รู้ทันโรคซึมเศร้า แค่ออกกำลังเบาๆ ก็หายได้
เพราะ “โรคซึมเศร้า” คือโรคที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่ต่างกับโรคอื่นๆ ทั่วไป โดยข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกระบุว่าปัจจุบันมีผู้ป่วยด้วยโรคซึมเศร้ากว่า 300 ล้านคน หรือคิดเป็น 4% ของจำนวนประชากรทั้งโลก 7,500 ล้านคน นั่นจึงแปลว่าใครก็มีสิทธิ์เป็นได้เหมือนกัน โดยเฉพาะในตอนนี้ที่สารพัดเรื่องเครียดเข้ามาประชิดติดตัวทำเสมือนเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ซึ่งการรักษาแม้จะสามารถทำได้ด้วยการใช้ยา ร่วมกับการรักษาทางจิตใจ แต่ล่าสุดได้มีผลการศึกษาชิ้นใหม่ในวารสารการแพทย์อย่าง Frontiers in Psychiatry ที่แสดงให้เห็นว่า การออกกำลังกายเป็นประโยชน์กับการพัฒนาสมอง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
ซึม แต่ไม่ เศร้า… ถ้าเราขยับร่างกาย
การวิจัยนี้ได้ทำการศึกษาโดยแบ่งผู้ที่มีอาการของโรคซึมเศร้าจำนวน 41 คน ออกเป็น 2 กลุ่ม โดยมอบหมายให้กลุ่มแรกออกกำลังกายนาน 60 นาที จำนวน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ นาน 3 สัปดาห์ ซึ่งโปรแกรมออกกำลังกายก็มีทั้งเพิ่มความทนทาน ความแข็งแรง และการทำงานที่สัมพันธ์กันของร่างกาย (Co-ordination) โดยเน้นไปที่ความสนุกสนานเพลิดเพลินมากกว่าจะสร้างบรรยากาศของการแข่งขัน และให้ผู้เข้าร่วมวิจัยสแกนสมองก่อนและหลังศึกษา เพื่อค้นหาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับ Neuroplasticity (ภาวะยืดหยุ่นของสมอง) ที่ช่วยเรื่องการจดจำและสร้างการเชื่อมต่อของเส้นประสาทในสมอง ทำให้สมองเปลี่ยนแปลงและปรับตัวจนเกิดเป็นการพัฒนา ซึ่งหากว่า Neuroplasticity ลดลง ก็อาจส่งผลให้เกิดโรคซึมเศร้าตามมาได้ โดยหลังผ่านไป 3 สัปดาห์ พบว่าในกลุ่มที่ออกกำลังกายมี Neuroplasticity ที่ได้รับการพัฒนาอย่างเด่นชัด แม้ว่าการออกกำลังกายนั้นๆ จะไม่ได้หนัก เพราะฉะนั้นจึงไม่จำเป็นว่าจะต้องหักโหมออกกำลังราวกับว่าจะไปแข่งโอลิมปิก แต่แค่ลุกขึ้นมาขยับก็ทำให้สมองมีพัฒนา โรคซึมเศร้าเลิกถามหาแล้ว
ลิสต์กีฬาพาฟิต พิชิตโรคซึมเศร้า
สำหรับใครที่ยังไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ให้มารวมกันตรงนี้ เพราเรามีลิสต์กีฬาลง (ทุน) แรงน้อย แต่ช่วยพัฒนาสมองได้เหมือนกัน
#การวิ่ง
เป็นกิจกรรมออกกกำลังกายที่ง่าย แถมยังทำให้ร่างกาย...และสมองแข็งแรง โดยการวิ่งเพื่อพัฒนาสมอง ไม่จำเป็นต้องทำความเร็วเหมือน Eliud Kipchoge นักวิ่งมาราธอนก็ได้ แต่แค่วิ่งเหยาะๆ ต่อเนื่องสัก 20 – 30 ก็เพียงพอแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นการวิ่งในนาทีที่ 20 เป็นต้นไป ร่างกายจะดึงเอาไขมันมาใช้เป็นพลังงานหลัก และจะใช้ไขมันมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเราออกกำลังกายต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นนอกจากช่วยบรรเทาอาการของโรคซึมเศร้าแล้ว ยังช่วยฟิตหุ่นไปด้วยในตัวนะ
#การว่ายน้ำ
เป็นกิจกรรมที่นอกจากจะช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ แข็งแรง โดยปราศจากแรงกระแทก ลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บแล้ว ยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยฝึกสมาธิและทำให้คุณได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองอย่างแท้จริง การว่ายน้ำจึงนับว่าเป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลาย สามารถเสริมสร้างสภาวะทางอารมณ์ที่ดี และทำให้ร่างกายหลั่งเอนโดรฟิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุข ลดความเครียดและซึมเศร้าภายในจิตใจได้
#โยคะ
เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับจิตใจโดยตรง ทั้งยังเป็นการฝึกการหายใจอย่างถูกต้อง ร่างกายจึงได้รับออกซิเจนอย่างเต็มที่ ซึ่งจะส่งผลดีไปยังสมองและจิตใจ ช่วยลดความวิตกกังวล และความกระวนกระวายใจ ทำให้จิตสงบ มีสมาธิมากขึ้น สามารถเพิ่มความมั่นคงทางจิตใจ ช่วยบรรเทาความเครียด ความเหนื่อยล้าจากเรื่องราวปัญหาต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ดังนั้นการออกกำลังกายด้วยโยคะจึงมีส่วนช่วยบำบัดอาการซึมเศร้าได้
#แอโรบิค
อีกหนึ่งกิจกรรมที่นอกจากจะช่วยเผาผลาญไขมัน ทำให้เลือดสูบฉีด สามารถลดระดับของไขมันในเลือดลง ลดน้ำตาลส่วนเกิน และช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายแล้ว ยังนำมาซึ่งการเสริมสร้างการพัฒนาของสมอง รวมถึงความสนุกสนานจากเสียงเพลงที่สร้างจังหวะและความผ่อนคลายให้กับผู้ร่วมกิจกรรม ซึ่งถ้าจะให้ดีควรใช้เวลา 15 - 45 นาทีเป็นอย่างน้อย
ทั้งหมดนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของลิสต์กีฬาเบาๆ แต่นำมาซึ่งประโยชน์ที่หลากหลายทั้งกับร่างกายและจิตใจ ซึ่งอันที่จริง… แค่ขึ้นชื่อว่ากีฬา ก็เป็นยาวิเศษ ที่สามารถเสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกาย เยียวยาจิตใจ ต่อเนื่องไปจนถึงการพัฒนาสมองได้ทั้งนั้น ป่ะ… ว่าแล้วก็ขอตัวไปวางแผนออกกำลังกายสักหน่อย ใครจะตามมาก็จัดเลยนะ Be Strong Together!