Page 9 - ISSUE14_APRIL
P. 9
W W W . H E A L T H A D D I C T . C O M
ขับเคลื่อนชีวิตด้วย “การสร้างวินัย” และ Passion ในสิ่งที่รัก”
“การจัดสรรเวลาที่ดีสร้างวินัยให้กับตัวเอง คือต้องมีความรับผิดชอบ อย่างเวลารับงานชกมวยของไทยไฟท์ก็จะ
ไม่รับงานละครอื่นเพิ่มช่วงนั้นเลย เพราะต้องทุ่มเทและจัดเวลาให้กับการซ้อมมวยแบบเต็มที่ อีกอย่างที่ขาดไม่
ได้ คือการสร้างวินัยด้วยแพชชั่นที่มาจากใจ ถ้าใจเราอยากท�าอะไร แน่นอนว่าความมุ่งมั่นจะไม่ท�าให้เราอยาก
เสียอะไรไปเลย ผมจะลุกขึ้นมาท�าสิ่งต่างๆ โดยก�าหนดตารางเวลาแล้วท�าทันที จัดตารางคอยเตือนตัวเอง
เอาไว้ตลอด เพราะมันจะมีโมเม้นต์แบบ เดี๋ยวค่อยท�าก็ได้มั้ง ท�าให้เมื่อจัดตารางแล้วต้องลงมือท�าเลย”
กีฬา สอนให้รู้จัก “ชัยชนะ” และ “ความพ่ายแพ้” เสมอ
“ผมเชื่อว่าการแข่งขันกีฬาทุกประเภทต้องมีแพ้ มีชนะอยู่แล้ว ถ้าเราแพ้ เราก็สามารถเรียนรู้ข้อผิดพลาดจากการ
แพ้ตรงนั้นได้ สมมุติว่าถ้าคุณได้ขึ้นสังเวียนกับนักชกในต�านานแล้วแพ้ มันสามารถท�าให้คุณได้เรียนรู้ทักษะต่างๆ
จากนักชกท่านนั้นได้ และผมก็มองว่าคนคนนั้นควรจะต้องภูมิใจในตัวเองด้วย เป้าหมายหลักของผมจริงๆ เวลา
แข่งขันกีฬาคือจะไม่เกี่ยวกับแพ้หรือชนะเลย ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง การลงแข่งขันมันคือการเรียนรู้ที่จะพัฒนา
ทักษะของตัวเองอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นผมจะมีสมาธิ ใจเย็น ไม่กดดันตัวเอง”
ล่าฝันด้วยใจที่มุ่งมั่นและไม่มองว่าทุกอย่างเป็น “อุปสรรค”
“ส�าหรับผม การได้ขึ้นชกมวยครั้งแรกที่ภูเก็ต มันคือความฝันของผมจริงๆ ผมจะมุ่งมั่นท�าความฝันให้ส�าเร็จด้วย
การตั้งเป้าแล้วลุย ตอนนั้นทุกวันที่ซ้อมมวยกว่า 7 ชั่วโมง ไม่เคยมองว่ามันยาวนานเลยนะ คิดแค่ว่า อ้าว! ตีสอง
คือต้องเลิกซ้อมแล้วใช่มั้ย? พอนอนหลับก็ฝันถึงมวย ก่อนนอนก็คิดถึงมวย (หัวเราะ) ในหัวมีแต่มวยจริงๆ เหมือน
ชีวิตนี้ขาดมันไม่ได้ แล้วพอได้ขึ้นชกเสร็จ นั่นล่ะคือสิ่งที่ท�าให้ผมสัมผัสกับฝันที่เป็นจริง แล้วน�้าตามันก็ไหลออก
มาเลย”
การประสบความส�าเร็จในชีวิตจริงๆ คือการได้ท�าในสิ่งที่ใจรัก
การประสบความส�าเร็จในมุมมองของเขาคือการได้ท�าในสิ่งที่รัก อย่างการขึ้นต่อยมวยกับไทยไฟท์ครั้งแรกท�าให้
เขารู้สึกเหมือนได้รางวัลสูงสุด “ผมคิดว่าถ้าวันนึงแก่ตัวไป รู้ตัวเองว่าโอกาสที่จะขึ้นชกมวยเคยมาอยู่ตรงหน้า
แต่กลับไม่ท�า แบบนี้คงต้องมานั่งเสียดายทีหลังชัวร์ พอคิดได้แบบนี้เลยตัดสินใจขึ้นชกไปเลยครับ และก็คอย
พัฒนาทักษะตัวเองไปเรื่อยๆ”
ตารางออกก�าลังกายในสไตล์ของ ปีเตอร์
“ตารางออกก�าลังกายจะเปลี่ยนตามสถานการณ์ ส�าหรับผม มวยก็คือการออกก�าลังกายประจ�าตัวอยู่แล้ว เช่น ก่อนขึ้น
ชกมวยล่าสุด ตารางซ้อมมวยที่จัดไว้คือ ตั้งแต่หกโมงเย็นหรือหนึ่งทุ่มถึงตีสอง แต่วันไหนที่ไม่มีเวิร์คช็อปก็จะมีเวลาตั้งแต่
ห้าหรือหกโมงเย็นจนถึงห้าทุ่ม ผมไม่เคยมองว่าต้องมีตารางออกแบบมาเพื่อบังคับให้ท�าแบบตายตัวเลย รู้สึกว่าตัวเองอยาก
เวิร์คเอ้าท์อยู่แล้ว แบบ…เดี๋ยวเช้านี้ตื่นมาจะได้ซ้อมมวยแล้ว ก็รู้สึกดีใจ มีพลังขึ้นมาเองอะไรท�านองนั้นมากกว่า”
ถ้าไม่ใช่นักแสดง นายแบบ นักมวย การท�าหน้าที่ช่วยเหลือสังคม ต้องมาก่อน!
“ถ้าวันนี้ผมไม่ใช่ปีเตอร์ที่แสดงละคร เดินแบบ หรือชกมวย ผมคงจะเป็นศาสตราจารย์ หรือครูสอนหนังสือเด็กๆ ท�ามูลนิธิ
เพื่อสังคม ช่วยน้องหมา เปิดโรงเรียนให้เด็กๆ ในอนาคต เพราะผมมีคติประจ�าใจว่า การแบ่งปันต่อสังคมเป็นสิ่งส�าคัญมาก
และก็เชื่อว่าถ้าเราสามารถจัดสรรเวลาให้กับตัวเองได้ดีแล้วเนี่ย เราก็จะมีเวลาไปช่วยเหลือสังคมหรือคนอื่นๆ ได้ด้วย”
อยากจะ “Healthy” ไม่ใช่แค่การออกก�าลังกาย
“มีคนเคยบอกนะว่าผมเป็นคนค่อนข้างเฮลธ์ตี้ ซึ่งความเฮลธ์ตี้ส�าหรับผมคือการนอนให้พอ กินสารอาหารให้ครบ อย่างเมนู
อาหารที่ทานคือ ต้องมี แครอท ผัก ผลไม้ นม โปรตีนหรือไขมันดีเพื่อให้ร่างกายมีวิตามินแร่ธาตุเพียงพอต่อวัน และออก
ก�าลังกายสม�่าเสมอ เพราะสามอย่างนี้ถือว่าเป็นตัวแปรที่มีความส�าคัญต่อสุขภาพของเราอย่างมาก”
หยุดความเฉื่อย! ด้วยการสร้างแรงจูงใจในการออกก�าลัง
ปีเตอร์บอกกับเราว่า ถ้ามองในเชิงจิตวิทยา คนเรามักจะชอบผัดวันประกันพรุ่ง จะดีกว่ามั้ย? ถ้าเราใช้คนที่รักเป็นแรงผลัก
ดันในการเริ่มออกก�าลังกายและดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น “จากประสบการณ์และหลักจิตวิทยา ถ้าคุยกับตัวเองว่าพรุ่งนี้ฉัน
จะออกก�าลังกายล่ะก็ สุดท้ายก็จะลงเอยด้วยการเลื่อนเวลาออกไปเรื่อยๆ ผมอยากให้คุณลุกขึ้นมาท�าเลย พอท�าไปเรื่อยๆ
ร่างกายก็จะค่อยๆ หลั่งสารออกมา ท�าให้เราเสพติดไปเอง และถ้าแรงผลักดันให้ตัวเองยังไม่พออีก อยากให้คุณคิดถึงคน
ที่เป็นห่วงและรักคุณอยู่ให้มากๆ ลองหันมาใส่ใจ ดูแลตัวเองให้แข็งแรงเพื่อคนที่คุณรัก น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด”
เป็นยังไงล่ะ ได้ยินเขาบอกแล้วก็อยากจะลุกขึ้นมาออกก�าลังกายกันเลยใช่มั้ยล่ะ วันแรกมันอาจจะรู้สึกยาก แต่เชื่อ
เถอะว่าถ้าผ่านไปซักหนึ่งอาทิตย์ คุณจะรู้สึกสนุกกับมันจนกลายเป็นแอคทิวิตี้ที่ขาดไม่ได้เลยล่ะ
เป้าหมายหลักของผมจริงๆ เวลาแข่งขันกีฬา คือจะไม่เกี่ยวกับ
แพ้หรือชนะเลย ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง การลงแข่งขันมันคือ
การเรียนรู้ที่จะพัฒนาทักษะของตัวเองอยู่เสมอ เพราะฉะนั้น
ผมจะมีสมาธิ ใจเย็น ไม่กดดันตัวเอง A D D I C T | 9
Photographer : Chaiwat Kangsamrit Hair Stylist : Paweethida Watthanachaiphithak Stylist : Yuttanon Jithjai
Makeup Stylist : Manunchaya Kuhasuwan Cloth : Leisure project, Takara wong, Cherit, Dr.martens
A D D I C T | 9
CHIAN_HA14Apr_P8-P11.indd 9 3/25/2562 BE 23:15