อยากมีหุ่นแซ่บแบบ “Devid Beckham” ลองทำตามนี้เลย !
เห็นหล่อแซ่บเบอร์นี้ แต่รู้มั๊ยว่าปีนี้ เดวิด เเบ็คแฮม ก็อายุ 43 ปีแล้วนะ หนุ่มๆ คนไหนที่กำลังอิจฉากับความเเซ่บเกินเบอร์ของหุ่นที่ยังคงเส้นคงวา หรือเผลอๆ ดูดียิ่งกว่าสมัยหนุ่มด้วยซ้ำ และคิดกันว่าเขาจะต้องมีตารางการออกกำลังกายแบบเป๊ะๆ คุมอาหารไม่กินแป้ง ไม่กินไขมันแน่ๆ แต่ชีวิตอาจไม่จำเป็นต้องยากขนาดนั้น ว่าแล้วก็มาดูเทคนิคลับเฉพาะของเขากันดีกว่า“เราไม่จำเป็นต้องไปเสียเงินกับการเข้าฟิตเนสแพงๆ” นี่คือสิ่งที่เดวิดได้บอกเอาไว้กับนิตยสารชื่อดังเล่มนึงของออสเตรเลีย
เทคนิคใหม่คือ...ขอน้อยๆ แต่นานๆ
เดวิดแกบอกว่าในทุกๆ วันนี้ที่กระแสการเตะฟุตบอลดูจะดรอปลงไปเยอะมาก แล้วถูกเเทนที่ด้วยกระแสการวิ่ง, การเดิน และการปั่นจักรยาน ซึ่งเขาเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ตามเทรนด์เขาไปด้วย
“ในหนึ่งอาทิตย์จะมีประมาณ 3-4 วัน ที่ผมจะเดินไปโรงเรียนกับลูกสาว หรือขี่จักรยานกัน มันดูเป็นเรื่องเล็กๆ ก็จริง แต่มันเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลง”
อย่างที่รู้กันว่าการออกกำลังกายในคลาส หรือในยิม แต่ละครั้งเราอาจเผาผลาญได้มากกกว่า 1,000 กิโลแคลลอรี่ แต่ความจริงก็คือ เราอาจไม่ได้ทำสิ่งนั้นทุกวัน ซึ่งในทฤษฎีใหม่ของเขาคือ เน้นการทำทีละน้อยๆ แต่ทำได้ทุกวัน หรือทำได้นานๆ ที่เขาบอกว่ามันเป็นอะไรที่ดีกว่าต้องมานั่งทำอะไรที่ฝืนธรรมชาติของตัวเอง
@davidbeckham
นี่ล่ะ...เทรนด์ที่เหล่านักฟิตเนสกำลังให้ความสนใจ!
ซึ่งเหล่าเทรนเนอร์ต่างเริ่มเปิดรับกระแสการออกกำลังกายโดยที่ไม่กดดันให้คนต้องมาออกกำลังกายที่ยิมกันทุกวัน แต่เปลี่ยนเป็นการให้เราแพลนการออกกำลังกายแบบง่ายๆ ที่ทำได้ทุกวัน แล้วทำได้วันละหลายๆ ครั้ง อย่างเช่นคุณอาจจะมีแพลนวิ่งในตอนเช้า สัก 10 - 20 นาที แพลนเดินเร็วๆ หลังอาหารกลางวันอีกสัก 20 นาที หรือลงรถก่อนที่จะถึงที่หมายเล็กน้อยเพื่อให้ได้เดินออกกำลังกาย แล้วอาจจะมีการแพลนเข้ายิมมาเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ หรือออกกำลังกายหนักๆ หน่อยสักอาทิตย์ละ 1-2 ครั้งก็พอ
แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่พอมีกระแสการออกกำลังกายแบบนี้ออกมา ก็ต้องมีสายที่ต่อต้านบอกว่า “ไร้สาระ” หรือคิดว่าการออกกำลังกายแบบนี้เหมาะกับคนที่เป็นนักธุรกิจพันล้าน หรือคนที่ไม่ต้องทำงานอยู่ว่างๆ มากกว่า ถึงจะทำได้ แต่พี่เดวิดเขาก็มีการตอกกลับคนที่ออกมาต่อต้านว่า
@davidbeckham
“คุณลองไปส่งลูกสาวให้ตรงเวลาด้วยการเดิน หรือปั่นจักรยานในตอนเช้าซิ แล้วคุณจะรู้ว่าการออกกำลังกายมันเป็นยังไง”
ก็ถือว่าเป็นการตอบกลับที่มีเหตุผลเลยทีเดียว :) ใครอยากลองทำตามก็เอาไปทำกันดูนะ เราว่าก็เป็นไอเดียการออกกำลังกายแนวใหม่ที่น่าสนใจมากๆ เลยล่ะ ได้ผลไม่ได้ผลยังไง อย่าลืมมาแชร์กันด้วยนะ