เทรนด์ Paleo Diet กินอาหารแบบคนยุคหิน อยากเฮลธ์ตี้ต้องรีบจัด!



หลายคนพูดถึงสไตล์การกินอาหารแบบมนุษย์ยุคหิน หรือ Paleo Diet ว่าเป็นวิธีที่ช่วยให้ลดน้ำหนักได้รวดเร็ว แถมยังเฮลธ์ตี้อีก ซึ่งบอกเลยว่าเทรนด์นี้ทางดาราเซเลบฝั่งฮอลลีวู้ดเขาอินกันหนักมาก ไม่ว่าจะเป็น กวินเน็ธ พันโทรว์,  เมแกน ฟอกซ์, ไมลี่ย์  ไซรัส, แมทธิว แม็กคอนาเฮย์ และอีกหลายคนก็หันมากินแบบมนุษย์ถ้ำกันเป็นแถว เราเลยลองไปศึกษาเรื่องนี้มาแชร์กัน 
 
จุดเริ่มต้นของการกินแบบ Paleo Diet 
โปรแกรม Paleo Diet ถูกคิดค้นขึ้นโดย ดร.Loren Cordain นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันผู้เขียนหนังสือชื่อ The Paleo Diet  และอีกหลายเล่มที่เกี่ยวกับการกินตามรอยมนุษย์ยุคหิน โดยเขาได้ศึกษาแล้วพบว่ามีผลดีต่อสุขภาพ เพียงแค่เราใส่ใจกับอาหารการกินให้มากขึ้น ก็ช่วยให้น้ำหนักลดลงได้โดยไม่ทำร้ายสุขภาพ แถมยังทำให้ร่างกายเฮลท์ตี้ขึ้นได้อีกด้วย 

กินแบบไหน ที่เรียกว่า Paleo Diet
ซึ่ง Paleo Diet เป็นวิธีการควบคุมน้ำหนักแบบใหม่ที่เน้นให้คนกินอาหารบริสุทธิ์สดใหม่ไม่ผ่านการแปรรูป เน้นผัก และผลไม้ เนื้อสัตว์ไร้มัน อาหารทะเล ไข่ ไขมันที่ดีต่อสุขภาพซึ่งได้จากถั่ว เมล็ดพืช อะโวคาโด น้ำมันมะกอกน้ำมันมะพร้าว น้ำมันปลา และเนื้อวัวที่เลี้ยงตามธรรมชาติ ส่วนอาหารที่ไม่จัดอยู่ในโปรแกรม Paleo Diet  ก็จะเป็นพวกแป้ง เมล็ดธัญพืช (Cereal Grains) มันฝรั่งอาหารแปรรูป น้ำตาลขัดสี เกลือ นม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นั่นเอง
 
แน่ใจแค่ไหน? ว่าเทรนด์นี้ดีจริง!
Robb Wolf เจ้าของหนังสือ The Paleo Solution Theoriginal Human Diet ได้ค้นพบความมหัศจรรย์ของการกินแบบ Paleo Diet ว่ามันเป็นวิธีลดไขมัน ทั้งช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคร้ายต่างๆ เช่น โรคอ้วน มะเร็ง หัวใจ เบาหวาน พาร์กินสัน อัลไซมอล โรคซึมเศร้า และภาวะมีบุตรยากอีกด้วย แถมยังเป็นวิธีการกินที่ดีต่อสุขภาพมากที่สุด เพราะเป็นหลักทางโภชนาการที่สอดคล้องกับพันธุศาสตร์ของมนุษย์ คือเราจะมีรูปร่างผอมบาง แต่แข็งแรง และมีพลังด้วยการกินโปรตีนไขมันต่ำซึ่งทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง บำรุงกระดูก และช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการบริโภคไขมันดีที่ได้จากถั่ว ธัญพืช ผลไม้ต่างๆ น้ำมันรำข้าวที่ทำให้อิ่มท้องได้นาน ส่วนผัก และผลไม้ก็เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน แร่ธาตุ และไฟโตนิวเทรียนต์ หรือสารพฤกษเคมีที่พบในผักผลไม้ ช่วยลดความเสื่อมต่างๆ ในร่างกายป้องกันโรคร้าย และทำให้เราดูเด็กลงไปอีก 
 
ใครที่อ่านแล้วเริ่มสนใจอยากจะอินไปกับเทรน์นี้ด้วย ก็ลองปรับไปใช้กันดูนะ แต่เราขอเเนะนำว่าให้ค่อยๆ ลองปรับดูสลับๆ กับอาหารแบบปกติกันไปก่อนจะได้ไม่รู้สึกหนักเกินไป เอาเป็นว่าพอเริ่มปรับตัวได้ก็ค่อยลองแบบเต็มที่กันไปเลย ทีนี้ก็เตรียมรับความเปลี่ยนแปลงกับร่างกายตัวเองรอไว้เลยนะ  
-->