เปิดลิสต์ 'โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์' ที่ไม่ควรละเลย
“คนไม่มีคู่ไม่รู้หรอก!” ก็แน่ล่ะ เพราะโรคหลายโรคก็ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ถึงแม้จะมีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร PLoS Biology โดยทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในสหรัฐฯ พบหลักฐานว่า เชื้อแบคทีเรียชนิดที่มักพบในช่องปากคนเราซึ่งเกี่ยวข้องกับโรคเหงือกและคราบหินปูน อาจทำให้เกิดสภาวะที่เหมาะสมต่อการเกิดโรคช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย (bacterial vaginosis หรือ BV) นั่นแปลว่าโรคดังกล่าวอาจไม่ใช่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่ถึงอย่างนั้นเชื้อแบคทีเรียจากการทำออรัลเซ็กส์อาจทำให้เกิดโรคช่องคลอดอักเสบ BV ได้อยู่ดี แบบนี้ต้องมาเช็กกันหน่อยแล้วว่ามีอะไรที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ไม่อาจปล่อยผ่านได้บ้างเช็กสิ! โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีอะไรบ้าง
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คือโรคที่ติดเชื้อ และแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ทั้งจากการร่วมเพศทางช่องคลอด ทางปาก หรือทวารหนัก ซึ่งสิ่งที่เป็นปัญหากว่าการเป็นโรคคือ คนไข้ส่วนใหญ่มักอายที่จะเข้ารับการรักษา จนเป็นเหตุให้โรคนั้นรุนแรงลุกลามกว่าที่ควร ซึ่งโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นั้น ได้แก่
- เชื้อราในช่องคลอด
- หนองใน
- ซิฟิลิส
- เอดส์ หรือ AIDS (Acquired Immune Deficiency Syndrome)
ปลอดภัยกว่าถ้า “ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน”
เพราะการแต่งงานถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างครอบครัว ซึ่งหากว่าเริ่มต้นดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง ซึ่ง “การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน” ก็ถือเป็นการเตรียมความพร้อม เพราะนอกจากจะเป็นการป้องกันการติดต่อโรคสู่คนรักแล้ว ยังเช็กความพร้อมของว่าที่คุณแม่ และดูแลความปลอดภัยของลูกน้อยด้วย เนื่องจากแพทย์จะทำการตรวจหาความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรมที่อาจจะส่งผลต่อการมีบุตรในอนาคต เพื่อการวางแผนการใช้ชีวิตคู่และการมีบุตรอย่างปลอดภัยไร้กังวล ซึ่งประกอบด้วยการตรวจ ดังนี้
- ตรวจกรุ๊ปเลือด เพื่อให้ทราบว่ามีเลือดกรุ๊ปใด เพื่อสะดวกในกรณีที่ต้องการเลือดฉุกเฉิน
- ตรวจชนิดของเลือด (Rh Factor) เพื่อดูเลือดของว่าที่คุณแม่ ว่าเมื่อตั้งครรภ์แล้วจะมีความเสี่ยงต่อการแท้งลูก หรือมีปัญหาต่อลูกในครรภ์หรือไม่
- ตรวจหาความผิดปกติของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ที่เป็นสาเหตุของโรคธาลัสซีเมีย เนื่องจากเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ซึ่งหากพ่อและแม่เป็นพาหะก็มีโอกาสส่งผลกระทบต่อลูกน้อยได้
- ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
- ตรวจหาภูมิคุ้มกันและไวรัสตับอักเสบบี สามารถติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ และมีผลต่อลูกในครรภ์
- ตรวจหาภูมิคุ้มกันหัดเยอรมัน หากไม่มีภูมิ ควรฉีดวัคซีนและคุมกำเนิดไว้อย่างน้อยสามเดือน เพราะหากติดเชื้อในระหว่างตั้งครรภ์อาจทำให้ลูกน้อยพิการหรือเกิดภาวะแท้งได้
- ตรวจหาเชื้อไวรัส HIV (เอดส์) หากพบเชื้อ ต้องป้องกันการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และต้องรับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส เพื่อป้องกันการติดเชื้อฉวยโอกาส หากต้องการมีบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อนตั้งครรภ์
- ตรวจหาเชื้อซิฟิลิส หากพบเชื้อสามารถรักษาให้หายขาดได้
- ฝ่ายหญิงควรตรวจภายใน มะเร็งปากมดลูก และอัลตร้าซาวด์ช่องท้องส่วนล่างร่วมด้วย แต่ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์
สนใจ แพ็กเกจตรวจสุขภาพ คลิก!