เธอตรวจเจอ 'มะเร็งเต้านม' หลังจากการส่งสัญญาณเตือนของ 'สุนัขที่เธอเลี้ยง'



รู้มั้ยว่านอกจากการเลี้ยงสุนัขจะช่วยแก้เหงาแล้ว มันยังอาจช่วยดูแลสุขภาพของคุณได้ด้วย อย่างเคสที่เรากำลังจะเล่าให้ฟัง เป็นเรื่องของ Emma Smith คุณแม่ชาวอังกฤษ ที่รู้ตัวว่าเป็น "มะเร็ง" หลังจากที่สังเกตพฤติกรรมที่น้องหมาที่เธอเลี้ยงส่งสัญญาณมาให้  



สุนัขสามารถตรวจหาโรคได้จริงหรอ ??
ฟังแล้วอาจจะดูไม่น่าเชื่อแต่มีผลวิจัยยืนยันแล้วว่าเจ้าสุนัขแสนรู้ของเรามันสามารถเป็นคุณหมอตรวจโรคให้เราได้ในเบื้องต้นจริงๆ เพราะแคลร์ เกสท์ ผู้ร่วมก่อตั้งองค์กรการกุศล Medical Detection Dogs ให้สัมภาษณ์กับผู้จัดรายการของบีบีซีว่า ทางองค์กรใช้ความสามารถพิเศษในการดมกลิ่นของสุนัข ช่วยตรวจหาร่องรอยของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในระยะแรกเริ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้แพทย์ช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ทันท่วงที เนื่องจากการตรวจวินิจฉัยมะเร็งชนิดนี้ในปัจจุบันยังทำได้ยาก

สุนัขที่ใช้ในการทดลอง ซึ่งรวมถึงพันธุ์ลาบราดอร์และสแปเนียล ปกติชอบการดมกลิ่นค้นหาสิ่งของอยู่แล้ว ซึ่งการดมกลิ่นสำหรับพวกมันเป็นเกมสนุกอย่างหนึ่ง เธอบอกว่าสุนัขสายพันธุ์เหล่านี้ มีเซลล์ประสาทสัมผัสในการดมกลิ่นประมาณ 300 ล้านเซลล์ ซึ่งมนุษย์จะมีเพียงแค่ 5 ล้านเซลล์เท่านั้น ทำให้พวกมันสามารถดมกลิ่นแยกแยะและระบุการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในร่างกายมนุษย์ได้ 

น่าตื่นเต้นใช่มั้ยล่ะ แต่คุณจะตื่นเต้นยิ่งกว่านี้อีก ถ้าได้รู้เรื่องของ Emma Smith วัย 42 ปี ที่เธอไปตรวจจนพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งเต้านม หลังจากที่สุนัขที่เธอเลี้ยงได้ส่งสัญญาณถึงความผิดปกติบางอย่าง 

 

จุดเริ่มต้นของ "ชาร์ลี" สมาชิกตัวใหม่ของบ้าน
เธอเล่าว่าตอนนั้นเธอไปเลือกสุนัขที่ฟาร์มเพื่อที่เอามาเลี้ยงให้เป็นเพื่อนเล่นกับลูกชายทั้ง 2 คนของเธอ "เรารับชาร์ลีมาเลี้ยงตั้งแต่มันยังเด็กๆ ทุกคนมีความสุขมากที่มีชาร์ลีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ถึงชาร์ลีจะเป็นสุนัขที่ซน ชอบกัดสิ่งของต่างๆ แต่มันก็ไม่ได้ดุร้ายเลย” และเพราะความน่ารักของชาร์ลี เลยทำให้มันกลายเป็นที่รักของทุกคนในครอบครัว

ความผิดปกติ ที่เธอเริ่มสังเกตเห็น
พอเอมมาเลี้ยงชาร์ลีมาได้ระยะหนึ่งเธอก็เริ่มสงสัยในความผิดปกติ “ทุกครั้งที่ชาร์ลีเข้ามาเล่นด้วยมันมักจะชอบมาดมที่บริเวณหน้าอกข้างขวาอยู่บ่อยๆ ซึ่งตอนแรกเราก็ไม่ได้สงสัยอะไร แต่มันจะมาทำแบบนี้ทุกครั้งที่เข้ามาเล่นด้วย” หลังจากนั้นเธอเริ่มรู้สึกได้ถึงความผิดปกติของร่างกาย เมื่อเธอคลำเจอก้อนเนื้อบริเวณหน้าอกข้างขวา เอมมาจึงตัดสินใจไปหาหมอและผลตรวจก็ออกมาว่าเธอเป็นมะเร็งเต้านม… เธอบอกว่ามันเหมือนฝันร้าย เพราะตอนที่เธอยังเด็กป้าของเธอก็เป็นมะเร็งเหมือนกัน และก็ไม่เคยคิดว่าตอนนี้มันจะเกิดขึ้นกับตัวเธอเอง



ความยาก...คือโมเม้นท์ที่ต้องบอกข่าวร้ายกับครอบครัว
หลังจากที่รู้ข่าว เอมมาก็กลับมาบอกข่าวร้ายกับแม่ของเธอ ซึ่งแม่ของเธอก็ได้ให้กำลังใจว่ามันจะผ่านไปได้ หลังจากนั้นเธอบอกลูกทั้ง 2 ของเธอถึงอาการป่วย "มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะบอกให้ลูกรู้ถึงอาการป่วย แต่ในข่าวร้ายมันก็ยังมีข่าวดีอยู่ เพราะคุณหมอบอกว่าเชื้อมะเร็งที่มีนั้นเป็นแค่ขั้นเริ่มต้นและสามารถรักษาให้หายได้"

เอมมาปรึกษากับคุณหมอเรื่องขั้นตอนการรักษา คุณหมอแนะนำให้เธอรีบรักษาก่อนที่เชื้อมะเร็งจะแพร่กระจายไปยังจุดอื่นๆ การรักษาของเธอต้องเริ่มจากการผ่าตัดเอาเต้านมออกแล้วรักษาต่อด้วยการทำเคมีบำบัด ก่อนจะไปที่ขั้นตอนสุดท้ายอย่างการฉายรังสี นี่คือการต่อสู้ที่ต้องใช้ความอดทนและกำลังใจอย่างมาก "ในระหว่างการให้เคมีบำบัดร่างกายของชั้นก็เหนื่อยล้าและอ่อนแอมาก แต่ชั้นก็ได้รับกำลังใจจากคนรอบข้างและชาร์ลี" 

กำลังใจสำคัญ ที่ทำให้ข้ามผ่านมาได้
เอมมาเล่าว่าตั้งแต่เธอเข้ารับการรักษา ก็มีบางวันที่เธอต้องนอนอยู่แต่บนเตียง ซึ่งเจ้าชาร์ลีก็จะมานอนอยู่ข้างๆ เสมอหรือเวลาอยู่ในบ้าน ชาร์ลีก็จะคอยเดินตามและอยู่ใกล้ตลอด  มันอาจจะเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อว่าชาร์ลีจะสามารถตรวจเจอโรคมะเร็งได้จริง "ฉันรู้สึกขอบคุณมันที่ทำให้ฉันได้รับการรักษาตั้งแต่ขั้นเริ่มต้น ฉันรักชาร์ลีเหมือนคนในครอบครัว” และในที่สุดวันที่เธอรอคอยก็มาถึงเมื่อเอมมาเข้ารับการรักษาจนถึงขั้นตอนสุดท้าย คุณหมอแจ้งกับเธอว่าไม่พบเชื้อมะเร็งในร่างกายของเธออีกแล้ว มันเป็นข่าวดีมากสำหรับเธอ จนทำให้ถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ
 
เรื่องราวของเอมมาทำให้เราได้รู้ว่าสุนัขตัวโปรดของเรานั้นก็สามารถเป็นคุณหมอตรจโรคให้เราได้อย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้งโรคมะเร็งก็เป็นโรคสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกวัย เราควรดูแลสุขภาพและตรวจเช็คร่างกายเป็นประจำ
-->