หยุด! อาการเพลงติดหู ด้วย 5 วิธีนี้
หลังจากที่ฟังเพลง “ชิพกับเดล” ที่กำลังเป็นที่โด่งดังและระบาดอยู่ในช่วงนี้ ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเราเผลอเปิดฟังหลายรอบจนร้องตามได้ ด้วยความฮ็อตของเจ้าชิพแอนด์เดล นอกจากเพลงเวอร์ชั่นออริจินัลจากการ์ตูนเรื่อง Mickey Mouse ตอน Our Floating Dreams แล้ว ยังมีอีกหลายเวอร์ชั่นที่คนนำมารีมิกซ์ใหม่ ทั้ง R&B อะคูสติกส์ และอีกมากมาย ฟังไปฟังมาเพลงมันก็เริ่มติดอยู่ในหัว ไม่ว่าจะนั่งทำงาน ขับรถ หรือกินข้าว หรือแค่เห็นภาพด้านล้างนี้ก็ได้ยินเสียงออกมาจากภาพ เหมือนกับว่าเราถูกล้างสมองไปซะแล้ว
อาการเพลงติดหู หรือ Earworm เกิดจากการที่เราได้ยินเพลงหรือทำนองที่ติดหู ทำให้เรานึกถึงเนื้อร้อง ทำนองเพลงซ้ำๆ วนเวียนในหัว หรืออาจทำให้เราเผลอร้องตามทั้งวันแบบไม่รู้ตัวจนอาจทำให้รู้สึกรำคาญเมื่อต้องใช้สมาธิได้
ซึ่งอาการเพลงติดหูนี้ไม่ใช่อาการทางจิตเวช แค่ทำให้รบกวนจิตใจ สามารถหายเองได้หากมีสิ่งอื่นที่น่าสนใจมาทดแทน กรมสุขภาพจิตจึงออกมาแนะนำ 5 วิธี หยุดอาการเพลงดังในหัว ให้เราไปลองทำตามกันได้ง่ายๆ
1. หาเพลงฉบับเต็มมาฟังจนจบ โดยไม่ฟังเพียงท่อนเดียว
การฟังเพลงวนอยู่ท่อนเดียว จะเป็นการตอกย้ำให้ยิ่งจำเข้าไปอีก ทางที่ดีควรฟังแบบเต็มเพลงไปเลย แต่ถ้าทั้งเพลงมันมีอยู่ท่อนเดียวเหมือนเจ้าชิพแอนด์เดลล่ะก็ข้ามไปวิธีที่ 2 ได้เลย
2. ฟังเพลงอื่นที่เคยฟังแล้วไม่มีอาการ
หาเพลงอื่นฟังวนไป เพื่อให้มีเนื้อร้องหรือทำนองอื่นๆ เข้ามาในหัวบ้าง ...แป๊ปเดียวก็ยังดี
3. เล่นเกมที่ต้องใช้ความคิด
ลองหาเกมลับสมองอย่างครอสเวิร์ด Sudoku เกมเศรษฐี รูบิค หรือแอพ Lumosity Brain-Training ช่วยให้เรามีสมาธิจดจ่อกับเกม และลืมเพลงที่ตามหลอกหลอนไปได้
4. ไม่ให้ความสนใจ และเชื่อมั่นว่าอาการจะหายไปเอง
แกล้งลืมๆ ไปบ้างว่ามีเพลงนี้อยู่ พยายามไม่ใส่ใจ หากิจกรรมอื่นทำและอย่าเผลอเปิดเพลงนี้ซ้ำอีกล่ะ
5. เคี้ยวหมากฝรั่ง
มีงานวิจัยบอกว่าเมื่อขากรรไกรซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการร้องเพลง ถูกใช้งานอยู่ ความสามารถในการจินตนาการถึงเสียงเพลงที่อยู่ในหัวของเราจะลดลง
ปกติอาการเพลงติดหูจะค่อยๆ หายไปเองเมื่อเวลาผ่านไป แต่ถ้าเราอยากกลับมามีหูโล่งๆ แบบเร่งด่วน ลองทำตาม 5 วิธีนี้ดู เราขอบีบมือให้กำลังใจทุกคนผ่านพ้นไปได้ด้วยดี