เที่ยวทะเลสิดีต่อใจ เพราะได้ประโยชน์จริงๆ

“เวลาท้อใจให้ไปทะเลฟังเสียง ซู่ๆ (สู้ๆ)” อย่าคิดว่าเป็นแค่มุกตลก เพราะมีผลการวิจัยจากศูนย์วิจัยยุโรปเพื่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพมนุษย์ โดยสถาบันแพทยศาสตร์แพนนิซูลา ของมหาวิทยาลัยเอ็กเซเตอร์ บอกไว้ว่าคนที่อยู่อาศัยตามแถบเมืองที่อยู่ติดชายทะเลจะมีสุขภาพที่ดีกว่าคนที่มีบ้านอยู่ในเมืองที่ไม่ติดทะเล แล้วไม่ใช่แค่บรรยากาศที่ดีจะส่งผลต่อสุขภาพเท่านั้นนะ แต่สิ่งแวดล้อมต่างๆ บริเวณชายทะเลก็ยังมีประโยชน์ด้วยเหมือนกัน



ประโยชน์ของ...อากาศ
อากาศดีๆ ริมทะเลไม่ใช่แค่มีปริมาณออกซิเจนที่สูง และมีความบริสุทธิ์กว่าอากาศในเมืองเท่านั้น แต่อากาศที่เจือกลิ่นเค็มของท้องทะเลยังดีต่อระบบทางเดินหายใจ เพราะเต็มไปด้วยไอโอดีน แมกนีเซียม และธาตุอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็นโรคหอบหืด โรคหลอดลมอักเสบ ไซนัสอักเสบ ภูมิแพ้ ตลอดจนมีอาการไอเรื้อรัง ถ้าได้ลองมานั่งสูดกลิ่นอายทะเลก็อาจจะช่วยให้อาการฟึดฟัดคัดจมูกที่เป็นอยู่ดีขึ้นได้ มากไปกว่านั้นในอากาศที่พัดพามาจากทะเลยังประกอบไปด้วยประจุลบของไฮโดรเจน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซับออกซิเจนได้ดียิ่งขึ้น และยังช่วยสร้างสมดุลของระดับเซโรโทนิน ที่ช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย และลดภาวะซึมเศร้า



ประโยชน์ของ...แสงแดด
แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าริมทะเลนอกจากจะเปลี่ยนลุคให้ดูมีสุขภาพดีแบบหนุ่มสาวผิวแทนแล้ว การรับแดดริมทะเลเป็นประจำยังช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามิน D ที่เสริมสร้างแคลเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง กระตุ้นการดูดซึมวิตามิน เอ เสริมภูมิคุ้มกันตัวเอง ช่วยเพิ่มสารเอ็นโดฟิน ตลอดจนลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง ซึ่งหากร่างกายได้รับแสงแดดในระยะเวลา 5 – 30 นาทีเป็นประจำ น้ำมันในผิวหนังจะทำปฏิกิริยากับแสงแดดกลายเป็นที่มาของวิตามินซึ่งจะดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย แต่ส่วนใครที่อยากคีพความขาวใสของผิวไว้ จะหยิบซันบล็อกมาทาปกป้องผิวก่อนออกแดด ก็ไม่มีผลต่อวิตามิน D ที่ร่างกายจะได้รับ



ประโยชน์ของ...น้ำทะเล
น้ำทะเลเป็นแหล่งรวมแร่ธาตุและวิตามินต่างๆ ได้แก่ แมกนีเซียม โพแทสเซียม แคลเซียม โซเดียม และไอโอดีนซึ่งการลงไปสัมผัสน้ำทะเลจะช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายได้ เรียกว่าเป็นศาสตร์การรักษาด้วยน้ำทะเล หรือ Thalassotherapy ซึ่งเป็นศาสตร์ที่มีการคาดการณ์ว่าเริ่มต้นตั้งแต่สมัยโรมัน โดยการแช่น้ำทะเลไม่เพียงแต่จะรักษาโรคผิวหนังเท่านั้น แต่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังได้ดี ทั้งยังช่วยบรรเทาอาการอักเสบของแผลด้วย นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีการค้นพบว่าแร่ธาตุต่างๆ ในน้ำทะเลนั้นมีประโยชน์และสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้ โดยมีผลวิจัยยืนยันว่าระดับเซลล์เม็ดเลือดแดงสามารถเพิ่มขึ้นได้ระหว่าง 5 - 20 % หลังจากได้ว่ายหรืออาบน้ำทะเล เช่นเดียวกับเซลล์เม็ดเลือดขาว อีกทั้งการแช่น้ำทะเลในระยะเวลาหนึ่งก็จะช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือดภายในร่างกายดีขึ้นได้ ในขณะที่แมกนีเซียมในน้ำทะเลก็มีคุณสมบัติช่วยผ่อนคลายระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้ลดความตึงเครียด และช่วยเปลี่ยนแปลงระดับน้ำตาลในเลือดให้กลายเป็นพลังงานได้อีก

ประโยชน์ของ...ทราย
สปาธรรมชาติของจริงที่ทำให้ผิวเรียบเนียนใสได้แบบไม่ต้องจ่ายเงินสักบาท (ถ้าไม่นับค่าที่พัก) เพราะการทิ้งตัวลงนอนบนผืนทราย ซึ่งมีสัมผัสที่หยาบกำลังดี รวมกับแร่ธาตุในทรายและน้ำทะเลจะทำหน้าที่เป็นสครับธรรมชาติ ซึ่งช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว พร้อมเผยผิวใหม่ที่เนียนนุ่ม ช่วยกระตุ้นรูขุมขนให้ขับของเสียได้ดีขึ้น จนกลายเป็นวิธีการดูแลสุขภาพแนวใหม่ หรือ ‘ฝังทรายบำบัด’ ด้วยการขุดทรายขึ้นมากลบตัวแล้วทิ้งไว้ประมาณ 20 – 30 นาที วิธีนี้จะช่วยปรับระบบการทำงานภายในร่างกาย สร้างสมดุลของเกลือแร่ กระตุ้นระบบหมุนเวียนเลือด และช่วยขับของเสียออกมาทางเหงื่อ แต่วิธีนี้อาจจะต้องเล็งจุดแลนด์ดิ้งให้ดีหน่อย จะได้ไม่มีสิ่งสกปรก เปลือกหอย หรือก้อนหินมาสร้างบาดแผลให้ผิวสวยของเราได้ หรือถ้าเอาให้ง่ายกว่านั้นแค่การเดินบนพื้นทรายด้วยเท้าเปล่า ก็กระตุ้นให้สมองผลิตสารเซโรโทนิน ที่ช่วยทำให้ผ่อนคลายได้แล้ว


รู้แบบนี้แล้วจะมามัวรออะไร ยังไม่รีบไปอีก...
-->