รู้มั้ย? แค่ไม่กินข้าวเช้า...ก็เพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเกิด(หลาย)โรค
ตอนเด็กๆ เคยโดนแม่ว่าอยู่บ่อยๆ ว่า “ไม่กินข้าวเช้าเดี๋ยวจะโง่เอานะ” เราก็เคยคิดแหละว่าแค่ไม่กินข้าวเช้าจะทำให้เราโง่ได้ยังไงกัน จนพอโตเป็นผู้ใหญ่และได้มีโอกาสอ่านบทความที่พูดถึงงานวิจัยชิ้นนึง ที่เค้าบอกไว้ว่า การอดอาหารเช้านั้นจะส่งผลให้ความจำแย่ลง สมองทำงานได้แย่ลง ถึงได้รู้ว่าสิ่งที่แม่พูดนั้นเป็นความจริง! แต่นั่นไม่ใช่เอฟเฟกต์ที่น่ากลัวเพียงอย่างเดียวหรอก เพราะจริงๆ แล้ว...การไม่กินข้าวเช้า สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอีกเพียบ
โรคหลอดเลือดหัวใจ...และหลอดเลือดสมอง
จากผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน JAMA พบว่า ผู้ชายที่งดอาหารเช้ามีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคหัวใจวายมากกว่าคนที่กินอาหารเช้าประมาณ 27% โดยอาจเกิดมาจากการขาดมื้อเช้านั้นมีผลให้ความดันโลหิตสูง ซึ่งเมื่อความดันโลหิตสูงจะทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือดมาเลี้ยงร่างกาย กล้ามเนื้อหัวใจหนาขึ้น หลอดเลือดหัวใจเกิดอุดตัน...นำไปสู่ภาวะหัวใจวายได้
ซึ่งการงดอาหารเช้าไม่เพียงส่งผลต่อหลอดเลือดหัวใจ แต่ภาวะความดันโลหิตสูงยังส่งผลอันตรายต่อหลอดเลือดสมอง ทำให้เกิดหลอดเลือดสมองอุดตันได้ เท่ากับว่า...แค่กินอาหารเช้าเป็นประจำก็ช่วยลดความเสี่ยงได้ถึง 2 โรคอันตรายเลยนะ
โรคเบาหวาน
Harvard University School ได้มีการทำวิจัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการกินและสุขภาพ โดยติดตามผู้เข้าร่วมเพศหญิงจำนวน 46,289 คน ตลอดระยะเวลา 6 ปี พบว่า...ผู้หญิงที่มีนิสัยไม่กินอาหารเช้าจะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มากกว่า โดยพบว่าผู้หญิงวัยทำงานที่ไม่กินอาหารเช้าจะมีโอกาสเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มากถึง 54% ซึ่งก็สอดคล้องกับผลการศึกษาที่ว่าการกินอาหารเช้าเป็นประจำ ช่วยลดการเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน...สาเหตุของโรคเบาหวานได้ร้อยละ 30-50 เลยทีเดียว
โรคอ้วน
เพราะการอดมื้อเช้าจะส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ความอยากอาหารที่มีน้ำตาลก็จะสูงขึ้น บวกกับความหิวโหยที่ท้องว่างมานานหลายชั่วโมงตั้งแต่เมื่อคืน ทีนี้ล่ะ! ทั้งของหวาน ของทอด ขนมนมเนย ก็จะถาโถมเข้ามาในหัวของคุณมากมาย กลายเป็นกินหนักจนเกินความจำเป็น และที่สำคัญการอดมื้อเช้ายังส่งผลให้การทำงานของระบบเผาผลาญแย่ลง ทั้งกินเยอะ...ทั้งเผาผลาญแย่ ก็ไม่แปลกที่คุณจะเสี่ยงโรคอ้วนได้ง่ายกว่าคนที่กินอาหารเช้า
โรคนิ่ว
ในทุกๆ ครั้งที่เรากินอาหารเช้า ตับจะผลิตน้ำดีออกมาเพื่อละลายไม่ให้คอเลสเตอรอลจับตัวกันเป็นก้อน ซึ่งการอดมื้อเช้าก็เท่ากับการปล่อยให้ร่างกายไม่ได้รับอาหารนานหลายชั่วโมง และเมื่อท้องว่างนานมากกว่า 14 ชั่วโมง ก็จะส่งผลให้คอเลสเตอรอลในถุงน้ำดีจับตัวกัน หากสะสมนานวันเข้าก็จะกลายเป็นก้อนนิ่วได้
โรคอัลไซเมอร์
มีการศึกษาในกลุ่มวัยรุ่น โดยทำการทดลองเปรียบเทียบจำนวนสองครั้ง ครั้งที่หนึ่งให้มีการกินอาหารเช้าแล้วจึงทำการทดสอบ ในขณะที่ครั้งที่สองให้งดอาหารเช้า ซึ่งพบว่า...ครั้งที่มีการกินอาหารเช้าปกตินั้น สมองมีการทำงานที่ดี ประสิทธิภาพความจำดีกว่าครั้งที่ไม่ได้กินอาหารเช้า นั่นอาจบอกได้ว่าอาหารเช้าช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง ช่วยให้ร่างกายสดชื่น ไม่หลงลืม และหากปรับพฤติกรรมให้เสพติดการกินอาหารเช้าในทุกๆ วัน ก็จะช่วยให้ลดโอกาสเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ในอนาคตได้
โรคมะเร็ง
หากจะถามว่า เอ๊ะ! แค่อดอาหารเช้าถึงกับเสี่ยงโรคมะเร็งได้เลยหรอ? ซึ่งเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงนั้น...เป็นความต่อเนื่องมาจากผลการวิจัยของ Cancer Research UK ที่บอกไว้ว่า คนที่มีน้ำหนักเกินหรือมีภาวะอ้วนนั้นจะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น และการอดอาหารเช้าก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะอ้วนได้นั่นเอง
สายมนุษย์ออฟฟิศคนไหนที่ไม่ค่อยกินข้าวเช้า เพราะคิดว่าแค่กาแฟเข้มๆ แก้วเดียวก็เอาอยู่ อยากจะบอกว่า...หลายๆ พฤติกรรมทำให้คุณเสี่ยงต่อโรคร้ายได้มากมาย และจะดีกว่ามั้ย? ถ้าแค่กลับมากินข้าวเช้าเป็นประจำ ก็ทำให้คุณลดโอกาสเสี่ยงโรคเหล่านั้นได้แล้ว