น้ำร้อนปลาเป็น...น้ำเย็นเสี่ยงโรค?
เมื่อคุณสู้อากาศ แต่อากาศสู้กลับ ด้วยความร้อน (รุน) แรง แซงทะลุปรอท จนถึงขนาดว่าเปิดพัดลมเบอร์แรงสุดจ่อตัวแล้วยังเหงื่อท่วม ยิ่งพอได้เห็นงานวิจัยชิ้นใหม่ที่เผยแพร่ในวารสาร Nature Climate Change จากการร่วมทำวิจัยของนักวิจัย 70 คนโดยใช้ข้อมูลจากโครงการสำคัญในด้านระบาดวิทยาและแบบจำลองสภาพภูมิอากาศใน 43 ประเทศ พบว่าการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับความร้อนทั่วโลกระหว่างปี 1991 และปี 2018 โดยเฉลี่ย 37% มาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือภาวะโลกร้อนที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ ก็เลยต้องรีบหาน้ำเย็นๆ มาดับร้อนอย่างไว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอันตรายมั้ยนะ เพราะยังมีความเชื่อว่าน้ำเย็นเป็นที่มาของโรคเหล่านี้
น้ำเย็น...เป็นที่มาของหลอดเลือดสมองตีบ?
แม้ว่าน้ำเย็นจะทำให้ชื่นใจ ยิ่งในวันที่อากาศร้อนจัด แต่หลายครั้งเวลาที่ดื่มเข้าไปจะมีอาการเย็นจี๊ดขึ้นสมองจนทำให้แอบกลัวว่าจะเส้นเลือดตีบเฉียบพลัน ซึ่งเรื่องนี้ได้มีข้อมูลจากสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขบอกว่าปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างการดื่มน้ำเย็นหรือกินน้ำแข็งกับโรคหลอดเลือดสมอง แต่อาการเย็นจี๊ดขึ้นสมองที่เกิดขึ้นอาจมาจากการกินอาหารหรือดื่มน้ำเย็นจัดแบบรวดเร็ว จนทำให้เกิดอาการปวดหัวรุนแรงได้ แต่จะเป็นอาการที่เกิดขึ้นชั่วคราว และไม่ใช่อาการของโรคหลอดเลือดสมอง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มีอาการพูดลำบาก พูดไม่ชัด ปากเบี้ยว แขนขาอ่อนแรง หรืออาการที่เป็นความผิดปกติทางระบบประสาทที่เกิดขึ้นฉับพลันหรือทันทีทันใด ให้สงสัยอาการของโรคหลอดเลือดสมอง และต้องรีบทำการตรวจรักษา เพื่อลดความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นได้
เย็นไป...ไม่ย่อย
เช่นเดียวกับอาการเย็นจี๊ดขึ้นสมอง คือการดื่มน้ำเย็นอาจทำให้เกิดอาการเย็นวาบตามหลอดอาหารไปชั่วขณะได้ แต่ก็ใช่ว่าจะการดื่มน้ำเย็นจะลึกสุดใจลงไปถึงกระเพาะอาหารซะหน่อย การดื่มน้ำเย็นเข้าไปกระเพาะอาหารจะรักษาความเย็นนั้นไว้ได้นานพอ ก่อนที่จะทำให้อาหารที่กำลังย่อยอยู่เกิดผลกระทบไปด้วยได้ เพราะโดยธรรมชาติของร่างกายเราจะพยายามปรับอุณหภูมิของน้ำหรืออาหารที่เข้าไปให้อยู่ในระดับเดียวกันกับร่างกาย ซึ่งที่สำคัญของกระบวนการที่ร่างกายพยายามปรับอุณหภูมิของน้ำเย็นที่ดื่มลงท้องไปนั้น จะยิ่งเป็นการกระตุ้นระบบการเผาผลาญของร่างกาย โดยการดื่มน้ำเย็นใส่น้ำแข็ง 2 ลิตรต่อวัน จะช่วยเผาผลาญได้ถึง 70 กิโลแคลอรี่
น้ำเย็น...เป็นนิ่วในไต
นิ่วในไต คือการตกผลึกของสารจำพวกแคลเซียมออกซาเลตในไต หรืออาจเป็นแคลเซียมฟอสเฟต ยูริก และสารอื่นๆ ซึ่งโรคนิ่วในไต สามารถเกิดได้จากหลายปัจจัยร่วมกัน ตั้งแต่ปัสสาวะมีความเข้มข้นสูง ดื่มน้ำน้อยและสูญเสียเหงื่อมาก หรือกินอาหารที่มีแคลเซียมสูง โปรตีนสูง โซเดียมสูง เป็นประจำ หรือมีภาวะยูริกในเลือดสูง เช่น เป็นโรคเกาต์ หรือคนที่เป็นโรคมะเร็งระหว่างได้รับเคมีบำบัด และกินยาบางอย่าง เช่น ยากันชักไดแลนติน หรือมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคนิ่วมาก่อน เป็นต้น ซึ่งจากปัจจัยของโรคทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่าไม่มีเรื่องไหนที่เกี่ยวข้องกับการดื่มน้ำเย็นเลย เพราะแบบนี้จะโยนบาปให้น้ำเย็นแบบนี้มันไม่ถูกนะ
น้ำเย็น...ปจด เป็นลิ่มเลือด
หลายครั้งหลายคราที่เราได้ยินผู้ใหญ่พูดต่อๆ กันมาว่าช่วงที่มีประจำเดือนอย่าดื่มน้ำเย็นหรือของเย็น เพราะจะทำให้ปวดท้อง เลือดเป็นลิ่ม ซึ่งจริงๆ แล้วได้มีข้อมูลจากวารสารทางการแพทย์หลายฉบับที่ระบุว่าภูมิคุ้มกันโรคของผู้หญิงจะลดต่ำลงระหว่างมีรอบเดือน เพราะฉะนั้นการดื่มน้ำเย็น กินของเย็นอย่างไอศกรีม หรือแม้กระทั่งอาบน้ำเย็น ก็อาจทำให้ร่างกายเจ็บป่วยขึ้นมาได้ เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ แล้วอยู่ๆ ก็ถูกทำให้อุณหภูมิในร่างกายของเราเย็นลงไปอีก ก็เป็นการเปิดโอกาสให้เชื้อโรคที่ซุกซ่อนตัวอยู่ในร่างกาย รวมทั้งแวดล้อมอยู่รอบตัว ฉวยโอกาสเข้ามาทำร้ายสุขภาพจนพาให้เจ็บป่วยเอาได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้นการดื่มน้ำเย็นไม่ได้แปลว่าจะทำให้ประจำเดือนเป็นลิ่มเลือด หรือผิดปกติ แต่เพราะการดื่มน้ำเย็นทำให้อุณหภูมิร่างกายลดลง ยิ่งทำให้เป็นหวัดหรือป่วยง่ายมากขึ้นไปอีกต่างหากล่ะ
ในวันร้อนๆ บางทีก็ต้องใช้อะไรเย็นๆ เข้ามาทำให้กาย...และใจกระชุ่มกระชวยบ้างล่ะน่า!
