หอบเหนื่อย อย่าเพิ่งตกใจ อาจไม่ใช่อาการโควิด-19
ในยุคที่สารพัดโรครุมเร้า เข้าประชิดติดตัวอย่างนี้ จะหายใจเข้าแต่ละทีก็กลัวจะได้รับเชื้อโรคมากกว่าออกซิเจน ยิ่งบวกกับว่าอาการบางอย่างก็คล้ายกันจนแทบจะแยกไม่ออก อย่างเช่นอาการเหนื่อยหอบ ที่ถ้าอยู่ๆ ก็เป็นขึ้นมาตอนนี้ บอกเลยว่าคงต้องมีอาการนอยหนักแน่ๆ เพราะจากข้อมูลของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขได้ระบุอาการของผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการเหนื่อยหอบว่าจัดอยู่ในกลุ่มของผู้ป่วยทั้งกลุ่มสีเหลืองและแดง แต่ก่อนที่จะตื่นตระหนกจนเลยเถิด ลองตั้งสติคิดดูใหม่ว่าอาการหอบเหนื่อยไม่ได้เป็นแค่อาการของโรคโควิด-19 เท่านั้น แต่อาจเป็นได้ว่าคุณกำลังมีภาวะของโรคเหล่านี้
#โรคหอบหืด
เป็นโรคที่เกิดจากการที่หลอดลมตีบและแคบลง และทำให้ปริมาณของออกซิเจนที่เข้าไปในปอดลดน้อยลง ส่งผลให้เหนื่อยง่าย โดยผู้ป่วยโรคหืด มักหายใจเสียงดังหวีด แน่นหน้าอก ร่วมกับอาการไอเป็นๆ หายๆ โดยเฉพาะในช่วงเช้าและกลางคืน และอาจมีอาการหอบเหนื่อย หายใจติดขัด แน่นหน้าอกทั้งๆ ที่ไม่ได้มีไข้ ซึ่งแตกต่างจากผู้ป่วยโควิด-19 ที่มักมีไข้ถึง 60% และมักมีอาการเจ็บคอ ปวดเมื่อยตามตัว รวมถึงมีอาการบ่งชี้ที่สำคัญ คือไม่ได้กลิ่นและไม่รู้รส อย่างที่เราทุกคนทราบกันดี
#โรคเบาหวาน
โรคเบาหวานเป็นภาวะที่เกี่ยวพันกับระดับน้ำตาลในเลือด อันเนื่องมากจากการที่ร่างกายไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลิน หรือผลิตออกมาได้ไม่เพียงพอที่จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นจนกลายเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งนับเป็นภาวะเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับเป้าหมายได้ โดยการรับประทานหรือฉีดยาร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งหากเมื่อไหร่ก็ตามที่การควบคุมระดับน้ำตาลไม่เป็นผล ก็จะทำให้ อาการกำเริบเพราะร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานในชีวิตประจำวันได้ และเป็นที่มาของอาการเหนื่อยง่ายนั่นเอง
#โรคหัวใจขาดเลือด
เกิดขึ้นเนื่องจากหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจตีบหรือตัน ทำให้เลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจลดลงหรืออาจไม่มีเลย โดยมากมักเกิดจากการที่หลอดเลือดแข็งตัวขึ้น เนื่องจากมีไขมันสะสมในผนังด้านในของหลอดเลือด เป็นผลให้ทางที่เลือดไหลผ่านแคบลง เลือดไหลไม่สะดวก ทั้งยังอาจเกิดจากเกล็ดเลือดและลิ่มเลือดอุดตัน จนกระทบต่อการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ พอกล้ามเนื้อหัวใจทำงานได้น้อยลง เลือดก็ไปเลี้ยงร่างกายน้อยลง ส่งผลทำให้มีอาการเหนื่อยง่าย เกิดภาวะน้ำท่วมปอดได้ ยิ่งหากว่าการทำงานของหัวใจแย่ลงไปเรื่อยๆ หรือมีอาการรุนแรงก็อาจทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจตาย อาจทำให้เกิดภาวะหัวใจวายและถึงขึ้นเสียชีวิตได้เลยล่ะ
#โรคปอดอักเสบ
หรือ โรคปอดบวม ที่รู้จักกันนั่นเอง โดยโรคนี้จัดเป็นโรคติดต่อชนิดเฉียบพลันที่มีการอักเสบของเนื้อปอด เกิดจากการติดเชื้อซึ่งอาจเป็นได้ทั้งเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียจนทำให้ปอดอักเสบ กระทบต่อการทำงาน ทำให้ออกซิเจนไม่สามารถเข้าไปในปอดและไม่สามารถแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนได้ ทำให้เกิดอาการเหนื่อยหอบได้ และเนื่องจากว่าโรคนี้เป็นโรคที่เกิดขึ้นกับปอด ซึ่งเป็นอวัยวะที่มักได้รับผลกระทบในผู้ป่วยโควิด-19 ด้วย ทำให้การจำแนกอาการระหว่าง 2 โรคนี้ทำได้ยากกว่าโรคอื่นๆ แนะนำว่าปรึกษาแพทย์เฉพาะทางจะดีที่สุด
#โรคโลหิตจาง
หรือภาวะซีด เป็นภาวะที่ร่างกายมีปริมาณเม็ดเลือดแดงในเลือดน้อยกว่าปกติ ซึ่งเม็ดเลือดแดงนี้จะทำหน้าที่ในการขนส่งออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย ดังนั้นเมื่อมีปริมาณเม็ดเลือดแดงน้อยกว่าปกติ ก็จะทำให้เม็ดเลือดแดงทำงานน้อยลง ส่งผลให้การทำหน้าที่ในการนำออกซิเจนไปยังเซลล์และเนื้อเยื่อในอวัยวะต่างๆ ก็ลดน้อยลงไปด้วย จึงทำให้มีอาการเหนื่อยง่ายนั่นเอง ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง ก็อาจมาจากการเสียเลือด การสร้างเม็ดเลือดแดงที่ลดลง หรือเม็ดเลือดแดงถูกทำลายมากขึ้น นี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่โรคโลหิตจางมักจะพบในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ ก็เพราะมีประจำเดือนนั่นเอง
#โรคไทรอยด์เป็นพิษ
โดยปกติแล้วต่อมไทรอยด์มีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนที่มีผลต่อการทำงานในระบบต่างๆ ในร่างกาย ทั้งระบบไขมันในเลือด ระบบย่อยอาหาร การทำงานของกล้ามเนื้อ การควบคุมอุณหภูมิร่างกาย รวมถึงช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของร่างกาย ซึ่งหากต่อมไทรอยด์ทำงานมากกว่าปกติหรือเกิดภาวะไทรอยด์เป็นพิษก็จะทำให้ฮอร์โมนไทรอยด์ผลิตออกมาเยอะมากเกินไป ทำให้ฮอร์โมนเข้าไปกระตุ้นการทำงานของอวัยวะต่างๆ เช่น หัวใจ ส่งผลให้หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น และเหนื่อยง่าย ได้เช่นเดียวกัน
แต่ทั้งหมดที่ว่ามาก็ใช่ว่าจะดีไปกว่าโควิด-19 ฉะนั้นถ้าสังเกตพบว่าร่างกายมีความผิดปกติยังไงก็รีบไปรับการรักษาตามอาการที่เป็นจริง นั่นน่าจะดีที่สุด