Page 14 - ISSUE22_DECEMBER
P. 14
14 REAL LIFE STORY
เธอต้องรับมือกับ...
ความสูญเสีย ของคนในครอบครัว
ติดกันถึง 2 ครั้ง
ภายในเวลาไม่ถึง 3 ปี
พูดถึงโรคมะเร็ง เชื่อว่าเป็นโรคที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดกับตัวเอง และ
คนที่เรารักในครอบครัว แต่กับเธอคนนี้ โรคมะเร็งนั้นเกิดขึ้นกับคนที่
เธอรักที่สุดถึง 2 คนในครอบครัว ในช่วงเวลาที่ห่างกันไม่ถึง 3 ปี
เธอต้องสตรอง เพื่อท�าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ดีที่สุด แม้ว่าสุดท้ายแล้ว
ตัวเองจะตกอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงก็ตาม ต่าย-พฤศจี เหรียญทอง
อายุ 43 ปี เธอเล่าให้เราฟังว่าเหตุการณ์ครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับ
น้องชายในตอนนั้นคือทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนไม่ทันได้ตั้งตัว
แถมช่วงนั้นเธอเองก็ก�าลังตั้งท้องได้ 7 เดือน
น้องชายอยู่ออสเตรเลีย เเข็งแรง + ดูเเลสุขภาพตลอดเวลา
เธอเล่าว่าน้องชายเป็นคนที่ดูแลสุขภาพดีมาก เข้าฟิตเนส ออกก�าลังกาย กินอาหารเสริม เหล้าเบียร์
กินบ้างแต่ไม่ได้กินเยอะ ชอบเที่ยวสไตล์แอดเวนเจอร์ จนกระทั่งมีอยู่ช่วงหนึ่งเขาบ่นว่าท้องอืด ซึ่ง
ไม่มีอาการอื่นๆ เลยนอกจากท้องอืด “ตอนนั้นเราคุยกับน้องตลอดเวลา เลยเเนะน�าว่าให้ลองกิน
ยาแก้ท้องอืดดู ซึ่งพอกินเข้าไป เขาก็บอกว่ารู้สึกดีขึ้น เราก็เลยปล่อยไป ไม่ได้สนใจอะไรกันอีก”
หมอบอกกับเราตลอดว่าเราเนี่ย
เสี่ยงสุดๆ เพราะตระกูลฝั่งของแม่ ในวันที่น้องกลับมาเยี่ยมบ้าน ก็ไม่ได้ตรวจร่างกาย
“ด้วยความที่ชะล่าใจก็ไม่ได้เอ่ยปากบอกน้องว่าให้ไปตรวจร่างกายแบบละเอียดหน่อยมั้ย สุดท้าย
เขาก็กลับออสเตรเลียไปโดยที่ไม่ได้ตรวจร่างกายอะไรเลย แต่พอกลับไปอาการท้องอืดก็กลับมา แต่
ก็จากไปด้วยมะเร็งถึงสามคน ไม่มีอาการปวดท้อง ท้องไม่บวม ไม่โตอะไรใดๆ ทั้งสิ้น จนกระทั่งวันที่รู้คือ เขากลับจากปาร์ตี้
ประมาณ 4 ทุ่ม ปวดท้องมากจนเพื่อนต้องพาไปหาหมอ ต้องแอดมิท 1 คืน เพื่อรอตรวจให้ละเอียด”
ตั้งแต่คุณลุง คุณป้า จนกระทั่ง ปรากฏว่าหมอที่นั่นสงสัยว่าเขามีก้อนเนื้อที่ตับน�้าหนัก 4-5 กิโลฯ ซึ่งมันเป็นขนาดที่ค่อนข้างใหญ่
มาก “ตอนที่เขาโทรมาบอกเราว่าเป็นหนัก ให้พาพ่อกับแม่มาได้มั้ย เพราะหมอบอกว่าก้อนใหญ่
แม่เราเอง เราเลยให้ความส�าคัญ มาก ขึ้นเครื่องไม่ได้กลัวว่าตับจะแตก เพราะเเรงดันอากาศ” วินาทีนั้นเธอตกใจมาก
กับการตรวจร่างกายแบบ
ช็อกที่สุดคือ หมอบอกว่าเขาจะอยู่ได้แค่ 2 สัปดาห์
สุดท้ายผลออกมาว่าน้องชายของเธอเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย ซึ่งหมอที่นั่นบอกว่าเขาอยู่ได้ไม่เกิน
ละเอียดทุกปี 2 อาทิตย์ “เราช็อกไปเลย ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วจนไม่ทันได้ตั้งตัว กดดัน และเครียดมากว่าจะเอา
ยังไงดี ตัวเราเองก็ท้องแก่ขึ้นเครื่องไม่ได้ พ่อแม่เราก็ไม่สามารถปล่อยให้เขาขึ้นเครื่องไปกันสอง
คนได้ เลยฝากให้พี่ที่รู้จักกันช่วยดูแลน้อง คอยอัพเดทอาการกันวันต่อวัน เชื่อมั้ยว่าแค่อาทิตย์
เดียว เขาเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ท้องโต แทบไม่เหลือเค้าเดิมเลย เราเลยตัดสินใจคุยกับพี่
ที่สนิทให้ช่วยเอาน้องกลับมาไทยให้หน่อย อย่างน้อยให้เขากลับมาเสียที่ไทยก็ยังดี”
D E C E M B E R 2 0 1 9 | I S S U E 2 2