ของก็วางอยู่ที่เดิมทุกวัน แต่ทำไมวันนี้กลับรกหูรกตาเสียนี่ เมื่อวานก็คุยกันอยู่ดีๆ แต่วันนี้กลับรู้สึกไม่อยากคุย หงุดหงิด วุ่นวายใจ อะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมด อาการเหล่านี้เชื่อได้ว่าสาวๆ ส่วนใหญ่ต้องเคยเป็น อารมณ์แปรปรวนที่ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความงี่เง่า เอาแต่ใจ ขอให้หนุ่มๆ โปรดเข้าใจที่เป็นแบบนี้เพราะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

 

เพราะฮอร์โมนเอสโตรเจน ไม่เพียงทำหน้าที่ควบคุมระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง ช่วยให้เกิดลักษณะความแตกต่างทางกายภาพ แต่ยังมีความสำคัญต่อการทำงานของระบบต่างๆ ภายในร่างกายด้วยนะ ทั้งควบคุมความสมดุลของแคลเซียม ช่วยให้มวลกระดูกมีความหนาแน่นไม่แตกหักง่าย ช่วยควบคุมปริมาณโคเรสเตอรอล ลดโอกาสเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด และยังมีผลโดยตรงต่อสภาวะทางด้านอารมณ์และจิตใจ แล้วจะเกิดอะไรถ้าเกิดฮอร์โมนเอสโตรเจนไม่สมดุล? คำตอบก็คือ วีน เหวี่ยง เป็นคนร้ายๆ โดยไม่มีเหตุผล นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย หลงๆลืมๆ นั่นเอง

 

แปรปรวนนักใช่ไหม รับมือตามนี้ไง เอาอยู่!


 

• หลีกเลี่ยงจากสถานการณ์ที่กระตุ้นอารมณ์
เอาล่ะสาวๆ ถ้าคุยกับใครแล้วหงุดหงิดนัก ก็ให้ถอยออกมาตั้งสติและให้เวลากับตัวเอง ถ้ามองสิ่งของแล้วมันขวางหูขวางตา ก็ให้เดินออกมา มองธรรมชาติ มองบรรยากาศที่สร้างความผ่อนคลายรอบๆ ตัว ไม่ว่าจะสถานการณ์ใดๆ ก็ตามถ้าอยู่ตรงนั้นแล้วรู้สึกไม่ดี ก็ให้หลีกหนี แล้วมาใช้เวลาในการผ่อนคลาย ควบคุมอารมณ์และความรู้สึกให้คงที่แล้วค่อยกลับเข้าไป
 

• ทำสิ่งที่แฮปปี้
เมื่อหนีจากสถานการณ์ที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกไม่ดีแล้ว สิ่งต่อมาก็คือการหากิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย ไม่ว่าจะชมนกชมไม้ ฟังเพลง อ่านหนังสือ เล่นดนตรี เล่นเกม ช็อปปิ้ง ดูหนัง ดื่มด่ำกับซีรีส์ ไปปาร์ตี้กับคนรู้ใจ นอกจากจะช่วยให้ไม่หมกมุ่นอยู่กับความรู้สึกลบๆ แล้ว ยังเป็นการเสริมทักษะต่างๆ ในการใช้ชีวิตไปในตัว
 

• หาอะไรทานสักนิด
มีงานวิจัยพบว่าปริมาณน้ำตาลในเลือดส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ได้ด้วยนะ เพราะเมื่อปริมาณน้ำตาลในเลือดลดต่ำลง ร่างกายจะเริ่มแสดงปฏิกิริยาพื้นฐานกระตุ้นให้เกิดความหิวหรือความอยากอาหาร แต่ถ้าไม่ได้รับการตอบสนอง ก็จะส่งผลต่อสภาพจิตใจทำให้เรามองโลกในแง่ลบมากกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นเมื่อรู้สึกหงุดหงิดใจลองหาอะไรที่มีประโยชน์ทานดู แล้วคุณจะรู้สึกดีขึ้น
 

• ระบายความคิดผ่านตัวอักษร
ไม่ว่าจะเป็นการเขียนไดอารี่ หรือการพิมพ์บันทึกต่างๆ ผ่านสมาร์ทโฟนก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยระบายความรู้สึกขุ่นมัวออกมาได้ดีทีเดียว ยิ่งถ้าทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่องแล้วละก็ อาจจะช่วยให้เรารู้ได้ว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่มักกระตุ้นให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ เช่น ช่วงเวลา บุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย อย่างช่วงมีประจำเดือน หรือช่วงก้าวเข้าสู่วัยทองนั่นเอง และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยให้เรารู้ทันอารมณ์ของตัวเอง
 

• พักผ่อนให้เพียงพอ
จริงๆ แล้วในช่วงอายุ 18-64 ปี ควรนอนวันละประมาณ 7-9 ชั่วโมง แต่ปัจจุบันกลับพบว่าคนในวัยทำงานส่วนใหญ่นอนไม่ถึง 6 ชั่วโมงต่อวัน แล้วคุณเป็นหนึ่งในนั้นหรือเปล่า? การอดนอนไม่เพียงส่งผลกระทบต่อสุขภาพกาย แต่ส่งผลเสียต่อสภาพจิตใจและอารมณ์ เพราะการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอจะไปกระตุ้นสมองส่วน Amygdala (อะมิกดาลา) ซึ่งเป็นสมองส่วนที่เปรียบดั่งศูนย์สั่งการอารมณ์ ให้ทำงานมากขึ้น จึงเพิ่มโอกาสที่จะทำให้เรารู้สึกหัวร้อน หงุดหงิดฉุนเฉียวมากขึ้น และยังทำให้การควบคุมอารมณ์ในสภาวะคับขันแย่ลงด้วยนะ

หรือหากลองทุกวิธีแล้วยังไม่ดีขึ้น ลองให้ LAVITA VITA-W   เป็นตัวช่วยรักษาสมดุลฮอร์โมนดูไหม อีกหนึ่งไอเท็มดีๆ ที่จะช่วยรับมืออารมณ์แปรปรวนตั้งแต่ระดับฮอร์โมน

 

พร้อมติดตามโปรโมชั่นอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ HA Store