เปิดเหตุผลที่แท้จริง! เบื้องหลังของการกินอาหาร ‘รสมือแม่’ ที่มากกว่าแค่ความอร่อย

เชื่อเลยว่าคงมีหลายๆ บ้านคงเป็น ที่ไม่ว่าเราจะไปกินร้านดัง รีวิวเริ่ดแค่ไหน ก็สู้ฝีมือแม่เราไม่ได้สักร้าน! นั่นเป็นเพราะว่า ไม่มีใครรู้ใจ และทำอาหารได้ถูกปากเราเท่ากับคนในครอบครัวของเราอีกแล้ว แต่ทุกคนรู้หรือไม่ว่า ประโยชน์ของการกินข้าวบ้านไม่ได้มีดีแค่อร่อย แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงปัญหาสุขภาพที่อาจตามมาได้ ว่าแต่เรื่องนี้จริงเท็จแค่ไหนกันนะ!!



กินข้าวบ้าน คือที่สุดของมื้ออาหาร
เรามักจะมีเรื่องราวที่ได้พูดคุย ปรับทุกข์ ระบายความรู้สึก และแสดงความยินดี บนโต๊ะอาหาร โดยมีผู้ร่วมวงเป็นคนในบ้านของเรา และแน่นอนว่า การทำอาหารร่วมกันเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ของทุกคน ช่วยลดความวิตกกังวล ลดความเครียด และช่วยรักษาภาวะซึมเศร้าได้เป็นอย่างดี สอดคล้องกับคำพูดของ Norman Sussman ผู้อำนวยการโครงการรักษาอาการซึมเศร้าที่ NYU School of Medicine กล่าวเอาไว้ว่า "การพยายามมีส่วนร่วมกับคนที่รู้สึกหดหู่ ด้วยการทำอาหารเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม ในช่วงเวลาที่คุณลงมือทำอาหารจะช่วยหลีกเลี่ยงสภาวะซึมเศร้าได้ ด้วยเหตุผลนี้เอง ในช่วงเวลาที่เราทำอาหาร เราจำเป็นต้องมีสมาธิ จดจ่อกับการปรุงอาหาร และคัดสรรวัตถุดิบเพื่อรังสรรค์เมนูต่างๆ เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า อาหารช่วยทำให้ความสัมพันธ์ของคนในบ้านให้ดีขึ้นได้ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ

ทำอาหารกินเอง ช่วยลดปัญหาสุขภาพได้จริงเหรอ?
การทำอาหารกินเองมีข้อดีอยู่ไม่น้อย คือเราอยากกินอะไรเราจะได้กินแบบนั้นแบบ 100% พูดแบบนี้หลายคนคงนึกไม่ออก ให้นึกถึงเวลาเราอยากกินข้าวผัดกะเพราสักจานหนึ่ง แต่ที่บ้านของเราชอบกินกะเพราที่ใส่แค่ใบกะเพรา พริก และกระเทียม แต่ถ้าเราไปสั่งที่ร้านอาหารสักแห่งหนึ่ง เราอาจจะได้ถั่วฝักยาว พริกหยวก หรือผักชนิดอื่นๆ ที่เราไม่อยากกินใส่มาในผัดกะเพราถุงนั้น นี่จึงเป็นที่มาว่า เราทำกินเอง เราอยากใส่อะไร ไม่อยากกินอะไร เราจะสามารถทำได้ตามใจเราต้องการ อีกหนึ่งสิ่งสำคัญของการซื้ออาหารมากินเอง อาจมีความเสี่ยงปัญหาสุขภาพในระยะยาวที่เราเองอาจไม่รู้มาก่อน
 
  • การเลือกใช้วัตถุดิบ สิ่งสำคัญของการทำอาหารคือ วัตถุดิบต้องสด และสะอาด ซึ่งสิ่งนี้เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าร้านที่เราไปซื้อนั้น เขาจะดูแลและเอาใจใส่เรื่องนี้ได้ดีแค่ไหน ซึ่งเราอาจจะเสี่ยงท้องเสีย ติดเชื้อในกระเพาะอาหาร หากอาหารนั้นมีสารปนเปื้อน หรือทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ ถ้าเราทำอาหารกินเอง เราแทบจะหมดห่วงเรื่องนี้ไปได้เลย เพราะเราก็เดินตลาดเอง เลือกใช้วัตถุดิบ และทำความสะอาดด้วยตัวเราเอง
  • เครื่องปรุงที่เลือกใช้ สิ่งแรกที่เราไม่มีวันรู้เลยคือ ร้านค้าใช้เครื่องปรุงแบบไหนในการปรุงอาหาร ต้องยอมรับกันก่อนว่า คุณภาพของเครื่องปรุงก็มีผลกับสุขภาพของเราเช่นกัน หากเป็นเครื่องปรุงที่ใส่สี ใส่สารกันบูด หรือ เลียนแบบทั้งสีและกลิ่น อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้ ดังนั้นหากเราทำอาหารเอง เราอาจคัดสรรเครื่องปรุงได้ด้วยตัวเอง นี่ยังไม่นับเรื่องของรสชาติ โดยที่ร้านอาหารทั่วๆ ไป มักจะทำรสชาติค่อนข้างจัดจ้าน มันและเค็ม ซึ่งนอกจากจะไม่ถูกปากเราแล้ว อาจจะเสี่ยงเกิดโรคอื่นๆ ตามมาได้ เช่น เบาหวาน โรคไต คอเลสเตอรอลสูง โรคอ้วน เป็นต้น ทั้งนี้หากบ้านไหนกำลังเข้าสู่โหมดการรักสุขภาพ ก็สามารถเลือกใช้เครื่องปรุงทางเลือกของคนรักสุขภาพได้ คราวนี้จะชั่งตวงปริมาณมากหรือน้อย เรากำหนดได้เอง แถมสุขภาพดีกันทั้งบ้านอีกต่างหาก
  • ความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคร้ายได้ อันนี้คือสิ่งสำคัญว่าทำไมการทำอาหารกินเอง จึงดีกว่าการซื้ออาหารกินเอง โดยเฉพาะแม่บ้านที่ซื้อข้าวแกงแบบตักใส่ถุง ที่มีตั้งแต่ ต้ม ผัด แกง ทอด อาหารประเภทแกงมักจะมีคราบไขมันเกาะ หากอยู่ในถุงโดยที่ไม่ได้อุ่น หรือแช่ตู้เย็นเอาไว้ นั่นคือไขมันอิ่มตัว ที่เป็นสาเหตุของคอเลสเตอรอล ไขมันอุดตันในเส้นเลือด และโรคหัวใจ อีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนมักเจอ คือ ปริมาณของอาหารถุงค่อนข้างเยอะ เราอาจจะกินไม่หมด เก็บเข้าตู้เย็นเพื่อเอาไปกินมื้อถัดไป แบบนี้ก็เสี่ยงจะท้องเสียได้ เพราะเราเองก็ไม่รู้เลยว่า ร้านค้าปรุงอาหารสดใหม่หรือไม่ ซึ่งมีความเป็นไปได้เช่นกันที่เราจะได้รับอาหารที่ค้างคืน หรืออาจจะใช้วัตถุดิบที่ไม่สดใหม่
  • ความสะอาดของการปรุงอาหาร นี่คือเรื่องซีเรียสของหลายๆ ครอบครัว และแน่นอนว่าไม่อยากมีใครกินอาหารที่ไม่สะอาดลงท้องของเราหรอกจริงมั้ย ดังนั้นการปรุงอาหารด้วยตัวเองทำให้เราสามารถเพิ่มดีเทลในการทำความสะอาดทั้งวัตถุดิบที่เลือกใช้ อุปกรณ์ในการทำอาหาร และภาชนะที่ใส่อาหารก็สามารถเลือกได้โดยที่ไม่ต้องมีความกังวลใดๆ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้คือรายละเอียดที่เราไม่สามารถบอกร้านอาหารได้ คราวนี้ก็คลายกังวลไปได้เยอะเลย เพราะเราทำเองทั้งหมด

บ้านไหนยังไม่เคยลองทำกับข้าวกินเอง ลองจัดมิตติ้งสักครั้ง เพราะนอกจากจะสุขภาพที่ดีกันทั้งบ้านแล้ว ยังถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์ของคนในบ้าน ไม่แน่นะ! เราอาจจะค้นพบ ‘เชฟตัวจริง’ ของบ้านเราก็เป็นได้
-->