โดนใจสายเขียว Food fashion “ใบกระท่อม”

วินาทีนี้คงไม่มีเมกะเทรนด์ไหนมาแรงแซงทางโค้งเท่ากับ “ธุรกิจใบกระท่อม” จริงๆ แล้วหลังจากกระท่อมปลดล็อกออกจากบัญชียาเสพติด อนุญาตให้ปลูก และซื้อขายกันได้อย่างเสรี กระท่อมก็กลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่ได้รับความสนใจในหมู่วัยรุ่นเป็นอย่างมาก ปลุกกระแสกระท่อมให้กลับมาคึกคัก บอกเลยว่าสายเขียวถูกใจสิ่งนี้ เพราะตอนนี้แพร่หลายมาก มีทั้งแบบขายเป็นใบ Car Booth Sale หรือแม้กระทั่งรีวิวการต้มน้ำกระท่อมเพื่อสุขภาพ วันนี้เราเลยมาสรุปให้ฟังว่าเพราะอะไรกันนะที่ทำให้พืชใบกระท่อมกลับมาเป็นกระแสได้ขนาดนี้ 

Mitragynine สารนี้ที่ทำให้กระท่อมยืน 1
หลายๆ งานวิจัยทางเภสัชวิทยาพบว่าสารที่มีอยู่ในกระท่อมมากที่สุดเป็นสารกลุ่มอัลคาลอยด์ (alkaloids) ที่มีฤทธิ์ในการรักษาโรคอย่างแพร่หลาย ซึ่ง “ไมทราไจนีน” (mitragynine) ก็เป็นหนึ่งในนั้นและพบได้เฉพาะในพืชกระท่อม  โดยไมทราไจนีนจะช่วยลดอาการเจ็บปวดได้ เมื่อเรารับสารนี้เข้าไปทางปากในขนาด 200 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ก็มีฤทธิ์เทียบเท่ากับการได้รับมอร์ฟีนในขนาด 5 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมเลยทีเดียว แถมยังมีดีกว่ามอร์ฟีนตรงที่ ใบกระท่อมไม่กดระบบทางเดินหายใจ ไม่ทำให้คลื่นไส้อาเจียน และมีโอกาสติดช้ากว่ามอร์ฟีนด้วย
 

จะเคี้ยวหรือต้มบำรุงกำลัง สู้แดด สู้งาน
หลายๆ คนคงแอบงงว่าทำไมคนที่กินกระท่อมถึงชอบพูดกันว่า กินแล้วสู้แดด สู้งาน ตามภูมิปัญญาชาวบ้านนิยมเอาใบของต้นกระท่อมเด็ดก้านออกและเคี้ยวใบสด หรือเอาใบลงไปต้มชงกับน้ำร้อน ก่อนออกไปทำงานกลางแดด เพราะกระท่อมมีฤทธิ์ทำให้คนที่กินเข้าไปแล้วสู้แดด สู้งาน ทนทานแสงแดดได้มากกว่าคนที่ไม่ได้กินใบกระท่อม หรือเรียกง่ายๆ ว่า "ดีด" แถมใบกระท่อมยังมีสรรพคุณรักษาโรคอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแก้ท้องอืด ปวดท้อง แก้ไอ แก้ปวดเมื่อย ตรงจุดนี้เลยกลายเป็น Signature ของใบกระท่อมที่ทำให้หลายๆ คนหันมาสนใจกันมากยิ่งขึ้น

กระท่อมเป็นพืชในวงศ์เข็มเหมือน “กาแฟ”
อีกหนึ่งความว๊าวก็คือ กระท่อมและกาแฟเป็นเครือญาติกัน โดยทั้งกระท่อมและกาแฟจัดเป็นพืชในวงศ์เข็ม เป็นไม้ยืนต้นที่มีความสูงประมาณ  4-16 เมตร เติบโตได้ดีในที่ชุ่มชื้น ความชื้นสูง ดินอุดมสมบูรณ์ ชอบแสงแดดปานกลาง ซึ่งกระท่อมนั้นจัดเป็นพืชที่มีสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท กาแฟเองก็มีสารในกลุ่มแซนทีนอัลคาลอยด์ (xanthine alkaloids) คล้ายกับใบกระท่อม นั่นจึงเป็นอีกเหตุผลที่ว่าทำไมการดื่มกาแฟทำให้ร่างกายเกิดความตื่นตัว และช่วยลดอาการง่วงได้




คนไทยรู้จักใบกระท่อมตั้งแต่สมัยไหน ?
ถ้าย้อนไปถึงประวัติศาสตร์ กฎหมายในปี พ.ศ.1903 ในสมัยพระรามาธิบดีที่ 1 ก็ไม่ได้บัญญัติให้กระท่อมเป็นสิ่งผิดกฎหมาย คงมีแต่เฉพาะฝิ่นเท่านั้นที่ห้ามกิน เสพ หรือขาย แต่แพทย์พื้นบ้านได้ใช้กระท่อมเป็นตัวยาสมุนไพรไทย แสดงให้เห็นว่า คนไทยได้ใช้กระท่อมกันมาเป็นเวลานานและใช้กันอย่างแพร่หลายนั่นเอง จนมาถึงปี พ.ศ.2518 นี่แหล่ะ ที่มีการกำหนดให้ต้นกระท่อมเป็นพืชหวงห้าม หากคนไหนมีต้นกระท่อมอยู่ในสวนหรือที่ดิน และครอบครองกระท่อม ก็จะถือว่าผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด



ต่างประเทศใบกระท่อมถูกกฎหมายมานานแล้ว

อย่างประเทศญี่ปุ่นมีการจดสิทธิบัตรในส่วนของสารอนุพันธ์ Alkaloid (อัลคาลอยด์) ในใบกระท่อม ซึ่งเป็นสารที่ดีที่สุดในใบกระท่อม ช่วยในการระงับอาการปวด รักษาอาการอ่อนเพลีย ระบบทางเดินอาหาร น่าเสียดายเพราะทำให้ประเทศไทยสูญเสียโอกาสในการพัฒนายาจากสมุนไพรไทยแท้ ทั้งๆ ที่กระท่อมเป็นสมุนไพรประจำชาติไทยและมีการใช้ประโยชน์ทางยามาตั้งแต่อดีต


ไหนๆ ตอนนี้กระท่อมก็ถูกกฎหมายในประเทศไทยแล้ว ใครอยากลองก็ไปหาซื้อกันได้ มีหลากหลายแบบให้เลือก หรือจะเคี้ยวใบสดๆ ก็ได้เหมือนกัน แต่อย่าลืมนะว่ากระท่อมก็ทำให้เสพติดได้และยังมีผลเสียต่อสุขภาพถ้าเราใช้มากเกินขนาด
-->