เพศทางเลือกต้องระวัง “โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์” เหล่านี้!!!

ไม่ใช่แค่ผู้หญิงผู้ชายเท่านั้น แต่เพศทางเลือก LGBTQ+ เองก็เสี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่แพ้กัน ล่าสุดมีรายงานวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ ที่ทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงใน 16 ประเทศ ซึ่งพบว่ามีมากถึงร้อยละ 98 เป็นชายรักชาย ส่วนอีกร้อยละ 41 มีการติดเชื้อเอชไอวีร่วมด้วย เพราะฉะนั้น ถ้าคิดจะรักสนุก ต้องเตือนตัวเองให้มีสติ ถ้าไม่อยากเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เหล่านี้!



#เชื้อเอชไอวีและเอดส์ เชื้อไวรัสเอชไอวี (Human Immunodeficiency Virus หรือ HIV) ที่เราคุ้นชื่อกันมาแต่ไหนแต่ไรมักพบในน้ำอสุจิ สารคัดหลั่ง สามารถติดต่อได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัย ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ เป็นไข้ ท้องเสีย หนาวสั่น ปวดเมื่อย ต่อมน้ำเหลืองบวม ยิ่งถ้าไม่รีบรักษา การติดเชื้อเอชไอวีก็อาจนำมาซึ่งโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือเอดส์ จนทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ อย่างโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เชื้อราในหลอดลม รวมถึงการติดเชื้อที่บริเวณต่างๆ ของร่างกายตามมาได้

#หนองในแท้และเทียม สำหรับหนองในแท้จะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียไนซีเรีย โกโนเรียอี (Neisseria gonorrhoeae) ซึ่งพบการติดเชื้อสูงในระบบทางเดินปัสสาวะ ส่วนหนองในเทียมเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียคลามัยเดียทราโคมาติส (Chlamydia Trachomatis) ซึ่งมักอาศัยอยู่บริเวณอวัยวะเพศ และท่อปัสสาวะ โดยผู้ที่อยู่ในกลุ่มของเพศทางเลือกมีโอกาสติดโรคหนองในทั้งสองชนิดหากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัย โดยมักเกิดอาการปัสสาวะแสบขัด มีหนองที่อวัยวะเพศ อัณฑะปวดหรือบวม ในกรณีที่เกิดการติดเชื้อที่อวัยวะเพศ แต่หากติดเชื้อที่ลำไส้ตรง มักมีสารคัดหลั่งคล้ายหนองไหลออกมาจากทวารหนัก และมีอาการคันหากเป็นหนองในแท้ ส่วนหนองในเทียมจะมีอาการเจ็บปวดบริเวณทวารหนัก

#ซิฟิลิส เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียทรีโพนีมา แพลลิดัม (Treponema Pallidum) ผ่านการสัมผัสแผลระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ส่งผลให้เกิดแผลบริเวณที่ติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะเพศ ปาก ทวารหนัก รวมถึงผื่นตามร่างกาย ซึ่งสามารถหายเองได้หากติดเชื้อในระยะเริ่มแรก แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้จะทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนต่างๆ เช่น การบาดเจ็บที่สมอง ระบบประสาทเสียหาย ตาบอด เป็นอัมพาต ตามมาได้

#หูดที่อวัยวะเพศ เกิดจากติดเชื้อไวรัสฮิวแมน แพพพิลโลมา (Human Papillomavirus หรือ HPV) ซึ่งมักอาศัยอยู่ในเซลล์เยื่อบุผิว พบได้บริเวณผิวหนัง ช่องคลอด ทวารหนัก ปากและช่องคอ ทำให้เกิดเป็นตุ่มนูนแข็งสีน้ำตาลขึ้นบริเวณที่ติดเชื้อ และอาจเกิดตุ่มขึ้นพร้อมกันจำนวนมาก ร่วมด้วยอาการอื่นๆ เช่น เป็นไข้ ปวดศีรษะ ต่อมน้ำเหลืองโต ซึ่งความน่ากลัวของเชื้อโรคร้ายตัวนี้คือเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกได้ด้วย

#พยาธิในช่องคลอด เกิดจากการติดเชื้อจากปรสิตชื่อ ทริโคโมแนต วาจินาลิส (Trichomonas Vaginalis) ซึ่งแพร่กระจายระหว่างมีเพศสัมพันธ์ พบได้ในผู้ที่มีเพศสภาพเป็นหญิงมากกว่าชาย และทำให้ช่องคลอดรวมถึงท่อปัสสาวะติดเชื้อ ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการคันบริเวณช่องคลอด ช่องคลอดแสบขณะปัสสาวะหรือระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ปากมดลูกบวมแดง มีสารคัดหลั่งไหลสีขาวหรือเขียวออกมาจากช่องคลอด โดยที่ยิ่งต้องระวังให้ดีคือผู้ป่วยบางรายอาจไม่มีอาการ แต่สามารถแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้

#เริม ต้นเหตุมาจากเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์ซิมเพล็กซ์ (Herpes Simplex Virus หรือ HSV) โดยทำให้เกิดแผลพุพองบริเวณปากหรืออวัยวะเพศ รวมถึงปัสสาวะแสบขัด ซึ่งโรคนี้หากเป็นแล้วจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่อาจใช้ยาต้านไวรัสบรรเทาอาการให้ดีขึ้น หรือบางทีในคนที่กลับมาเป็นซ้ำก็อาจไม่ต้องรักษาเพราะสามารถหายเองได้ อีกทั้งอาการที่เกิดซ้ำมักไม่รุนแรงเท่าครั้งแรก

#ช่องคลอดอักเสบจากแบคทีเรีย เมื่อจำนวนแลคโตบาซิลไล (Lactobacilli) ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทำหน้าที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียก่อโรคในช่องคลอดลดลง จึงทำให้เกิดการอักเสบได้ มักพบบ่อยในผู้หญิงที่เคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มาก่อน หรือมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ทำให้มีตกขาวผิดปกติ เกิดกลิ่นเหม็นบริเวณช่องคลอด โดยเฉพาะหลังมีเพศสัมพันธ์หรือหลังมีประจำเดือน นอกจากนี้ยังอาจมีอาการระคายเคืองหรือคันบริเวณช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งผู้ป่วยบางคนก็อาจไม่พบอาการผิดปกติใดๆ จนทำให้ไม่ได้ทำการรักษา กลายเป็นยิ่งเพิ่มความเสี่ยงของโรคหนองใน และกระดูกเชิงกรานอักเสบไปอีก

เพราะฉะนั้นถ้าคิดจะมีเพศสัมพันธ์ทั้งทีก็ควรใส่ใจเรื่องความสะอาดและปลอดภัย แล้วถ้าจะให้ดีก็ฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV ที่เป็นสาเหตุของโรคหูดที่อวัยวะเพศ โดยสามารถฉีดได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ส่วนชาว LGBTQ+ ที่ไม่ได้ติดเชื้อเอชไอวีแต่เกิดไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี ดังนั้นหากได้รับการวินิจฉัยว่าเราควรได้รับยาเพร็พ (Pre-Exposure Prophylaxis หรือ PrEP) ซึ่งสั่งจ่ายโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็จะเป็นอีกหนึ่งทิศทางดีที่ในการรักษา

รักกันก็ต้องช่วยกันเซฟ ชีวิตจะได้ไม่มาพังเพราะความสุขชั่วครั้งชั่วคราว...นี่! เตือนแล้วนะ