รู้มั้ย? การใส่ชุดนอนซ้ำๆ คือแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดี
เชื่อได้ว่าหลายคนต้องเคยใส่ชุดนอนแล้วไม่ยอมเอาไปซัก แอบเก็บไว้ใส่ต่ออีกซักคือสองคืน เพราะคิดว่าใส่ไปแค่ไม่กี่ชั่วโมง แถมก่อนใส่ก็อาบน้ำเรียบร้อย ตอนนอนก็ไม่ได้ไปเจออะไรสกปรกที่ไหน ก็ไม่เห็นจะต้องเปลี่ยนทุกวันก็ได้มั้ง ???
แต่ !!! รู้มั้ยว่า ชุดนอนที่เราชอบใส่ซ้ำๆ มันเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคชั้นดีเลยล่ะ แค่ได้ยินประโยคนี้ก็ขนลุกกันแล้วใช่มั้ยล่ะ!
ถ้าคุณเป็นคนชอบใส่ชุดนอนซ้ำๆ เราบอกเลยว่าคุณไม่ได้เป็นแบบนี้แค่คนเดียวเพราะเราไปเจอข้อมูลจากเว็บไซต์ Pretty You LONDON แบรนด์เสื้อผ้าจากสหราชอาณาจักร บอกว่า จากผลสำรวจพบว่าประชากรในสหราชอาณาจักรกว่า 68% ใส่ชุดนอนซ้ำๆ โดยไม่ซัก มีเพียง 32% เท่านั้นที่เปลี่ยนชุดนอนเป็นประจำ
และยังไม่หมดเท่านี้ เพราะยังมีเรื่องที่น่าตกใจมากกว่านั้นคือ คนจำนวน 32.5% ใส่ชุดนอนตัวเดิมซ้ำกันเป็นเวลา 1 สัปดาห์ อีก 35.5% ใส่ชุดนอนตัวเดิมซ้ำกันเป็นเวลา 2 สัปดาห์และอีก 7.5% ใส่ชุดนอนซ้ำกันเกิน 1 เดือน นอกจากนี้ยังพบอีกว่าทั้งผู้หญิงและผู้ชายกว่า 91% บอกว่าจะซักชุดนอนก็ต่อเมื่อมันเริ่มมีกลิ่นเหม็น....OMG !
ชุดนอน…ใส่แค่ไม่กี่ชั่วโมง ทำไมต้องเปลี่ยนบ่อยๆ ด้วย?
สำหรับใครที่กำลังสงสัยหนัก เพราะเราก็ใส่แค่ตอนนอนไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว ไม่น่าจะมีสิ่งสกปรกอะไร แต่จริงๆ แล้วเราควรเปลี่ยนชุดนอนทุกวันเพราะชุดนอนเป็นสิ่งที่สัมผัสผิวหนังเรามากที่สุด ส่วนมากเวลานอนเราก็ต้องการความสบายทำให้หลายๆ คนมักจะไม่ใส่ชุดชั้นในหรือกางเกงในเวลานอน ซึ่งนั่นทำให้สิ่งสกปรกที่มาจากชุดนอนสามารถเข้าสู่ร่างกายเราได้โดยตรง
สิ่งสกปรกหรือเชื้อโรค...มาจากไหนกัน?
สิ่งสกปรกหรือเชื้อโรคพวกนี้จะมาจากเหงื่อหรือที่นอนของเรา โดยเฉพาะผ้าปูที่นอนที่มีทั้งสิ่งสกปรก ไรฝุ่นต่างๆ ที่เรามองไม่เห็นหรือตอนนอนเราอาจจะมีเหงื่อออกโดยไม่รู้ตัว การที่เราใส่ชุดนอนซ้ำๆ ก็เป็นการสะสมคราบเหงื่อ ฝุ่นต่างๆ อาจส่งผลให้เป็นโรคผิวหนังหรือภูมิแพ้เรื้อรังได้
รู้แบบนี้แล้วใครที่ชอบใส่ชุดนอนซ้ำๆ ก็ลองเปลี่ยนมาใส่ตัวอื่นดูบ้างเพื่อสุขภาพที่ดีของเรานะ