จริงอยู่ที่พูดกันว่า กีฬาเป็นยาวิเศษ’ แต่บางครั้งถ้าไม่ระวัง ‘ยาวิเศษ’ ที่ว่าก็อาจทำให้บาดเจ็บได้เหมือนกัน ซึ่งจากผลการศึกษาของ นพ.ไกรพ วิวัฒนพณิชย์ แพทย์กระดูกแลข้อ เวชศาสตร์การกีฬา โรงพยาบาลลานนา ได้บอกไว้ว่า โครงสร้างของอวัยวะที่มีการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬามากที่สุดคือ ข้อต่อและเอ็นยึดข้อต่อ โดยคิดเป็นร้อยละ 47.6 รองลงมาคือ กล้ามเนื้อ ร้อยละ 23.8 ถ้างั้นต้องมาลองเช็กดูแล้วล่ะ ว่ากีฬาอะไรที่ต้องระวัง เพราะอาจเปลี่ยนจาก ‘ร่างปัง’ เป็น ‘ร่างพัง’ ได้เหมือนกัน 

 

เป็นเกมการแข่งขันที่ต้องมีการปะทะกันอยู่ตลอดเวลา จึงอาจทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการบาดเจ็บขึ้นได้กับกระดูกเชิงกรานและสะโพกบริเวณขั้วเอ็นกล้ามเนื้อและจุดยึดเอ็นกล้ามเนื้อ ในขณะที่ตำแหน่งผู้รักษาประตูก็อาจเกิดการบาดเจ็บได้ที่ปุ่มกระดูกต้นขาด้านนอกที่อาจเกิดการระคายเคืองจากการวิ่ง นอกจากนี้ด้วยความที่เป็นกีฬาซึ่งใช้ขาเป็นอวัยวะสำคัญจึงอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บที่หัวเข่า ไม่ว่าจะเป็นที่เส้นเอ็นหรือเอ็นหุ้มข้อเข่าอักเสบหรือฉีกขาด รวมถึงกระดูกข้อเท้าแตกจากการปะทะได้

 

อีกหนึ่งเกมกีฬาที่ร่างกาย กล้ามเนื้อ และเส้นเอ็นต่างๆ ต้องทำงานหนัก จึงมีโอกาสเกิดอาการบาดเจ็บได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บบริเวณหัวไหล่ ซึ่งเกิดจากการบาดเจ็บของเส้นประสาทเรเดียล (Radial Nerve) ที่รักแร้ โดยมักพบมากในกีฬายิมนาสติกประเภทบาร์ ส่วนบริเวณมือและข้อมือก็มีโอกาสเกิดการบาดเจ็บเล็กน้อยที่เนื้อหุ้มข้อต่อ หรือเส้นเอ็นได้เช่นกัน รวมทั้งหากมีท่าทางที่ต้องกระโดดก็อาจทำให้กระดูกสแคฟฟอยด์ (Scaphoid Bone) บริเวณเท้าแตกหักได้

 

เพราะเป็นกีฬาที่ต้องปะทะกันโดยตรง ดังนั้นอาการบาดเจ็บจึงเกิดขึ้นได้ง่ายกว่ากีฬาประเภทอื่นๆ ส่วนจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับร่างกาย ความพร้อม การฝึกฝน และการป้องกันดูแลตัวเองของแต่ละคน ซึ่งการบาดเจ็บสามารถเกิดขึ้นได้กับอวัยวะทุกส่วนเริ่มตั้งแต่ศีรษะ อาจมีอาการบาดเจ็บได้ทั้งภายนอกและภายใน ไม่ว่าจะเป็นที่กระดูกศีรษะ ใบหน้า ไปจนถึงเนื้อเยื่อในสมองถูกทำลาย และสามารถทำให้เกิดแผลเลือดออกหรือก่อให้เกิดการอุดตันของเลือดภายในสมองได้ รวมไปถึงอวัยวะอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นบาดแผลฟกช้ำ ฟันแตกหรือปัญหาทางทันตกรรม ซี่โครงหักมีเลือดออกภายในและความเสียหายต่ออวัยวะภายใน และยังอาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บที่จอประสาทตาการปลดจอประสาทตาการตกเลือดที่จอประสาทตาและการบาดเจ็บอื่นๆ ได้ด้วย

 

ถึงจะไม่ใช่เกมกีฬาที่มีการปะทะ หรือใช้กำลังโดยตรง ก็อาจนำมาซึ่งอาการบาดเจ็บได้เหมือนกันหากไม่ระวัง เพราะกอล์ฟเป็นกีฬาประเภทเทคนิค ที่ต้องอาศัยการฝึกฝนร่างกาย เพราะฉะนั้นหากไม่ได้มีการฝึกฝนมาอย่างชำนาญ ก็อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บเอาง่ายๆ ได้เหมือนกัน โดยอวัยวะที่เกี่ยวข้องและมีโอกาสบาดเจ็บ ได้แก่ มือ ข้อมือ หัวไหล่ แขน ลำตัว และขา ซึ่งอวัยวะที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บมากที่สุดมีความแตกต่างกันไปตามเพศ วัย ความสามารถ และความถี่ในการเล่น

 

นอกเหนือจากการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้แล้ว การขี่จักรยานยังอาจนำมาซึ่งการบาดเจ็บตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้อีกด้วย อย่างการปวดคอและหลัง โดยเฉพาะนักปั่นเสือหมอบ เพราะด้วยดีไซน์ของจักรยานที่ต้องก้มตัวและเงยศีรษะขณะปั่น ส่วนอาการปวดก้นมักจะพบเจอในกลุ่มนักปั่นหน้าใหม่  เกิดจากการที่กระดูกบริเวณดังกล่าวกดทับและเสียดสีกับอาน ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการปรับตำแหน่งและเลือกอานแบบที่ไม่แข็งจนเกินไป หรือสวมใส่กางเกงสำหรับปั่นจักรยานโดยเฉพาะ ทั้งยังอาจเกิดการกดทับที่เส้นประสาทบริเวณโคนฝ่ามือจากการออกแรงจับแฮนด์ทำให้เกิดอาการมือชา ซึ่งหากปล่อยไว้นานเกินไปก็อาจทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงตามมาได้ เช่นเดียวกับอาการปวดเข่า สะโพก และเอ็นร้อยหวาย ซึ่งเป็นผลมาจากท่าทาง และระยะเวลาในการขี่ทั้งนั้น

 

แต่ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นกีฬาอะไรก็ทำให้ร่างพังได้ทั้งนั้นถ้าไม่มีการระวัง และดูแลตัวเองอย่างดี ดังนั้นถ้าไม่อยากเจ็บตัวจากกีฬาก็ต้องไม่ลืมที่จะปฏิบัติ คือ

#พื้นฐานต้องมี เพื่อความปลอดภัยและลดการเกิดอุบัติเหตุ