อะไรบ้าง ที่ไม่ควรซื้อแบบ “มือสอง”
สำหรับหลายคนมองว่าการซื้อของมือสองสภาพดี เป็นช่องทางหนึ่งของการช่วยประหยัดเงิน
แต่รู้มั้ยว่าข้าวของบางอย่างก็ควรซื้อ "มือหนึ่ง" ดีกว่า แม้ว่าสภาพภายนอกจะดูเหมือนใหม่ หรือคนขายเป็นคนที่รู้จักกัน แต่เพื่อเหตุผลด้านสุขภาพและความปลอดภัยสินค้าบางอย่างก็ไม่ควรซื้อ "มือสอง"
มีอะไรบ้าง มาดูกัน
1) หมวกกันน็อคจักรยาน – ด้วยลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน สภาพอากาศ การดูแล การเก็บรักษา และความทนทานของหมวก Eric Richter จากบริษัทหมวกกันน็อคยี่ห้อ Giro แนะว่าควรเปลี่ยนหมวกกันน็อคทุก 3-5 ปี จากเหตุผลข้างต้นแล้ว ยังต้องคำนึงอีกว่าเทคโนโลยีการออกแบบเพื่อความปลอดภัยของผู้สวมใส่นั้นพัฒนาตลอดเวลา ทำให้ของใหม่ดีกว่าของเก่าอยู่แล้ว
2) เครื่องสำอาง – ใครที่คิดจะซื้อเครื่องสำอางหรืออุปกรณ์แต่งหน้ามือสอง ถือเป็นความคิดที่ไม่เข้าท่าเอาเสียเลย Westlake Dermatology คลินิกโรคผิวหนังในสหรัฐอเมริกาบอกว่า ผลที่ตามมาอาจเลวร้ายกว่าสิว ทั้งโรคเริม ตาติดเชื้อ และการติดเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus ซึ่งอาศัยอยู่บนผิวหนัง ในปาก และในจมูกของคน ซึ่งหากเข้าสู่กระแสเลือดอาจอันตรายถึงชีวิต... จำไว้ว่าถ้าอยากได้ก็ควรซื้อของใหม่ และไม่ควรแบ่งใช้กับใครแม้จะเป็นเพื่อนสนิทก็ตาม
3) รองเท้า – หลายคนคุ้นเคยกับรองเท้ามือสอง แต่นอกจากเหตุผลเรื่องความสะอาดแล้ว เรายังต้องคำนึงถึงเรื่องรูปเท้าและการซัพพอร์ตเท้าอีกด้วย โดยรองเท้าจะเปลี่ยนไปตามรูปเท้าของเจ้าของคนแรก แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นรุ่นที่ใส่สบายก็อาจทำให้เราบาดเจ็บได้โดยไม่รู้ตัว ทั้งเท้าอักเสบ มีอาการปวดหลัง และอาจเป็นแผลพุพอง
4) ที่นอนและเครื่องนอน – ของแถมที่ตามมาแน่นอนคือ Bed bug หรือตัวเรือด แน่นอนว่าการเอาไปซักจะช่วยกำจัดได้ แต่ถ้าคุณไม่ซักของมือสองที่ซื้อมาทันที หรือไม่ทำความสำอาดอย่างถูกวิธีมันก็ยังอยู่ในบ้านของคุณอยู่ดี สิ่งแรกคือ ถ้าไม่มีฉลากระบุรายละเอียดสินค้าก็ห้ามซื้อ เพราะที่นอนมือสองราคาถูกอาจกลายเป็นบทเรียนราคาแพงของคุณได้
5) คอมพิวเตอร์ – คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในฮาร์ดไดรฟ์บ้าง ตั้งแต่ไวรัส สแปม ไปจนถึงเทคโนโลยีขั้นสูงที่เราจินตนาการไม่ออก... ดังนั้นถ้าคุณไม่อยากซื้อเครื่องใหม่มือหนึ่งราคาแพง ก็นำเครื่องเก่าที่มีอยู่ไปอัพเกรดให้เหมือนใหม่ก็ได้