นี่คือ 3 อย่างที่ต้องรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมรักษามะเร็งด้วย “Nanobots”
การรักษาโรคมะเร็งแนวใหม่ด้วยหุ่นยนต์จิ๋วหรือ Nanobots นี้ มีนักวิจัยและนักวิชาการทั่วโลกเขาบอกว่า ยังไง๊ ยังไง นวัตกรรมนี้ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน!
…ทุกคนน่าจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วหล่ะ แต่สำหรับเราเพิ่งได้เข้าใจและรู้จักมันแบบจริงจังก็ตอนไปงานทอล์กโชว์ “NuiNake TechTalk” เมื่อวันที่ 19-20 ตุลาคมที่ผ่านมานี่ล่ะ พอฟังจบปึ๊บ ทำให้เข้าใจเลยว่านี่คือ 3 อย่างที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมรักษามะเร็งนี้ เพราะมันอาจมีส่วนช่วยรักษาให้คุณปลอดภัยจากโรคมะเร็งร้ายต่างๆ ได้!
1. นวัตกรรมนี้ “ไม่เป็นอันตราย และไม่ทำร้ายเซลล์ปกติในร่างกายเรา”
ที่บอกว่ากระบวนการนี้จะไม่ทำร้ายร่างกายคุณขณะรับการรักษาอย่างแน่นอน เป็นเพราะว่างานศึกษาของ National Center for Nanoscience and Technology (NCNST) บอกว่า เหล่าหุ่นยนต์จิ๋วนั้นจะทำการรวมตัวบล๊อคไม่ให้เลือดไหลเวียนไปยังเนื้องอกมะเร็ง พอไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยง เนื้องอกก็จะค่อยๆ ฝ่อไปในที่สุด โดยแพทย์อาจจะใช้เครื่องมือมาสะกิดเอาตัวเนื้องอกที่ฝ่อหรือตายแล้วออกไป หรือมีกระบวนทำลายให้เนื้องอกที่ตายแล้วสลายไปเอง
และยิ่งไปกว่านั้น ทางมหาวิทยาลัย Arizona State และสถาบัน National Center for Nanoscience and Technology (NCNST) ในจีน ยังได้ร่วมกันออกแบบหุ่นยนต์จิ๋วนี้ด้วยการติดตั้งโปรแกรมเพื่อไปทำลายเนื้อเยื่อมะเร็งเฉพาะจุด คือมุ่งไปทำลายมะเร็งที่อวัยวะเป้าหมาย ซึ่งจะไม่ไปทำลายเซลล์ปกติ ผลข้างเคียงอย่างการอาเจียนและผมร่วงก็จะไม่เกิดขึ้น
2. ขนาดของหุ่นจิ๋วนั้น “เล็กกว่าเส้นผม”
บางงานวิจัยบอกว่าหุ่นจิ๋วนาโนบ๊อทนี้มีขนาดเล็กกว่าเส้นผมของเราถึงพันเท่า! ด้านรายการชื่อดังในแคนาดาอย่าง รายการทีวี Your Morning ได้บอกว่า พวกหุ่นยนต์จิ๋วนี้ยังสามารถแทรกอยู่ตามเส้นผมของเราได้มากถึง 50,000 ตัวอีกด้วย และเพื่อหาคำตอบให้แน่ชัดว่า ตกลงนวัตกรรมนี้จะให้ผลดีได้จริงหรือเปล่า ทีมวิจัยกลุ่มหนึ่งได้ทดลองใช้วิธีนี้ในปลาและสัตว์ปีก ผลปรากฎว่าหุ่นยนต์นาโนนี่ล่ะ สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้ภายใน 60 วินาทีเท่านั้น! แค่ฟังแล้วเราก็พอมีหวังขึ้นมา ยังไงก็ตาม นี่เป็นเพียงการทดลองในสัตว์เท่านั้น เรายังยืนยันไม่ได้ว่า วิธีนี้ให้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพในมนุษย์ได้จริงหรือเปล่า แต่มีแนวโน้มถึงความเป็นไปได้สูงมากกก...เอาเป็นว่ามารอลุ้นไปพร้อมๆ กันดีกว่า
3. สรุป…นวัตกรรมนี้เริ่มใช้งานจริงได้เมื่อไหร่ ?
ถ้าเราจำไม่ผิด ก็น่าจะอีกประมาณสิบปีข้างหน้า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งก็จะน้อยลงอย่างแน่นอน อัตราการเสียชีวิตของผู้คนก็จะลดลงตามไปด้วยนั่นเอง
ถึงจะเป็นแค่งานวิจัยที่ยังไม่มีผลจากการใช้ในมนุษย์ แต่การรับรู้ว่าทั่วโลกต่างไม่นิ่งนอนใจ ค้นหาวิธีรักษาโรคร้ายอย่างต่อเนื่อง ก็ยิ่งทำให้เราเริ่มมีหวังที่จะหายขาดจากโรคร้ายต่างๆ อย่างโรคมะเร็งได้ แต่ยังไง ก็อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกายและตรวจสุขภาพประจำปีกันด้วย เพื่อป้องกันโรคร้ายไม่ให้มาเยือนคุณได้ในอนาคตยังไงล่ะ
ถึงจะเป็นแค่งานวิจัยที่ยังไม่มีผลจากการใช้ในมนุษย์ แต่การรับรู้ว่าทั่วโลกต่างไม่นิ่งนอนใจ ค้นหาวิธีรักษาโรคร้ายอย่างต่อเนื่อง ก็ยิ่งทำให้เราเริ่มมีหวังที่จะหายขาดจากโรคร้ายต่างๆ อย่างโรคมะเร็งได้ แต่ยังไง ก็อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกายและตรวจสุขภาพประจำปีกันด้วย เพื่อป้องกันโรคร้ายไม่ให้มาเยือนคุณได้ในอนาคตยังไงล่ะ
