เปิดประสบการลดน้ำหนักเกือบ 40 กิโล ด้วยการกินแบบคีโตเจนิก
เชื่อว่าหลายคนที่มีแพลนอยากจะไดเอตคงเคยได้ยินหลักการลดน้ำหนักมาหลากหลายรูปแบบ รวมถึงคีโตไดเอต (Keto Diet) หรือคีโตเจนิกไดเอต ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมมากเพราะนอกจากจะไม่ต้องอดอาหารแล้ว ยังได้กินของอร่อยแถมยังไม่จำกัดปริมาณการกินอีกต่างหาก เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนชอบกินของมันเลยทีเดียว วันนี้เรามีโอกาสได้มานั่งคุยกับ คุณต่าย สาวิตรี ห้วงสกุลเจริญ สาวร่างเล็กที่เราแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยว่า... เธอคนนี้เคยหนักถึง 95 กิโลมาก่อน! เธอใช้วิธีลดน้ำหนักด้วยการทำคีโตไดเอตจนน้ำหนักลดลงเกือบ 40 กิโล ได้ยินแบบนี้ Health Addict จึงรีบพุ่งตัวเข้าไปสัมภาษณ์และขอเคล็ดลับจากเธอแบบละเอียดยิบ
ตาชั่งแตะเลข 95 เพราะกินตามใจปาก
“หลังจากแต่งงานเราปล่อยตัวเองจนอ้วนขึ้นเรื่อยๆ จากน้ำหนัก 62 ขึ้นไปแตะถึง 95 กิโล ในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งน้ำหนักที่ขึ้นมานี้ก็เกิดจากการกินแบบไม่บันยะบันยังของเราเอง ทั้งฟาสต์ฟู้ด ของหวาน สิ่งที่รักที่สุดเลยคือหนังไก่ทอด แล้วเราก็ไม่ออกกำลังกายเลย จนถึงจุดที่ไม่มีเสื้อผ้าจะใส่แล้ว ยิ่งเวลาคนอื่นถ่ายรูปแล้ว tag เรา มันรู้สึกตกใจทุกครั้งที่เห็นตัวเองว่าเราไปไกลเบอร์นี้เลยหรอ เลยคิดว่าไม่ได้แล้ว ฉันต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว!”
ลองมาเยอะ เจ็บมาเยอะ จนเจอวิธีที่เหมาะกับตัวเอง
เธอเล่าให้ฟังว่าเธอลองเสิร์ชหาวิธีลดน้ำหนักมาเยอะมาก จนมาเจอกับวิธีคีโตเจนิกที่ยังอนุญาตให้เธอกินของอร่อยได้ “เราเป็นคนอ้วนมาตั้งแต่เด็ก ยาลดน้ำหนัก อาหารเสริมก็เคยลองมาหมดเเล้ว แต่พอลดไปสักพักมันก็เด้งกลับขึ้นมาอีก เลยอยากหาวิธีที่มันยั่งยืน ที่จะทำให้น้ำหนักเราโอเคและคงที่ จนมาเจอกับคีโตซึ่งเป็นวิธีลดน้ำหนักโดยที่เรายังได้กินของมันอย่างหนังไก่ ขาหมู หมูกรอบที่เราชอบได้ แต่จะกินข้าวและน้ำตาลไม่ได้ เพราะคีโตคือการหักดิบแป้งและน้ำตาล แต่เขาก็จะมีอย่างอื่นมาทดแทนอย่างน้ำตาลก็จะใช้เป็นน้ำตาลหล่อฮังก๊วย หญ้าหวาน หรืออิริทริทอล (Erythritol) น้ำตาลแอลกอฮอล์ที่ได้จากการหมักผลไม้ ส่วนข้าวก็จะทดแทนด้วย ข้าวดอกกะหล่ำ เส้นบุก เส้นแก้ว แทนข้าวหรือแป้งที่ปกติเรากินกัน”
ข้าวดอกกะหล่ำและแกงพะแนง
สเต็กแซลมอนและเส้นบุกสปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน
กินไขมัน เพื่อเผาผลาญไขมัน!
คีโตเจนิกไดเอตคือการเน้นกินไขมันดีจากพืชและสัตว์เป็นหลัก รองลงมาด้วยโปรตีน ลดการบริโภคคาร์โบไฮเดรตให้เหลือปริมาณที่น้อยมากๆ เพื่อปรับให้ร่างกายเข้าสู่สภาวะเลียนแบบการอดอาหาร จากเดิมที่ร่างกายดึงกลูโคสในเลือดซึ่งมาจากการทานอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลมาใช้เป็นพลังงาน ก็จำเป็นจะต้องดึงไขมันที่สะสมไว้ในร่างกายไปเผาผลาญมาใช้เป็นพลังงานแทน ซึ่งกระบวนการนี้จะเรียกว่าคีโตสิส (Ketosis) ทำให้เกิดสารคีโตนในตับและนำมาใช้เป็นพลังงานแทนนั่นเอง
8 เดือนกับการทำคีโต และผลลัพธ์ที่ได้คือดีเกินคาด
การทำคีโตถือเป็นวิธีที่ค่อนข้างสุดโต่ง แต่เธอก็ขอลองดูสักตั้ง “เราค่อยๆ หาข้อมูลไปเรื่อยๆ โละเครื่องปรุงเก่าทิ้งหมด เลือกเครื่องปรุงที่ไม่มีส่วนผสมของแป้ง น้ำตาล และผงชูรสเลย ทำอาหารกินเองที่บ้าน ซื้อคอหมูมาย่างแบบจริงจัง หนังไก่ หนังปลาแซลมอน ซื้อเป็นกิโลเอามาทอด มันเป็นเมนูที่ดูขัดกับการลดน้ำหนักมาก แต่ปรากฎว่าหลังจากทำไปอาทิตย์แรกน้ำหนักก็ลดลงมา 5 กิโล หลังจากนั้นก็ลดลงเรื่อยๆ แต่ช้าลงเพราะร่างกายคนเรามันปรับตัวได้ จริงๆ เราตั้งเป้าไว้ว่าถ้าลดถึง 62 กิโลแล้วก็จะหยุด เพราะชีวิตนี้ไม่เคยหนักน้อยกว่า 62 เลย แต่พอลดลงมาเรื่อยๆ เฮ้ย! มันต่ำกว่า 62 ได้ ลดลงมาจนน้ำหนัก 58 เราก็เลยหยุด เอาจริงๆ ตอนนั้นเรารู้สึกตื่นเต้นมากเพราะเป็นคนอ้วนมาตลอดชีวิต และไม่เคยลงมาแตะเลขห้าเลย”
The Struggle is Real ทั้งความยากและผลข้างเคียง
บนโลกแห่งความเป็นจริงไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ เพราะการทำคีโตไดเอตครั้งนี้ของเธอก็มีทั้งผลข้างเคียงและข้อห้ามเยอะพอสมควร “การทำคีโตคือจะเผลอหลุดไม่ได้ เพราะถ้าหลุดไปกินแป้งหรือน้ำตาลแล้วมันต้องก็นับหนึ่งใหม่ กว่าร่างกายจะกลับเข้าสู่กระบวนการคีโตสิสอีกมันต้องใช้เวลา 1-2 อาทิตย์ อาจมีอาการปวดหัว รู้สึกไม่สบาย หรือบางคนมีผื่นขึ้นตามตัว เพราะร่างกายมีการเปลี่ยนระบบการเผาผลาญในร่างกาย เราทำคีโตมาทั้งหมด 8 เดือน นอกจากน้ำหนักลดลงแล้ว เรารู้สึกได้เลยว่าอารมณ์เสียกับอะไรหลายๆ อย่างง่ายขึ้น มู้ดสวิงยิ่งกว่าช่วงมีประจำเดือนอีก แต่ก็ยังถือว่ามีอาการน้อยกว่าคนอื่นมาก”
“ความยากของการทำคีโตอีกอย่างเลยคือเราไม่สามารถเข้าสังคมนั่งกินข้าวได้เลย คือไปได้ แต่สิ่งที่เราทำคือเอาไข่ต้มไปกินหรือไม่ก็นั่งเฉยๆ ดูคนอื่นกิน เพราะอาหารนอกบ้านแทบทุกอย่างจะมีผงชูรส นอกจากเราจะไปกินร้านที่เป็นอาหารคีโตโดยเฉพาะ ในหลักคีโตเจนิกมันจะมีอาหารหลายประเภทมากๆ ที่กินไม่ได้ อย่างเช่น แป้ง สารให้ความหวานสังเคราะห์ พืชที่โตใต้ดิน อาหารแปรรูป นม หรืออย่างผลไม้ก็มีน้อยมากที่กินได้ เช่น สตรอเบอรรี่ บลูเบอรี่ ราสเบอรี่ กินได้แค่วันละ 3-5 ลูก แค่ให้พอหายอยากเท่านั้น”
The Best 3 ร้านอาหารคีโต ที่เธอแนะนำ!
ได้ยินเธอพูดถึงร้านที่ขายอาหารคีโตโดยเฉพาะ เราเลยขอพิกัด 3 ร้านที่เธอทานเป็นประจำ "อาหารคีโตที่แนะนำเลยคือ Cloud Bread ของวีรสุ อร่อยมากแนะนำจริงๆ แต่ไปซื้อไม่ค่อยทันต้องโทรจอง แล้วก็มีร้าน Club No Sugar กับ Keto House ค่ะ"
Cloud Bread @Vista Cafe
คีโตไดเอต มีเข้าก็ต้องมีออก
ถึงการทำคีโตไดเอตจะทำให้เธอลดน้ำหนักได้จริง แต่เธอก็ย้ำว่านี่ไม่ใช่วิถีที่ยั่งยืน “เราไม่อยากให้คนโฟกัสว่าคีโตคือวิธีที่จะกินได้ตลอดชีวิต เพราะเราเชื่อว่าคนเรายังต้องการคาร์โบไฮเดรตในการดำรงชีพ ฉะนั้นเมื่อถึงจุดหนึ่งเราก็ต้องหยุด แต่วิธีการหยุดมันต้องค่อยๆ เริ่มกลับมากินแป้งทีละนิดเพื่อปรับร่างกายสู่ระบบการเผาผลาญแบบปกติ อย่างคนที่กินคีโตอยู่ ถ้าวันไหนได้รับแป้งหรือน้ำตาลเยอะๆ จะรู้สึกเพลียทันที”
“เราเลิกทำคีโตไดเอตตอนน้ำหนัก 58 แล้วก็เด้งกลับขึ้นมาเป็น 60 กิโล คิดว่าอยากหาวิธีลดความอ้วนที่ไม่ใช่คีโตแล้ว เลยมาลองใช้วิธีโลวคาร์บ (Low Carb) ซึ่งเป็นแนวทางการกินแบบลดปริมาณคาร์โบไฮเดรต แต่ทำได้สักพักน้ำหนักมันก็ไม่ได้ลดลง อาจเพราะเราทำวิธีที่มันสุดโต่งมาแล้ว เลยหันมาลองทำไอเอฟ (Intermitten Fasting) ซึ่งเป็นการกินแบบจำกัดช่วงเวลาและเป็นวิธีที่กำลังฮิตมากในตอนนี้ เราทำตั้งแต่สูตรเบาๆ 16/8 คือช่วงงดอาหาร 16 ชั่วโมง ช่วงกิน 8 ชั่วโมง ทำพีคสุดคือสูตร 23/1 หรือบางทีก็ไม่กินอะไรเลยจนกว่าเราจะหิวจริงๆ คือเป็นความหิวที่ร่างกายต้องการ ไม่ใช่ความอยาก พอทำ IF แล้วน้ำหนักก็ลงมาอีก 5 กิโล"
“ตอนนี้ก็น้ำหนักคงที่อยู่ที่ 55 กิโล ผอมที่สุดในชีวิตแล้ว เป้าหมายต่อไปคือการออกกำลังกายและการมีร่างกายที่แข็งแรง อยากเห็นโฟร์แพ็ค ซิกแพ็คของตัวเองสักครั้งในชีวิต จะไม่โฟกัสที่น้ำหนักแล้ว”
การเปลี่ยนแปลงตัวเองในครั้งนี้ เธอมองว่าส่วนที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของจิตใจ “คือถ้าใจมันมาแล้วเราต้องทำมันเดี๋ยวนี้เลย ไม่อิดออด ไม่ผลัดวันไปเรื่อยๆ หาวิธีที่เหมาะกับตัวเองและศึกษาข้อมูลแบบละเอียด ถ้าใจเราได้ ไม่ว่าวิธิไหนก็สำเร็จ” สุดท้ายนี้อาจไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะกับการทำคีโตไดเอต เพราะร่างกายของคนเรามีข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ฉะนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อให้การลดน้ำหนักของเราอยู่ในความปลอดภัย และได้ประสิทธิภาพมากที่สุด!