อย่ามองข้าม “ภาวะภูมิแพ้” โรคใกล้ตัวที่รบกวนคุณได้ทั้งชีวิต!

ช่วงนี้ สถานการณ์ฝุ่นพิษทั่วกรุงเทพและปริมณฑล กลายเป็นเรื่องทอล์คออฟเดอะทาวน์ที่ทำให้ใครๆ ต่างก็หันมาใส่ใจตัวเองกันมากขึ้น กลัวว่าเจ้าฝุ่นละอองชนิดนี้จะเข้าไปทำลายระบบทางเดินหายใจอย่างรุนแรง ซึ่งเราเชื่อว่า! หลายคนอาจมองข้าม “ภาวะภูมิแพ้” ที่ทำลายระบบทางเดินหายใจของเราอยู่ในทุกๆ วันนะซิ

วันนี้เลยพาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำกับทุกคน เพราะเชื่อว่าโรคนี้ไม่ได้สำคัญน้อยไปกว่าเจ้าฝุ่นพิษที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้เลยล่ะ!


Photo by Peter Hershey on Unsplash
“สารก่อภาวะภูมิแพ้”นั้น ความจริงมันหมุนอยู่รอบตัวเรานะ!
 ที่บอกว่า เจ้าโรคนี้ มันหมุนอยู่รอบตัวเรานั้น ก็เพราะสารก่อภูมิแพ้ อย่างไรฝุ่น แมลงสาบ ขน เชื้อรา ควันบุหรี่ และเกสรดอกหญ้า เป็นสิ่งที่เราต้องสัมผัสกันอยู่ทุกวันไง  แต่ก็อย่าลืมไปนะ! ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีทางทำร้ายคุณได้ ตราบใดที่ภาวะผิดความปกติต่างๆ ในร่างกายยังไม่เกิดขึ้น 
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก ศูนย์ หู คอ จมูก โรงพยาบาลพญาไท 3   นพ.อุทัย ประภามณฑล กล่าวว่า “ภาวะภูมิแพ้” นี้ เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นจากการที่เยื่อบุในจมูกของคนๆ นั้นมีความไวผิดปกติต่อสารก่อภูมิแพ้ เมื่อได้สัมผัสกับสิ่งกระตุ้นเหล่านี้ จะทำให้เกิดอาการ คัน ไอ จาม หรือ น้ำมูกไหลได้ “หากสังเกตตัวเองดีๆ คนที่เริ่มเป็นภูมิแพ้จะมีอาการ คันจมูก มีน้ำมูกใส คล้ายคนเป็นหวัดคัดจมูก จามหลายครั้งติดต่อกัน บางคนอาจคันตา คันคอ คันหู หูอื้อ หรือคันที่เพดานปากร่วมด้วย”

นอกจากอาการเหล่านี้ มันยังส่งผลให้ จมูกของเรา “อักเสบ” อีกด้วย! 
“นอกจากอาการหลักๆ ที่กล่าวไปข้างต้น ผู้ป่วยอาจมีเยื่อบุจมูกที่บวมมาก หรือบางครั้งจมูกที่บวมจะมีน้ำมูกใสๆ ไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ไม่แน่ว่าอาจมีริดสีดวงจมูกร่วมอยู่ด้วย” 

เป็นภูมิแพ้  “ประสิทธิภาพในการใช้ชีวิต” ย่อมลดลง แถมเสี่ยงเป็นโรคแทรกซ้อนตามมาด้วย
ถึงแม้ว่าโรคภูมิแพ้ หรือ โรคจมูกอักเสบเรื้อรังนี้จะไม่รุนแรง แต่มันก็กวนใจเราอยู่ไม่น้อย ลองคิดภาพตามว่า ถ้าต้องนั่งจามดังๆ ฮัดชิ้ววว แบบยาวๆ เพื่อนร่วมงานต้องนั่งมองหน้าเราหลายครั้ง มันคือการรบกวนสมาธิคนอื่นแบบไม่รู้ตัว
คุณหมอเล่าว่า การใช้ชีวิตกับโรคนี้ จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของเราลดลง และเกิดความรำคาญใจด้วย “เพราะว่าการมีน้ำมูกไหล และจามอยู่ตลอดเวลานี้ จะเป็นสาเหตุทำให้เกิดความรำคาญได้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ผู้ป่วยอาจเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ และหอบหืดตามมาได้ จึงไม่ควรละเลยที่จะเข้ามาทำการรักษาให้หายขาด” 

และที่สำคัญ! มีสถิติ เผยข้อมูลว่า ผู้ป่วย ‘ภูมิแพ้’ จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง!
ข้อมูลจากทางกระทรวงสาธารณสุขเมื่อปี 2559 บอกไว้ว่า  ประเทศไทยจะมีผู้ป่วยภูมิแพ้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต  ซึ่ง 38% คือเด็ก และอีก 20% เป็นของผู้ใหญ่ สาเหตุก็มาจากมลพิษทางอากาศที่อยู่รอบตัวเรานี่ล่ะ การที่เราต้องเจอฝุ่นละอองและควันจากท่อไอเสียตลอดวัน ทำให้มลพิษเหล่านี้เข้าไปสะสมอยู่ในร่างกาย จนพัฒนาไปเป็นโรคภูมิแพ้ในที่สุด  

ถ้าไม่อยากป่วยเรื้อรังด้วยโรคภูมิแพ้แบบนี้ล่ะก็ ห้ามลืมที่จะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน หรือจะสลับเป็นวันเว้นวันก็ได้! พักผ่อนให้เพียงพอ และหากต้องสัมผัสกับควัน และฝุ่นละอองก็อย่าลืมที่จะสวมใส่หน้ากากอนามัยกันด้วยนะ 



 
-->