่ 5 แต่ภูมิใจที่เราสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า ช่วง
                 เวลานั้นเราไม่ได้หลุดเลยแม้แต่วันเดียว วันที่ห้ามกินน�้า 28 ชั่วโมงก็ไม่ได้
                 กินเลยแม่แต่หยดเดียว วันที่ต้องกินน�้าเยอะๆ ก็ทรมานมาก จุกมาก กิน
                 จนหมดทุกหยดจริงๆ ซึ่งถ้าวันนั้นเราไม่ได้ท�าแบบนั้นเราจะได้ที่ 5 หรือ
                 เปล่า หรืออาจจะเป็นที่ 7 หรือที่ 10 ก็ได้ เราก็ไม่รู้”

                 เปิดโอกาสให้ชีวิต เมื่ออยากลอง...ต้องได้ลอง
                 นอกจากเขาจะจริงจังกับเรื่องของกีฬา และการออกก�าลังกายแล้ว เรื่อง
                 ของครอบครัวก็เป็นสิ่งที่ Family Man คนนี้ใส่สุดไม่แพ้กัน “จุดเริ่มต้น                                                         A  D  D  I  C  T      |    9
                 ของกุมาร Travel ในช่อง Guy Haru Family เริ่มจากเราชอบเที่ยวกับ



                                                                      Photographer : Chaiwat Kangsamrit   Makeup Stylist : Manunchaya Kuhasuwan   Stylist : Yuttanon Jithjai
                                                                   Hair Stylist : Paweethida Wattanachaipitak   Cloth & Accesories : P.mith, Leisure project , Fillipo tailor, Ake Ake




         CHIAN_HA18Aug_P8-P11.indd   9                                                                                                   7/24/2562 BE   22:27
   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14