สายเบิร์นต้องรู้ไว้ ออกกำลังตอนไหนเวิร์กสุด
เคยมั้ยที่คิดตอนเช้าว่า “เดี๋ยวเย็นนี้กลับมาค่อยออกกำลังกายดีกว่า จะได้มีเวลาออกนานหน่อย” พอตัดภาพมาตอนเย็น ก็เหนื่อยเกินกว่าจะขยับร่างทำอะไร แถมยังบอกกับตัวเองว่า “พรุ่งนี้เช้าค่อยออกแล้วกัน จะได้เผาผลาญไขมันได้ดีกว่า” เป็นอย่างนี้วนไปจนสุดท้ายก็ไม่ได้ออกกำลังตอนไหนเลย แต่พอตั้งใจจะออกเข้าจริงๆ ก็มีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยอินเดียนา เมืองบลูมิงตัน ระบุว่า หากเราออกกำลังกายตอนเช้า จะช่วยทำให้ความดันโลหิตลดลง เพราะความดันหัวใจขณะบีบตัว จะปรับลง 8 จุดใน 11 ชั่วโมง และความดันหัวใจขณะคลายตัวจะลดลง 6 จุด นาน 4 ชั่วโมงหลังจากออกกำลังกายตอนเช้า ซึ่งสวนทางกับอีกหลายๆ งานวิจัยที่ระบุว่า ร่างกายจะมีศักยภาพสูงสุดในตอนบ่าย ด้วยเพราะปกติอุณหภูมิร่างกายจะเพิ่มขึ้นตลอดทั้งวัน และช่วงเวลาระหว่างบ่าย 2 ถึง 6 โมงเย็น ร่างกายจะมีอุณหภูมิสูงที่สุด ดังนั้นการออกกำลังกายในช่วงเวลานี้ จะเป็นเวลาที่ร่างกายพร้อมมากที่สุด
สรุปแล้ว เช้า สาย บ่าย เย็น เวลาไหนถึงจะ (ฤกษ์) ดีในการออกกำลังกายกันล่ะ งงไปหมดแล้ว
ออกกำลังเช้า เผาผลาญตลอดวัน
ช่วงเวลาหลังจากตื่นนอนในตอนเช้าหลังเป็นช่วงที่ร่างกายกำลังฟื้นตัวจากการพักผ่อนมาตลอดคืน การออกกำลังกายในตอนเช้าจึงเป็นเสมือนการเริ่มต้นวันที่ดีและมีคุณภาพ เพราะ
• ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญของร่างกาย ทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
• ช่วยในการลดน้ำหนัก จากงานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสารวิชาการ Medicine and Science in Sports and Exercise ได้ศึกษาการตอบสนองต่ออาหารหลังจากที่ผู้หญิงออกกำลังกายเป็นอย่างแรกในตอนเช้า พบว่ากลุ่มตัวอย่างมีปฏิกิริยาน้อยลงกับภาพอาหารที่ดูน่าอร่อย เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ออกกำลังกาย และยังพบอีกว่า ในวันที่กลุ่มตัวอย่างออกกำลังกายในตอนเช้า พวกเขาเคลื่อนไหวร่างกายมากขึ้นตลอดทั้งวัน มากกว่าวันที่ไม่ได้ออกกำลังกายในตอนเช้า
• กระตุ้นระบบการทำงานของหัวใจ ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น
• สร้างความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และตื่นตัวพร้อมที่จะทำกิจกรรมต่างๆ เพราะขณะออกกำลังกายร่างกายจะหลั่งสารเอ็นโดรฟิน และช่วยกระตุ้นให้ระบบต่างๆ ของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น
• เปิดโอกาสให้ร่างกายได้สูดอากาศบริสุทธิ์ สดชื่น
• ช่วยในการฝึกสมาธิ เพราะมีสิ่งรบกวนน้อย
อึดกว่าถ้าออกกำลังช่วงบ่าย
ช่วงเวลาบ่าย หลายคนมักมีอาการง่วงเหงาหาวนอน ซึ่งการออกกำลังกายเวลานี้จะนอกจากจะช่วยลดอาการดังกล่าวแล้ว ยังจะทำให้ออกกำลังกายได้นานกว่า เพราะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายทำงานอย่างเต็มที่ และอุณหภูมิในร่างกายอยู่ในระดับปกติ เช่นเดียวกับการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายที่เพิ่งฟื้นตัวจากการพักผ่อน นอกจากนี้การออกกำลังกายในช่วงกลางวันยังข้อดีอื่นๆ ดังนี้
#ช่วยลดความอยากอาหาร ในมื้อกลางวันและมื้อเย็น
#กระตุ้นการทำงานของร่างกาย ให้กระปรี้กระเปร่ามากขึ้น
#ช่วยผ่อนคลาย ความเครียด
#สามารถออกกำลังกายได้โดยไม่ต้องอบอุ่นร่างกายมาก เนื่องจากอุณหภูมิร่างกายอบอุ่นเพียงพอ สอดคล้องกับบทความของ David W. Hill ในวารสาร Ergonomics ที่บอกไว้ว่าในช่วงบ่ายของวัน ร่างกายจะมีความแข็งแรงและยืดมากขึ้นกว่าในช่วงเวลาอื่น 5% ซึ่งเหมาะกับการออกกำลังกาย
สะดวกปลอดภัยยกให้ช่วงเย็น
ถ้าจะถามเวลาสะดวกของคนส่วนใหญ่ต้องยกให้ช่วงเวลาเย็น เพราะเป็นช่วงที่เสร็จสิ้นภารกิจและความรับผิดชอบต่างๆ จึงสามารถใช้เวลาออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ (ถ้าไม่มีข้ออ้างอ่ะนะ) ซึ่งการออกกำลังกายช่วงเวลานี้จะทำให้
►การออกกำลังกายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะโดยทั่วไปแล้วอุณหภูมิและฮอร์โมนในร่างกายจะสูงที่สุดในช่วง 18.00 น เป็นต้นไป
►ลดความเสี่ยงและโอกาสของการเกิดการบาดเจ็บ เพราะอุณหภูมิในร่างกายอยู่ในระดับปกติ
►มีพลังงานในการออกกำลังกาย จากอาหารที่กินไปตลอดทั้งวัน ทำให้สามารถออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่
►ช่วยผ่อนคลายความเครียด และลดอาการเมื่อยล้าจากกิจกรรมที่ทำตลอดทั้งวัน
►ช่วยลดความอยากอาหารในมื้อเย็นได้ ทำให้ไม่รับประทานมากจนเกินไปในช่วงเย็น
ขึ้นชื่อว่าเป็นการออกกำลังกาย จะออกตอนไหน ยังไงก็คงดีกว่าอยู่เฉยๆ
เพราะฉะนั้นก็เอาเวลาที่ตัวเองสะดวกนั่นแหล่ะเวิร์กสุด!
เพราะฉะนั้นก็เอาเวลาที่ตัวเองสะดวกนั่นแหล่ะเวิร์กสุด!