เป็นหวัดเรื้อรังอย่าวางใจ เพราะอาจนำไปสู่มะเร็งหลังโพรงจมูก

 
“เป็นหวัดนิดหน่อย เดี๋ยวก็หาย” ประโยคที่ดูจะใช้ไม่ได้แล้วกับสถานการณ์ตอนนี้ ลองแค่ไอจามในที่สาธารณะสักทีสองที คนรอบข้างก็แทบจะพากันหนีหมดแล้ว เพราะกลัวว่าจะเป็นโควิด-19  แต่ถึงแม้จะเช็กจนแน่ใจแล้วว่าไม่ได้มีเชื้อโควิด-19 ก็อย่าเพิ่งชะล่าใจ เพราะอาจยังมีด่านบอสอย่าง ‘มะเร็งหลังโพรงจมูก’ ที่คุณคาดไม่ถึง รออยู่อีกก็ได้ โดยเฉพาะหนุ่มๆ ทั้งหลายยิ่งต้องระวังไว้ให้ดี เพราะจากข้อมูลของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ ได้บอกเอาไว้ว่า โรคมะเร็งหลังโพรงจมูกเป็นโรคที่พบมากในบางประเทศแถบเอเชียอย่าง จีน ไต้หวัน ฮ่องกง รวมถึงประเทศไทยด้วย โดยในบ้านเรามักพบผู้ป่วยมะเร็งหลังโพรงจมูกในเพศชายมากกว่าเพศหญิงถึง 2 เท่า และส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป


 
หวัดเรื้อรัง กับ มะเร็งหลังโพรงจมูก
โดยทั่วไปแล้วไข้หวัดนั้น จะเกิดจากการติดเชื้อไวรัสในโพรงจมูกและไซนัส ซึ่งสามารถหายได้เองประมาณ 5-10 วัน แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มีอาการที่นานกว่านั้น ก็จะเรียกว่าอาการ ‘หวัดเรื้อรัง’ ซึ่งอาจมีอาการที่รุนแรงขึ้น น้ำมูกข้นขึ้น คัดจมูกมากขึ้น ความสามารถในการรับกลิ่นลดลง และ มีการปวดตึงใบหน้า นอกจากนี้ยังอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น มีไข้ ไอ อ่อนเพลีย มีเสมหะอยู่ในคอตลอดเวลา ซึ่งถ้ายังปล่อยไว้นานเข้าทำให้ติดเชื้อลุกลามเข้าลูกตาหรือสมองได้
 
ส่วน ‘มะเร็งหลังโพรงจมูก’ เป็นอาการของเนื้อร้ายที่เกิดขึ้นด้านหลังโพรงจมูก ซึ่งอยู่บริเวณหลังจมูกเหนือเพดานอ่อน โดยในระยะแรกผู้ป่วยมักไม่แสดงอาการ หรือหากมีอาการก็อาจคล้ายกับโรคอื่นจนทำให้สังเกตได้ยาก นั่นก็คืออาการคัดจมูก หูอื้อ ปวดศีรษะ เสียงแหบ เจ็บคอ กลืนลำบาก ซึ่งดูเผินๆ ก็อาจคิดเข้าข้างตัวเองไปได้ว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา แต่หากว่ามีอาการเลือดกำเดาไหล สูญเสียการได้ยิน มีความผิดปกติที่ใบหน้าซีกใดซีกหนึ่ง ตามัว ไปจนถึงมีก้อนเนื้อที่เกิดจากอาการบวมของต่อมน้ำเหลืองที่บริเวณคอทั้ง 2 ข้าง หรือเยื้องไปทางด้านหลังคอโดยที่ไม่มีอาการเจ็บแล้วละก็ คงต้องไปหาหมอตรวจดูอาการหน่อยแล้วล่ะ
 
มะเร็งหลังโพรงจมูก โรคที่ผู้ชายเสี่ยงสูงกว่า
แม้ว่าในทางการแพทย์จะยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคที่แน่ชัด แต่ก็คาดการได้ว่ามีปัจจัยบางอย่างที่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งตัวนี้ คือ
เพศและอายุ ซึ่งโรคนี้มักพบในกลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 30-50 ปี และพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
ที่อยู่ โดยมากจะพบในผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในแถบอื่น
อาหารที่มีเกลือ สารเคมีที่ปล่อยออกมาจากไอน้ำเมื่อปรุงอาหารที่มีเกลือ เช่นปลา และผักดอง อาจเข้าไปในโพรงจมูกและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง ยิ่งหากว่ามีการการสัมผัสกับสารเคมีเหล่านี้ตั้งแต่อายุยังน้อยอาจเพิ่มความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น
ไวรัสเอบสไตบาร์ (Epstein-Barr virus) เป็นไวรัสที่มักก่อให้เกิดอาการของโรคและอาการแสดงที่ไม่รุนแรงนัก เช่น โรคหวัด ซึ่งไวรัสตัวนี้ยังเชื่อมโยงกับมะเร็งที่หายากหลายชนิดรวมถึงมะเร็งหลังโพรงจมูกด้วย
ประวัติครอบครัว หากใครที่มีสมาชิกในครอบครัวป่วยเป็นมะเร็งหลังโพรงจมูกจะยิ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้ได้มากกว่า
การดื่มแอลกอฮอลล์และสูบบุหรี่ สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งในส่วนต่างๆ รวมถึงมะเร็งหลังโพรงจมูกได้
 
แต่ถึงแม้ว่าจะยังไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัด ก็ควรลดปัจจัยเสี่ยงได้ โดยการหลีกเลี่ยงอาหารที่หมักดองด้วยเกลือ รวมถึงงดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ ควบคู่ไปกับการเฝ้าระวังสังเกตอาการผิดปกติต่างๆ เพื่อที่ว่าหากตรวจเจอก่อนตั้งแต่แรก ก็จะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นได้
-->