Page 9 - ISSUE25_MARCH
P. 9
เก่งได้ เพราะโดนบูลลี่
เราถามย้อนไปตอนสมัยที่เขายังเด็ก เพราะรู้มาว่าเขาเคยเป็นนักกีฬากอล์ฟที่มี
แววมากๆ ในตอนนั้น “ผมเลือกเล่นกอล์ฟเพราะว่าย้ายไปโรงเรียนนานาชาติที่เป็น อีกหนึ่งความสุข คือการได้เอาสิ่งที่รัก ไปใช้ในสิ่งที่เรียน
หลักสูตรอังกฤษ ด้วยความที่ตัวโรงเรียนตั้งอยู่ในสนามกอล์ฟ เด็กทุกคนใน อีกหนึ่ง Activities ที่ถือได้ว่าเขาเป็น Specialist คนหนึ่งเลย
โรงเรียนจะถูกบังคับตีกอล์ฟ ตอนแรกผมก็ตีไม่เป็นเลย ก็โดนเพื่อนล้อ เพราะเค้า คือ การถ่ายภาพ ซึ่งเขาเป็นผู้ชายที่เล่นกล้องจริงจังคนหนึ่งเลย
ตีเป็นกันอยู่แล้ว ผมเลยเอาความรู้สึกนี้มาเป็นแรงผลักดัน ซ้อมมากขึ้น จนในที่สุด “จริงๆ ชอบถ่ายรูป ตั้งแต่ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว คือผมรู้สึกว่า
ก็ชนะพวกเขาได้ ก็เลยติดใจ ก็เล่นมาเรื่อยๆ หลังๆ นี่ก็เล่นสนุกๆ แต่พอมาถ่าย ผมมองเห็นทุกอย่างเป็นแบบ Graphic เป็น Composition
ละครเรื่อง “Tee ใครทีมันส์” ก็ต้องกลับไปรื้อฟื้นใหม่ ไปท�าการบ้านอยู่กับโปรฯ เลย” แล้วตอนแรกที่อยากเข้าสถาปัตย์ แต่กลับมาเลือกเรียนออกแบบ
นิเทศศิลป์ที่นี่ ก็เอาความชอบจากสถาปัตย์ จากการถ่ายภาพ
เข้าไปอยู่ในงานกราฟิก แล้วก็เรียนถ่ายฟิล์มตั้งแต่ปี 1 ก็ต้องอยู่
ถึงจะจริงจังแค่ไหน...แต่เรื่องเรียนต้องมาก่อน
เขาเล่าให้ฟังถึงความจริงจังของการเล่นกอล์ฟในสมัยเด็กๆ “ตอนนั้นเล่นจริงจัง ในห้องมืดเองอะไรเอง ผมก็ถ่ายมาเรื่อยๆ แล้วหลังๆ พอช่วงงาน
เคยไปแข่งครั้งแรกแล้วชนะเลย เคยคิดอยากจะเป็นทีมชาติเหมือนกัน แต่พอมา Thesis ก็จะมายิ่งอินเรื่องกล้องฟิล์ม กลายมาเป็นของสะสมของ
ถึงจุดช่วงเข้ามหาวิทยาลัย ผมตัดสินใจว่าผมเลือกเรียนดีกว่า เพราะตอนนั้นก็ต้อง ผมไปด้วย ก็รู้สึกแฮปปี้กับการเล่นฟิล์มมาก เพราะทุกอย่างมัน
ประหยัดเงินให้คุณแม่ด้วย แล้วก็อยากโฟกัสเรื่องเรียนมากกว่าด้วย กอล์ฟก็เลย เป็น Manual หมด แล้วพอเป็น Manual มี 36 ภาพ ผมก็รู้สึก
กลายเป็น Hobby สนุกๆ แทน” พอมาเข้าเรื่องเรียนแล้ว เราเลยถามต่อถึงความ ว่าภาพแต่ละภาพมันมีคุณค่ามาก”
สนใจว่าท�าไมถึงเลือกเรียนสาย Communication Design “ความจริงตอนแรก
อยากเป็นสถาปนิก ตอนนั้นไปดูมหาวิทยาลัยแล้วชอบที่มหิดลมาก บรรยากาศ ใช้กล้องฟิล์มเก็บ Moment ประทับใจ
รอบๆ ก็ดี ผมก็เข้าไปคุยกับอาจารย์ แล้วก็มีเพื่อนอยู่ด้วย ก็เลยอยากเรียนที่นี่ เลย เสน่ห์ของกล้องฟิล์มส�าหรับเขา มันเป็นอะไรที่มีค่า
หาวิชาที่ใกล้เคียง ก็ได้ชื่อ CDP (Communication Design Program) มา มากๆ “กล้องฟิล์มมันมีเสน่ห์ที่มันได้ลุ้น มันไม่รู้ว่า
เป็นแนว Graphic Design for Business ตอนแรกก็ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกับอะไร จะออกมาเป็นยังไง มันจะเป็นอย่างที่คิดมั้ย เค้า
รู้แค่มันมีค�าว่า Design เฉยๆ พอเข้าไปก็เริ่มรู้ว่าเรียนอะไรบ้าง รู้สึกว่างานหนัก บอกกันนะว่าถ่ายกล้องฟิล์มแล้วจะคิดเยอะขึ้น แต่
มากตลอดหลักสูตร 5 ปี แต่ก็สนุกมากๆ เป็นช่วงที่ผมแฮปปี้มากๆ” ผมกลับคิดน้อยลง ผมก็จะถ่ายแบบเก็บความสุข
Moment นั้นๆ มากกว่า แล้วแต่ละภาพที่ถ่ายมา
ทุกภาพ ถ้าย้อนกลับไปผมจ�าได้หมดเลย ผมใช้
เอาความรู้ที่เรียน... มาท�าประโยชน์เพื่อสังคม
ขึ้นชื่อว่าเป็นนักออกแบบ ก็ต้องมีโปรเจกต์ที่ประทับใจกันบ้าง “ที่รู้สึกเป็น Mas- กล้องตัวไหน ใช้เลนส์ตัวไหน ใช้ฟิล์มตัวไหนถ่าย จ�า
terpieces ก็มี Thesis ของผมที่อยู่ใน YouTube ชื่อว่า ‘แกว่ง แกร่ง อยู่ที่จะ ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในภาพนั้นบ้าง แล้ว Mood &
เลือกมอง’ แล้วก็มีงานปฏิทินนายณภัทร ซึ่งทุกปีผมจะท�าเป็น Project CSR ให้ Tone ที่ให้ออกมา มันก็ไม่เหมือนกับกล้องดิจิทัล”
ได้อย่างน้อยปีละครั้งสองครั้ง คือที่ท�าเป็น CSR เพราะว่าไม่อยากลืมสิ่งที่เรียน
มาเกี่ยวกับการออกแบบ เพราะฉะนั้นงาน CSR ทุกอย่างก็ท�าโดยตัวผมเอง แล้ว
ผมก็อยากให้มันเป็นประโยชน์กับคนอื่นด้วย อย่างปฏิทินนายณภัทรปี 2019 ก็ “ดนตรี” ช่วยท�าให้เขาเข้าใจตัวละครมากขึ้น
เคยเห็นภาพเขากับกีตาร์คู่ใจอยู่บ่อยๆ เลยพลาดไม่ได้ที่จะถามเรื่องดนตรีบ้าง ว่าจริงๆ แล้ว
เอางาน Thesis มาต่อยอด ก็ได้เงินไปช่วยโรงเรียนที่ขาดแคลนได้ 6 โรงเรียน”
ดนตรีส�าคัญกับเขายังไง “การแสดงของผมก็เอาดนตรีเข้ามาช่วยนะ เหมือนตัวละครแต่ละตัว
ผมก็จะหาเพลงเข้ามาอยู่ในตัวละครนั้น จะหาซัก 3-4 เพลงแล้วแต่ Mood & Tone ของ
มัน เหมือนพอฟังเพลงแล้วผมก็จะเข้าใจอารมณ์ของตัวละคร แล้วก็เป็นการเปลี่ยน Mood
อารมณ์ได้เร็วมาก เหมือนเป็นเทคนิคของตัวผมเอง”
ผมเชื่อว่าการเริ่มต้นของทุกวันมัน 3 สิ่งที่นายณภัทร Addict มากที่สุดในตอนนี้
• กล้อง Leica M6J
ควรจะตื่นเช้ามาแล้วแฮปปี้มันถึงจะดี กล้องโมเดิร์นที่หน้าตาวินเทจ ความสุขของผมคือเอาเลนส์นู้น
ซึ่งวันไหนถ้าตื่นเช้ามาแล้วเจอเรื่อง มาประกอบกล้องนี้ เอามาเช็ดนู่นเช็ดนี่แฮปปี้มาก
• ดนตรี
ไม่ดี มันก็จะรู้สึกนอยด์ไปทั้งวันเลย ทั้งฟังเพลง เล่นกีตาร์ ชอบการไปขึ้น Festival เพลงแรกที่
เล่นกีตาร์คือเพลงกรุงเทพมหานคร A D D I C T | 9
• เพื่อน
Photographer : Surasak Ittirit Makeup Stylist : Rinpapak Sookariyakul
Hair Stylist : Piyawat Matarodjanaponsin Stylist : Preuksapak Chorsakul ไปเจอเพื่อนแต่ละครั้งมันเหมือนเราได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น
Assistant Stylist : Sopon muadrung Cloth: CK Calvin Klein, P.MITH, Paul Smith ได้ Connection เพิ่มขึ้นรู้สึกเป็นช่วงที่ผ่อนคลายที่สุด