โพรไบโอติกส์ vs พรีไบโอติกส์ แยกให้ออกต่างกันยังไง?

จุลินทรีย์ ไม่ได้ดีแต่สร้างเรื่องวุ่นวายให้ร่างกายเท่านั้น บางชนิดก็มีประโยชน์ และเป็นที่ต้องการของร่างกายเหมือนกัน ที่คุ้นๆ หู ก็ “โพรไบโอติกส์” ในโยเกิร์ตและนมเปรี้ยว ที่เรากินกันเป็นประจำ เพราะเชื่อว่าช่วยในการปรับระบบลำไส้ แต่พอมีทีมนักวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์ไวซ์มานน์ของอิสราเอล ตีพิมพ์รายงานในวารสาร Cell บอกว่าการกินจุลินทรีย์ที่ยังมีชีวิตในผลิตภัณฑ์ที่วางขายทั่วไปตามท้องตลาดนั้น แทบจะไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ต่อร่างกาย ก็เลยต้องกลับมาคิดอีกทีว่าที่กินๆ อยู่ถูกแล้วมั้ยนะ เอ๊ะ! หรือว่าจะต้องหันมากิน “พรีไบโอติกส์” กันแน่



พรี (ไบโอติกส์) หรือ โพร (ไบโอติกส์) ต่างกันตรงไหน?
โดยทั่วไปแล้วในร่างกายของเราจะมีจุลินทรีย์อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งที่เป็นประโยชน์ ไม่มีประโยชน์ และไปจนถึงชนิดที่มีโทษต่อร่างกาย แต่ที่ได้ยินอยู่บ่อยๆ ก็คือ “โพรไบโอติกส์” (Probiotics) ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ขนาดเล็ก จัดอยู่ในกลุ่มจุลินทรีย์ชนิดดี ทำหน้าที่ช่วยในการทำงานของระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย ทั้งยังช่วยในการย่อยพรีไบโอติกส์เพื่อกระตุ้นการทำงานของแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ และช่วยให้แบคทีเรียที่ดีในลำไส้เจริญเติบโต โดยแบ่งออกเป็น 

• แลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus) ที่พบได้ในโยเกิร์ต นมเปรี้ยว อาหารหมักดองต่างๆ ซึ่งดีต่อระบบขับถ่าย และเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาไม่สามารถย่อยแลคโตสในนมได้
• ไบฟิโดแบคทีเรียม (Bifidobacterium) เป็นหนึ่งในจุลินทรีย์ที่ดีที่สุด พบได้ในผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนม มีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการลำไส้แปรปรวน
• แซคคาโรไมซิส (Saccharomyces) S.boulardii เป็นยีสต์ชนิดนึงที่ใช้ในการรักษาสมดุลในทางเดินอาหาร เรามักพบบ่อยในชาหมักและในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
• สเตรปโตค็อกคัส เทอร์โมฟิลัส (Streptococcus Thermophilus) จุลินทรีย์ที่ช่วยสร้างแล็กเทส เอนไซม์ที่ทำหน้าที่ในการย่อยสลายน้ำตาลแลคโตสที่มีอยู่ในน้ำนม เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการแพ้น้ำตาลแลคโตส พบได้ในผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับนม

ส่วน “พรีไบโอติกส์” (Prebiotics) คือไฟเบอร์ที่ได้จากผักผลไม้ ซึ่งเมื่อร่างกายได้รับจะยังไม่มีการย่อยหรือการดูดซึมใดๆ ที่ลำไส้เล็ก แต่จะถูกย่อยด้วยโพรไบโอติกส์ที่ลำไส้ใหญ่แทน ซึ่งพรีไบโอติกส์จะมีหน้าที่ช่วยให้แบคทีเรียชนิดดีในลำไส้เจริญเติบโต เมื่อลำไส้มีปริมาณของแบคทีเรียชนิดดีมากขึ้นระบบย่อยอาหารก็จะทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น หรือพูดง่ายๆ ว่า พรีไบโอติกส์เป็นอาหารของโพรไบโอติกส์นั่นเอง 

ทำได้มั้ย? ถ้าอยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน
จะเห็นว่าทั้งโพรไบโอติกส์และพรีไบโอติกส์ต่างก็ให้ประโยชน์ต่อร่างกายในเรื่องของระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย โดยจะทำงานสัมพันธ์กัน แต่ต่างกันตรงที่พรีไบโอติกส์ยังไม่สามารถถูกย่อยที่ลำไส้เล็กได้ จึงต้องอาศัยโพรไบโอติกส์หรือจุลินทรีย์ที่ดีมาช่วยย่อยเพื่อเป็นอาหารให้แบคทีเรียที่ดีในลำไส้ ซึ่งถ้าหากขาดใครไป การทำงานก็คงไม่สมบูรณ์อย่างที่ควรจะเป็นและจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพตามมาได้นั่นเอง

นี่จึงเป็นคำตอบที่ทำให้ต้องเก็บ (เธอ) ไว้ทั้งสอง (คน) ชนิด