เมื่อกล้าที่จะฝัน...ก็ต้องกล้าที่จะเริ่มต้น
หลายๆ คนอาจจะคุ้นหน้าสาวสวยตาคมมากความสามารถคนนี้ในฐานะนักแสดงและพิธีกร แต่รู้มั้ยว่า ทัมทิม อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ คือตัวอย่างของมนุษย์ Multi-Tasking ตัวจริง เพราะตอนนี้เธอได้เปิดบริษัทโปรดักชั่นของตัวเอง รวมถึงควบตำแหน่งผู้อำนวยการกองประกวดมิสแกรนด์ แต่ไม่ว่าตารางชีวิตจะแน่นแค่ไหน เธอก็ไม่เคยลืมความฝันในวัยเด็ก ที่วันนี้เธอได้ทำให้มันเป็นจริงแล้ว กับบทบาท “นักสเก็ตน้ำแข็ง”
จุดประกายความฝันบนลานไอซ์สเก็ต
เราเชื่อว่าหนึ่งในความฝันของเด็กผู้หญิงเกือบทุกคนที่เคยได้ไปดูดิสนีย์ออนไอซ์ ก็คงแอบมีซักแว้บที่อยากขึ้นไปโชว์แบบนั้นบ้าง และทับทิมเองก็เช่นกัน “หลังจากที่ได้ดูโชว์ เราเลยขอคุณแม่ไปเรียนสเก็ตน้ำแข็งตอนช่วง ม.2-3 แต่เรียนได้แค่เดือนสองเดือนก็ต้องพักไปเพื่อหันไปโฟกัสที่การเรียนมากกว่า” แต่หลังจากผ่านไปเกือบ 10 ปี เธอก็มีโอกาสได้กลับมาเติมเต็มความฝันในวัยเด็กอีกครั้ง “ครั้งนี้เราได้ตัดสินใจกลับมาเล่นจริงจัง ด้วยความพร้อมเรื่องเวลา และมีกำลังในการสนับสนุน ซึ่งเป็นช่วงที่เรียนจบปริญญาตรีและกำลังเรียนต่อปริญญาโทพอดี”
อยากประสบความสำเร็จ...ต้องกล้าที่จะเริ่มต้น
และสำหรับรายการแรกที่ได้ลงแข่งนั้น เธอเล่าว่าใช้เวลาในการเตรียมตัวฝึกซ้อมเพียงแค่ 6 เดือน เท่านั้นเอง “ตอนนั้นเป็นรายการแข่งสเก็ตเอเชียที่มาเลเซียทั้งหมด 5 รายการ ถือว่าเยอะพอสมควร ซึ่งจริงๆ ก็แอบกังวลเหมือนกัน เพราะเราเพิ่งเริ่มกลับมาเรียนได้ไม่นาน ยังไม่มีประสบการณ์แข่ง เวลาฝึกซ้อมก็ไม่ได้มีเยอะเหมือนคนอื่น แต่คิดว่าอย่างน้อยก็ให้เป็นประสบการณ์ซักครั้งหนึ่งในชีวิตก็ยังดี” และเมื่อตัดสินใจลงแข่งแล้ว เธอก็เริ่มรู้สึกอินและสนุกไปกับการได้ครีเอทสิ่งต่างๆ “ได้คิดคอนเซ็ปต์โชว์เอง เลือกเพลงเอง ตัดต่อเอง คิดคอนเซ็ปต์เสื้อผ้า มันเหมือนได้เอาความฝันตอนเด็กมาทำให้เป็นจริง ซึ่งเราเน้นให้คนดูมีความสุขกับโชว์มากกว่าคิดเรื่องการแข่งขัน” และอีกหนึ่งสิ่งที่เธอมุ่งมั่นตั้งใจมาตั้งแต่ต้นก็คือ การเผยแพร่ความเป็นไทยให้ต่างชาติได้เห็น ทั้งเพลงไทย ท่าทางแบบไทยๆ เครื่องแต่งกาย ซึ่งเธอเองก็พยายามผสมผสานลงไปในทุกโชว์
อยากพัฒนาตัวเอง...ต้องกล้าที่จะคิดนอกกรอบ
ล่าสุดเธอได้ลงแข่งสเก็ตที่ฮ่องกงในรายการ Skate Hong Kong 2018 ซึ่งเธอเล่าว่าครั้งนี้มีเวลาเตรียมตัวน้อยมาก เลยลงแข่งไปแค่ 3 รายการ และนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้นำเอาเพลงค้างคาวกินกล้วยไปลงแข่งขันด้วย “ตอนแรกโค้ชไม่สนับสนุนเลย เพราะจากประสบการณ์ที่โค้ชเคยเอาเพลงนี้ไปใช้ในการแข่งขัน กรรมการซึ่งเป็นชาวต่างชาติมักจะไม่ค่อยเก็ทกับจังหวะเท่าไหร่” แต่สุดท้ายเธอก็ยืนยันที่จะขอลอง “เราคิดว่าไม่ได้รางวัลก็ไม่เป็นไร แต่เราอยากนำเสนอความเป็นไทยให้ต่างชาติได้เห็น” และในที่สุดเธอก็ประสบความสำเร็จ ได้เหรียญกลับมาพร้อมกับปลดล็อกให้กับโค้ชของเธออีกด้วย
ล้มกี่ครั้ง...ก็ต้องลุก The Show Must Go On
แน่นอนว่าในระหว่างแข่งขัน ย่อมมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ “ยิ่งช่วงซ้อม เราลื่นล้มจนเจ็บตัว มันก็มีที่รู้สึกท้อเหมือนกัน เพราะทำออกมาแล้วมันยังไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ หรือรู้สึกว่าทำไมเรายังทำไม่ได้ซะที” ซึ่งโค้ชจะเป็นคนคอยไกด์ให้เธอ “ถ้าวันไหนที่เหนื่อย ร่างกายมันไม่สามารถไปต่อได้แล้ว โค้ชจะบอกให้หยุด แล้วค่อยเริ่มใหม่ อย่าไปฝืนร่างกายตัวเอง เพราะต่อให้ฝืนซ้อมไปมันก็ไม่มีประโยชน์” และเมื่อถึงวันแข่งขัน ถ้าเกิดพลาดขึ้นมา เธอบอกว่าสิ่งสำคัญคือสติ “ในระหว่างแข่งขันมันก็ต้องมีพลาด มีลื่นล้มเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ล้มแล้วก็ลุกขึ้นมา...ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรก็ต้องโชว์ให้จบ”
เมื่อโอกาสมาถึง จงคว้าเอาไว้ และทำมันให้ดีที่สุด
ตอนนี้เป้าหมายต่อไปคือการไปแข่งเวทีที่เธอใฝ่ฝันมานานอย่าง Adult Figure Skating Championships “อยากไปแข่งมากๆ เพราะเขารับสมัครตั้งแต่อายุ 28 ขึ้นไป ซึ่งเป็นเวทีสำหรับผู้ใหญ่ ต้องบอกก่อนว่ากีฬาไอซ์สเก็ตสำหรับชาวต่างชาติเขาเล่นกันยันอายุ 60-70 เลย ถ้าได้ไปแข่งจริงๆ เราน่าจะเป็นคนไทยคนแรกในรายการนี้เลย” และเพื่อให้มีเป้าหมายในการพัฒนาตัวเอง เธอก็ไม่ได้แค่ลงแข่งอย่างเดียว แต่ยังลงสอบในระดับสากลด้วย “การสอบเลื่อนขั้น ISU เป็นการสอบสำหรับนักสเก็ต ซึ่งการสอบมี 9 เลเวล แต่ละเลเวลก็จะมีท่าและความยากที่ต่างกัน อย่างตอนนี้เราอยู่เลเวล 2 ก็พยายามจะเลื่อนให้ได้ทุกปี ลองดูว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้กดดันตัวเองจนเกินไป”
เรื่องสุขภาพ...แค่หาจุดบาลานซ์ ทุกอย่างก็ลงตัว
“จริงๆ ไม่ได้ซีเรียสกับการกินมาก เพราะเรามีความสุขกับการกิน ไม่อยากทำให้มันกลายเป็นเรื่องยุ่งยาก แค่มีบางช่วงที่เราอาจจะต้องเข้มงวดในการคุมอาหาร” ซึ่งเธอเองก็ได้ทดลองสูตรคุมอาหารมาแล้วหลากหลายรูปแบบ “เคยลองมาเยอะมากสำหรับสูตรการคุมอาหาร แต่สุดท้ายที่ดีที่สุดและเหมาะกับตัวเองที่สุดคือการนับแคลอรี ได้ผลเร็วมาก อาทิตย์เดียวเห็นผลแล้ว ถ้าต้องการลดน้ำหนักแบบเร่งด่วนก็จะใช้วิธีนี้” เธอไม่ได้จำกัดประเภทของอาหาร แต่ใช้การคุมปริมาณ “ไม่เคยห้ามทานของหวานของทอดเลย แต่จะใช้วิธีจัดบาลานซ์ในแต่ละวัน เช่น มื้อนี้ทานเยอะ มื้อต่อไปทานน้อยหน่อย ตอนเที่ยงทานเยอะแล้วมือเย็นงดไปเลย แค่หาบาลานซ์ให้เจอ” ส่วนเมนูโปรดที่เธอที่ต้องมีติดไว้ในตู้เย็นเป็นประจำ เธอบอกว่าต้องสิ่งนี้เท่านั้น “จริงๆ ไม่ต้องมีอะไร มีแค่ข้าวกับปลาแซลม่อนสับ ใส่ซอสถั่วเหลือง แค่นี้ก็ทานได้แล้วค่ะ”
เห็นเป็นผู้หญิงหวานๆ แต่เวลาเที่ยวชอบลุยๆ
ฟังดูอาจจะรู้สึกขัดกับลุคสาวหวานของเธอซักหน่อย แต่ใครจะคิดว่าจริงๆ แล้วเธอนี่แหละชอบกางเต็นท์ เที่ยวธรรมชาติแบบลุยๆ “เราชอบเที่ยวธรรมชาติอย่าง ทะเล ภูเขา น้ำตก ชอบกางเต็นท์มากที่ชอบที่สุดในตอนนี้ต้องเป็นภูทับเบิกเลย ด้วยอากาศและชาวเขาน่ารักมาก” และความชื่นชอบในการเที่ยวธรรมชาตินี้เอง ที่ทำให้เธอมีความฝันที่อยากจะเป็นพิธีกรรายการท่องเที่ยวกับเขาซักครั้งหนึ่ง “ถ้าให้เลือกว่าที่ทำมาชอบทำอะไรที่สุดก็คงจะเป็นงานพิธีกร ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเป็นพิธีกรรายการท่องเที่ยว นี่คือสิ่งที่ชอบและอยากทำมากที่สุด”
นี่แหละ! ตัวตนของทับทิม อัญรินทร์
เมื่อเราให้เธอลองมองย้อนกลับไปที่ตัวเอง และอธิบายความเป็นตัวตนของทับทิม-อัญรินทร์ ให้เราฟัง เธอใช้เวลาคิดไม่นาน และตอบเราอย่างมั่นใจว่า “มองว่าเป็นคนที่มุ่งมั่น ถ้าคิดจะทำอะไรแล้วก็จะทำให้เต็มที่ที่สุด เพราะเราให้ความสำคัญกับโอกาสมากๆ ถ้ามีโอกาสทำอะไร เราขอใช้โอกาสนั้นทำให้ดีที่สุด เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจเอาทีหลัง” ซึ่งเราคอนเฟิร์มเลยว่า คำว่า “มุ่งมั่นและตั้งใจ” คือคาแรคเตอร์ที่อธิบายความเป็นเธอได้ดีที่สุดจริงๆ