เชื่อมั๊ยว่าอุณหภูมิในออฟฟิศ มีผลต่อการทำงาน


เราเชื่อว่าทุกออฟฟิศต้องเป็น เพื่อนคนนึงบอกแอร์หนาวไปทำงานไม่ได้ อีกคนบอกร้อนขอเพิ่มแอร์หน่อย ตกลงแล้วเราต้องปรับอุณหภูมิเท่าไหนถึงจะพอดี? จริงๆ แล้วปัญหาเหล่านี้ไม่ได้มีแค่ในยุคเรา แต่เป็นปัญหาโลกแตกที่มีมานานแล้ว 



แม้ว่าจะมีงานวิจัยมากมายเกี่ยวกับอุณหภูมิที่เหมาะสมในการทำงาน แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่นอน วันนี้เราก็เลยหยิบงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้มาให้ทุกคนได้ศึกษากัน

งานวิจัยจาก Helsinki University of Technology ดินแดนแห่งความหนาวเหน็บจากประเทศฟินแลนด์ระบุว่า จากการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลบอกว่าอากาศยิ่งเย็นยิ่งดี ช่วงอุณหภูมิที่ส่งเสริมประสิทธิผลการทำงานสูงสุดอยู่ที่ 21-22 องศาเซลเซียส และประสิทธิภาพการทำงานจะค่อยๆ ลดลงต่ำลงเมื่ออุณหภูมิห้องเพิ่มขึ้นที่ 23-24 องศาเซลเซียส ก่อนที่สุดท้ายประสิทธิภาพการทำงานจะลดลงต่ำสุดเมื่ออุณหภูมิห้องเพิ่มไปอยู่ที่ 30 องศาเซลเซียส ซึ่งสรุปได้ว่าอุณหภูมิยิ่งเย็น ก็จะยิ่งทำงานดี มีประสิทธิภาพกว่าการทำงานในอุณหภูมิที่อุ่น แต่สำหรับบ้านเราแล้ว ถ้าปรับแอร์ที่อุณหภูมิ 21- 22 องศาเซลเซียส มีหวังคนในออฟฟิศต้องนั่งทำงานมือแข็งแน่นอน

ด้าน Cornell University ประเทศสหรัฐอเมริกากลับบอกว่า อุณหภูมิที่มีประสิทธิภาพในการทำงานได้ดีที่สุดคือ 25 องศาเซลเซียส ซึ่งงานวิจัยนี้ใช้วิธีการดูประสิทธิภาพการทำงานจากความเร็วและความถูกต้องในการพิมพ์งานของคนวัยทำงาน ผลคือพบว่ายิ่งอากาศหนาวเท่าไหร่ ระดับความเร็วในการทำงานยิ่งพิมพ์ช้าลง และมีการพิมพ์ผิดบ่อย จากการศึกษาพบว่า อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส อัตราความเร็วในการพิมพ์จะอยู่ที่ 100% และอัตราการพิมพ์ผิดอยู่ที่ 10% แต่ถ้าลดอุณหภูมิห้องลงเหลือ 20 องศาเซลเซียส ความเร็วในการพิมพ์จะลดลงเหลือ 54% และอัตราการพิมพ์ผิดจะพุ่งไปถึง 25% เลยทีเดียว

ล่าสุดวารสารวิชาการ PLOS ONE ได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาจากทีมนักวิจัยจากสหรัฐอเมริกาและเยอรมนี ได้ทำการทดสอบกับอาสาสมัคร 543 คน เพื่อสังเกตถึงความสัมพันธ์ระหว่างอุณหภูมิของสิ่งแวดล้อมโดยรอบกับความสามารถในการคิดวิเคราะห์ โดยการวิจัยนี้ได้ทำการทดสอบทั้งเพศหญิงและเพศชาย ให้แก้โจทย์ปัญหาตรรกศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเล่นเกมผสมตัวอักษร โดยต้องทำแบบทดสอบที่เตรียมไว้ในหลายห้อง ซึ่งแต่ละห้องมีการปรับอุณหภูมิไว้แตกต่างกันตั้งแต่ 16-32 องศาเซลเซียส ซึ่งผลการทดสอบพบว่าผู้หญิงสามารถทำคะแนนการทดสอบได้ดีขึ้นมาก เมื่ออยู่ในห้องที่มีอุณหภูมิสูงขึ้นกว่าเดิม โดยความแตกต่างเพียง 1 องศาเซลเซียส ทำให้พวกเธอทำคะแนนได้ดีขึ้นเกือบ 2% ในขณะที่อาสาสมัครชายส่วนใหญ่ทำคะแนนได้แย่ลงเล็กน้อย

จะเห็นได้ว่า 2 ใน 3 ของงานวิจัยบอกว่าอุณหภูมิที่เหมาะสมในการทำงานจะอยู่ที่ประมาณ 23 - 25 องศาเซลเซียส แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังไม่มีการยืนยันที่แน่นอนว่าอุณหภูมิเท่าไหร่ถึงจะพอดี เอาเป็นว่าเดินทางสายกลางดีกว่า ไม่ปรับแอร์ให้หนาวไปและไม่ร้อนไป ขืนปรับแอร์ขึ้นๆ ลงๆ เดี๋ยวกลายเป็นสงครามเครื่องปรับอากาศในออฟฟิศกันพอดี!

 
-->