เช็คหน่อย! นี่แค่ท้องเสียธรรมดาหรือโดน “โรต้า ไวรัส” เล่นงานกันแน่
พูดถึงชื่อ ‘โรต้า ไวรัส’ อาจจะไม่คุ้นหูกันสักเท่าไหร่ เชื้อไวรัสนี้มันก็มีอาการเหมือนกับเวลาเราท้องเสียนั่นแหละ ปกติเวลาท้องเสียเราแค่กินยาอาการมันก็จะดีขึ้น แต่ถ้าอาการหนักมากเราควรรีบไปพบแพทย์เพราะอาจจะกำลังเป็น 'โรคท้องเสียเฉียบพลันจาก โรต้า ไวรัส' อยู่ก็ได้นะ
โรต้า ไวรัสเกิดจากอะไร?
เชื้อไวรัสชนิดนี้มันเกิดจากการที่เรารับประทานอาหารที่ไม่สะอาด ไม่ได้ปรุงสุกใหม่ หรือการใช้มือหยิบจับอาหารก่อนนำมาเข้าปากในขณะที่อาหารและมือเราอาจจะมีเชื้อโรคปะปนอยู่ ทำให้เมื่อเรากินเข้าไปเชื้อโรคนั้นก็จะเข้ามาอยู่ในร่างกายทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องร่วง อาเจียนได้
จะรู้ได้ยังไงว่าเราโดนเชื้อ โรต้า ไวรัส เล่นงานเข้าให้แล้ว
บางคนมีอาการท้องเสีย อาเจียน ก็คิดว่า อาหารเป็นพิษ หรือท้องเสียทั่วๆ ไป แต่จริงๆ แล้วมันอาจจะรุนแรงกว่านั้นก็ได้ เราไปเจอข้อมูลจาก พญ.ร่มเย็น ศักดิ์ทองจีน อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ รพ.พญาไท นวมินทร์ บอกว่า โรต้าไวรัส (Rotavirus) เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคติดเชื้อและโรคติดต่อ ทำให้เกิดการอักเสบในกระเพาะอาหารและลำไส้ การติดเชื้อมักเกิดขึ้นหลังได้รับเชื้อประมาณ 1-6 วัน ผู้ป่วยจะมีอาการถ่ายเหลวเป็นน้ำปริมาณมาก มักมีอาการอาเจียน มีไข้และปวดท้องร่วมด้วย ซึ่งสามารถหายได้เองหากไม่มีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น
อย่าชะล่าใจ ไวรัสตัวนี้ร้ายกว่าที่คิด
ไวรัสตัวนี้จะแสดงอาการในหลายระดับแล้วแต่ร่างกายของแต่ละบุคคล บางคนแสดงอาการไม่หนักมาก บางคนหนักมากจนต้องถึงกับนอนโรงพยาบาลก็มี ในกรณีที่เป็นหนักจะถ่ายเหลวเป็นน้ำปริมาณมาก อาจจะถึง 10-20 ครั้งต่อวัน ไม่สามารถรับประทานอาหารหรือน้ำได้เลย จนทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ และเกลือแร่ในร่างกาย หรือบางรายเกิดภาวะช็อค เป็นสาเหตุให้อวัยวะต่างๆ ทำงานล้มเหลว เช่น ไตวายเฉียบพลัน หัวใจเต้นผิดปกติ และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก หรือผู้ใหญ่ที่มีโรคประจำตัว ผู้ที่ภูมิคุ้มกันบกพร่องต้องระวัง
ถ้าเจอเชื้อ…ต้องรักษายังไง?
เบื้องต้นแพทย์จะนำอุจจาระไปตรวจหาเชื้อเพื่อยืนยันผลให้แน่ชัด จากพบเชื้อแพทย์ก็จะทำการรักษาตามขั้นตอนและเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด ซึ่งมีวิธีรักษาดังนี้
• ดื่มน้ำเกลือแร่ครั้งละน้อย บ่อย ๆ
• เลี่ยงการให้ยาปฏิชีวนะและยาฆ่าเชื้อ
• งดนมและผลไม้
• รับประทาน อาหารเหลว และอาหารอ่อน
คุณหมอแนะนำวิธีป้องกันคือ การรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และถ้าหากมีอาหารหนักผิดปกติควรรีบมาพบแพทย์เพื่อทำการรักษา