‘หัวร้อน รอไม่เป็น’ เช็คสิว่าเป็นเราหรือเปล่า?
ถึงอากาศจะร้อนจนต้นกระบองเพชรยังต้องร้องขอชีวิต บวกกับที่มีงานวิจัยของห้องปฏิบัติการอณูชีววิทยา Medical Research Council ในสหราชอาณาจักร ระบุว่าจริงๆ แล้วมนุษย์เราอาจจะ “หัวร้อน” กว่าที่คิด นั่นเพราะสมองของเรานั้น ทำงานตามปกติด้วยอุณหภูมิเฉลี่ยถึง 38.5 องศา ซึ่งสูงพอๆ กับอุณหภูมิร่างกายที่วัดได้เวลาเป็นไข้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะหยิบมาใช้เป็นข้ออ้าง แสดงพฤติกรรมหัวร้อน วีนเหวี่ยง รอไม่ได้ แต่ถ้าบอกว่าเป็นเพราะ Hurry Sickness หรือโรคทนรอไม่ได้...นั่นก็อีกเรื่องมีอยู่จริง (เหรอ) “โรคทนรอไม่ได้”
โรคทนรอไม่ได้ หรือ Hurry Sickness คือ พฤติกรรมที่มีอาการใจร้อน หงุดหงิด และฉุนเฉียวง่าย กับการรอคอยอะไรก็ตาม โดยมักจะเกิดขึ้นกับคนยุคใหม่ที่เสพติดการใช้โซเชียลมีเดีย และยังอาจเป็นผลกระทบจากการทำงานกับคอมพิวเตอร์ด้วยเช่นกัน พูดแบบนี้อาจทำให้เข้าใจว่าโรคทนรอไม่ได้นี้เป็นโรคใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นในยุคดิจิทัล ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่างในชีวิตดำเนินไปอย่างรวดเร็วทันใจ จนกลายเป็นความเคยชินกับการทำอะไร แล้วต้องได้ดั่งใจทันที แต่จริงๆ ที่มาของคำว่า Hurry Sickness เกิดขึ้นจากแพทย์รักษาโรคหัวใจ 2 ท่าน คือ Meyer Friedman และ Ray Rosenman ที่นิยามไว้ตั้งแต่ในปี ค.ศ. 1974 แล้ว และถึงแม้ว่าดูเผินๆ (เหมือน) จะไม่ใช้โรคร้ายแรง แต่ถ้าปล่อยไว้นานวัน อาจรุนแรงมากขึ้นจนถึงขั้นควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ จากหลายๆ เคสที่เห็นในข่าวว่าเกิดปัญหาจาก...“คนหัวร้อน”
หัวร้อนมั้ย...ไหนเช็คสิ!
วิธีเช็ค “หัวร้อน” ไม่ใช่แค่ยกมือแตะหัว ถึงจะบอกได้ แต่ต้องดูจากสัญญาณเหล่านี้
- รีบไปหมด ทำทุกอย่างเหมือนอยู่ในเกมการแข่งขัน
- ชอบทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมกัน
- ถ้าต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ล่าช้า หรือรอคอยแม้จะเป็นเวลาสั้นๆ แต่ก็จะรำคาญหรือหงุดหงิดใจ แบบเล่นใหญ่เกินเบอร์
- ชอบคิดว่าเวลาในแต่ละวันมีไม่เพียงพอ
- ชอบขัดจังหวะ หรือพูดแทรกคนอื่นบ่อยๆ
- ยึดติดกับลิสต์สิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน และถ้าทำได้ไม่ครบตามที่ตั้งใจก็จะเฟลเกินเรื่อง
- มักจะเลือกแถวที่สั้นที่สุดเวลาที่ต้องต่อคิว และถึงขนาดยอมเปลี่ยนแถวไปมาถ้าจะทำให้เร็วขึ้น...แม้แค่ 1 คิวก็ตาม
- รับบทสายแทรกบนท้องถนนเวลาขับรถ และจะทำทุกอย่างให้ได้ออกตัวเร็วกว่าเสมอ
ถ้าเช็คแล้วว่ามีอาการเหมือนอย่างที่ว่ามานี้ 3 ข้อขึ้นไป เห็นทีคุณอาจกำลังรับบทเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าท่านหนึ่ง ที่คนรอบข้างต้องร้องว่า “อยู่ใกล้เธอแล้วมันอุ่น จน (ไม่) อยากไปไหน ไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร คนหรือไมโครเวฟ” แต่ไม่ใช่เพราะเป็นคนอบอุ่นนะ น่าจะเป็นเพราะหัวร้อนเก่งอย่างที่ว่ามามากกว่า