สปาเท้าให้สวย สุขภาพดี เมื่อต้องลุยน้ำท่วมรอระบาย
เมื่อเข้าสู่หน้าฝนเต็มรูปแบบ ฟ้าก็ครึ้มเหมือนฝนจะตกได้เกือบทุกวัน ยิ่งถ้าตกหนักๆ ในช่วงเลิกงาน เรียกว่าเป็นฝันร้ายของใครหลายๆ คนเลยทีเดียว เพราะต้องลุ้นด้วยอาการตุ้มๆ ต่อมๆ ว่าจะมีจุดไหนที่… น้ำท่วมรอระบายอยู่บ้าง บางครั้งไม่มีทางเลือกก็ต้องยอมลุยน้ำเพื่อจะกลับบ้าน คนที่ใช้รถสาธารณะก็หนีไม่พ้นที่ต้องเดินลุยฝ่าน้ำท่วมไปขึ้นรถ แม้แต่คนที่ขับรถก็อาจต้องเดินลุยน้ำเพื่อไปเอารถที่จอดไว้ แล้วการที่เราต้องเดินลุยน้ำท่วมขังในจุดต่างๆ เราควรจะต้องทำความสะอาด หรือจัดการสปาเท้าอย่างไร? เพื่อให้เท้าที่ (จำเป็น) ต้องเดินลุยน้ำขัง ปลอดภัยจากเชื้อโรคที่มองไม่เห็น พร้อมเทคนิคช่วยบำรุงเท้าคุณให้สวยและเนียนนุ่มสปาเท้าให้สะอาด หลัง (ต้อง) ลุยน้ำ… รอระบาย
น้ำท่วมขังมักเต็มไปด้วยสิ่งสกปรกที่มองไม่เห็น ซึ่งอาจนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายของคุณได้ หากคุณไปเดินลุยน้ำท่วมขังมา ก็ควรที่จะต้องรีบทำความสะอาดหรือสปาเท้าของคุณโดยด่วน ไม่อย่างนั้นอาจทำให้เท้าคุณเกิดปัญหาได้! ว่าแต่…ต้องทำความสะอาดยังไงถึงจะดี มาดูกัน?
- ทำความสะอาดทันที เมื่อเท้าคุณเดินลุยน้ำท่วมมา เริ่มต้นด้วยการล้างเท้าให้สะอาด หลังจากนั้นฟอกสบู่ให้ทั่วทุกซอกมุม และใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ ฟูๆ เช็ดให้แห้ง โดยอย่าลืมเช็ดบริเวณซอกเท้า, ซอกนิ้วเท้า และซอกเล็บให้แห้งเพื่อป้องกันการอับชื้น ที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดเชื้อรา
- ใช้แป้งฝุ่นทารอบๆ เท้าหลังจากเช็ดเสร็จ (ต้องไม่มีแผลที่เท้านะ) ทาบริเวณเท้าและซอกเท้า แป้งฝุ่นจะช่วยลดความชื้นและกำจัดสิ่งสกปรก ส่วนสำหรับใครที่มีแผลที่เท้าให้ใช้แอลกอฮอลล์ และน้ำยาฆ่าเชื้อแทน หลังจากนั้นใช้ครีมทาเท้าหรือโลชั่นบำรุงผิวทาที่บริเวณหลังเท้า, ฝ่าเท้า และส้นเท้า เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่น และยังช่วยลดอาการแห้งหรือแตกให้กับผิวเท้าของคุณได้อย่างดี
- ตัดเล็บเท้าเพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค และช่วยรักษาความสะอาด
- หากคุณเป็นคนที่ต้องลุยน้ำท่วมอยู่บ่อยๆ เราแนะนำให้ทาขี้ผึ้งหรือวาสลีนก่อนต้องเดินลุยน้ำ ซึ่งมันจะทำหน้าที่ช่วยเคลือบเท้า ป้องกันไม่ให้ผิวเท้าสัมผัสกับน้ำที่มีเชื้อโรคและสิ่งสกปรก
แชร์เทคนิค…ดูแลเท้าให้เนียนนุ่มดุจปุยเมฆ หลังทำสปาเท้า
นอกจากการสปาเท้าเพื่อความสะอาดที่ต้องหมั่นดูแลกันแล้ว การบำรุงผิวเท้าและการพักผ่อนเท้า ก็เป็นเรื่องที่ควรทำควบคู่กันไป เพื่อให้เท้านุ่มและดูเรียบเนียนยิ่งขึ้น โดยอาจเริ่มจากขั้นตอนง่ายๆ ตามนี้เลย
- ขัดเท้าเป็นประจำทุกอาทิตย์ เพื่อช่วยขัดเซลล์ผิวที่ตายออก อาจจะใช้เป็นใยบวบหรือหินขัดเท้าช่วย หลังจากที่ขัดเสร็จเรียบร้อย ให้ใช้น้ำมันมะกอกทาที่บริเวณผิวเท้า เพราะว่าในน้ำมันมะกอกอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินอี ช่วยให้ผิวเท้าชุ่มชื่น ไม่แห้งกร้านเป็นสะเก็ด
- เติมความฟินไปอีกขั้นด้วยการแช่น้ำอุ่นครั้งละ 10-15 นาที จะช่วยทำให้เท้านุ่มและรู้สึกผ่อนคลาย ต่อด้วยการบำรุงเท้าอย่างธรรมชาติ โดยนำกล้วยบดผสมกับมะนาว ทาให้ทั่วบริเวณรอบเท้า ทิ้งไว้ 20 นาทีจึงล้างออก จากนั้นใช้ปิโตรเลียมเจลทารอบๆ เท้าเป็นขั้นตอนสุดท้าย สำหรับวิธีนี้เราขอแนะนำให้ทำเดือนละ 2 ครั้ง เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับเท้า
- ใส่ถุงเท้าเป็นประจำ เพราะถุงเท้ามีส่วนช่วยกันฝุ่น, สิ่งสกปรก และแดดไม่ให้มาทำร้ายเท้าของคุณ และการใส่ถุงเท้าในช่วงเวลานอนก็จะสามารถช่วยรักษาความชุ่มชื้นหลังจากทาครีมบำรุงที่เท้าได้อีกด้วย
- พักเท้าด้วยการหยุดใส่รองเท้าส้นสูง เปลี่ยนมาใส่รองเท้าส้นแบนหรือส้นเตี้ย เพราะรองเท้าส้นสูงอาจทำให้เท้าเกิดอาการล้าหรือบาดเจ็บได้ง่าย การเปลี่ยนรองเท้าจึงมีส่วนช่วยฟื้นฟูสุขภาพเท้าได้อีกทางหนึ่ง
การดูแลเท้าเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะทุกวันที่เราออกไปข้างนอกมักต้องเจอกับสิ่งสกปรก รวมถึงบางครั้งที่ต้องเดินลุยน้ำท่วมเพราะหลีกเลี่ยงไม่ได้ การดูแลความสะอาดของเท้าจึงสำคัญอย่างยิ่ง เพราะสามารถช่วยปกป้องเชื้อโรคจากสิ่งสกปรก รวมถึงต้องไม่ลืมการบำรุงผิวเท้าให้เนียนนุ่มอยู่เสมอ เพื่อช่วยเสริมความมั่นใจ ไม่ว่าจะใส่รองเท้าคู่ไหนก็ดูดีดูสวย หรือแม้แต่บางสถานการณ์ที่ต้องถอดรองเท้า ก็มั่นใจได้ว่าเท้าของคุณจะเรียบเนียน สุขภาพดี อวดได้แบบไม่ต้องอายใครเลยล่ะ