ธุรกิจ Healthcare ที่ไม่ได้ CARE แค่สุขภาพอย่างเดียว แต่ต้อง CARE สิ่งแวดล้อมอย่าง ‘ยั่งยืน’ ไปด้วย
ปัจจุบันธุรกิจ Healthcare กำลังเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด การแพร่ระบาดของโควิดอาจเป็นปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการเติบโต ทุกองค์กรต่างก็ต้องพัฒนาศักยภาพการดูแลผู้ป่วยให้ดีขึ้นเพื่อตอบรับกับการแข่งขันที่สูงมากขึ้น ซึ่งการเติบโตของธุรกิจ Healthcare ก็มักจะมาพร้อมกับขยะมูลฝอยที่มีจำนวนมากขึ้นด้วยเช่นกันจากการใช้บริการที่มากขึ้น โดยในปี 2564 ที่ผ่านมามีปริมาณขยะที่เกิดจากทั้งโรงพยาบาลรัฐบาลและโรงพยาบาลเอกชนรวมกันมากถึง 90,000 ตันเลยทีเดียว ดังนั้นนโยบายการพัฒนาและดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนจึงต้องทำควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพการดูแลสุขภาพและการรักษาพยาบาล ซึ่งในหลายโรงพยาบาลก็ได้นำหลักของ Sustainable Development Goals (SDGs) ไปปรับใช้ให้เกิดการพัฒนา โดยที่มีเป้าหมายหลักคือการพัฒนาและดูแลสิ่งแวดล้อมอย่าง ‘ยั่งยืน’
หนึ่งในขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้นจำนวนมากคือกระดาษที่ไม่ใช้แล้ว ในทุกธุรกิจทุกอุตสาหกรรมคงหลีกเลี่ยงการใช้กระดาษไม่ได้เพราะยังต้องมีการพิมพ์เอกสารและใช้กระดาษในทุกๆ วันแต่จำนวนมากหรือน้อยแล้วแต่อุตสาหกรรมด้วยเช่นกัน จากสถิติพนักงานออฟฟิศ 1 คนใช้กระดาษมากถึง 10,000 แผ่น/ปี ซึ่งการผลิตกระดาษจำนวนขนาดนี้ต้องใช้กระแสไฟฟ้ามากถึง 1,845 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ซึ่งการผลิตกระแสไฟฟ้า 1 กิโลวัตต์ในหนึ่งชั่วโมงจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากถึง 0.71 กิโลกรัม ในหนึ่งปีเราอาจมีส่วนทำให้โลกร้อนจากการใช้กระดาษจำนวนมาก และต้นไม้ 1 ต้นก็สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้เพียงปีละ 15 กิโลกรัมเท่านั้น จะดีกว่ามั้ยถ้าทุกคนสามารถประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้า ลดการใช้กระดาษและวัสดุอุปกรณ์สำนักงานเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมให้ดีอย่าง ‘ยั่งยืน’ จริงๆ
Healthcare ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ต้องใช้การพิมพ์เอกสารและใช้กระดาษไม่แพ้ที่อื่นเลยเช่นกัน แม้ว่าธุรกิจ Healthcare จะต้องดูแลผู้รับบริการหรือผู้ป่วยให้หายดี กลับมามีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์เพราะคือหัวใจของการทำธุรกิจ และการดูแลหรือใส่ใจสิ่งแวดล้อมในธุรกิจ Healthcare ก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน เพราะถ้าสิ่งแวดล้อมไม่ดี มีปัญหามลพิษ มลภาวะ มีสารปนเปื้อนต่างๆ จำนวนมาก ก็มีส่วนทำให้คนกลับมาป่วยได้เหมือนกัน ดังนั้นมิติของการทำธุรกิจ Healthcare จึงไม่ได้หยุดแค่การดูแลคนให้หายป่วย แต่ต้องดูแลสิ่งแวดล้อมให้ดีเพื่อทำให้คนมีสุขภาพดีด้วยเช่นกัน โรงพยาบาลทุกแห่งจึงมีนโยบายในการพัฒนาและดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งนโยบายการดูแลสิ่งแวดล้อมอาจไม่ได้มีแค่การบริหารจัดการกับขยะไม่ติดเชื้อและขยะติดเชื้อให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพียงอย่างเดียว การจัดการสิ่งของที่สามารถนำมา Recycle และ Upcycling หรือการเลือกใช้อุปกรณ์และทรัพยากรในสำนักงานที่ช่วยส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อมก็เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกเครื่องพิมพ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพราะในหลาย Touchpoint ที่อยู่ในโรงพยาบาลจำเป็นต้องพิมพ์เอกสารข้อมูลของผู้รับบริการเพื่อเช็คความถูกต้องแม่นยำ และเอกสารข้อมูลสุขภาพรวมถึงข้อมูลยาที่ต้องนำส่งให้ผู้บริการนำกลับบ้าน การเลือกใช้เครื่องพิมพ์ที่มีโซลูชันที่สามารถตอบโจทย์การดูแลสุขภาพและการแพทย์ที่เชื่อถือได้และสามารถสร้างความมั่นใจให้กับผู้รับบริการได้จึงเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของโรงพยาบาล และเครื่องพิมพ์ Epson ก็เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่สามารถตอบความต้องการตรงนี้ได้
เพราะการเลือกใช้เครื่องพิมพ์ในโรงพยาบาลให้ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้รับบริการ นอกจากจะต้องใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังต้องสะดวก รวดเร็ว แม่นยำและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานในโรงพยาบาลด้วยเช่นกัน ‘ความรวดเร็ว’ ในการให้บริการและความถูกต้องแม่นยำของข้อมูลผู้รับบริการเป็นสิ่งที่จะสามารถสร้างความแตกต่างให้เกิดกับโรงพยาบาลที่กำลังเติบโตและมีการแข่งขันสูงได้ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับบริการที่ประทับใจนอกเหนือจากการรับการรักษาพยาบาล
นอกจากนี้ การจัดการคิวเมื่อต้องรอพบแพทย์หรือรอตรวจสุขภาพแม้จะเป็นเรื่องเล็กแต่เป็นเรื่องที่สำคัญ โรงพยาบาลที่สามารถจัดการคิวผู้รับบริการได้ดีและเป็นระบบจะเป็นเหมือน First Impression เลยก็ว่าได้เพราะทุกคนจะเห็นถึงความใส่ใจในเรื่องเล็กน้อยนี้ หรือการชำระเงินที่รวดเร็วไม่ต้องรอคิวจ่ายเงินเป็นเวลานานก็ช่วยสร้างความประทับใจได้ไม่แพ้กัน เครื่องพิมพ์ใบเสร็จและบัตรคิวจาก Epson หนึ่งในอุปกรณ์ที่จะสามารถช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพการบริการให้รวดเร็วขึ้นได้ ด้วยขนาดเล็กกะทัดรัด การใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถพิมพ์บัตรคิวได้รวดเร็วไม่มีสะดุด สะดวกเมื่อพนักงานนำมาใช้งานและสบายสำหรับลูกค้าที่สามารถประเมินเวลาพบแพทย์ได้
การจ่ายยาก็เป็นอีกหนึ่งจุดบริการที่สำคัญในโรงพยาบาลที่จะสามารถสร้างความประทับใจให้เกิดขึ้นได้นอกจากการอธิบายข้อมูลการใช้ยาแล้ว ความรวดเร็วในการจัดยา การพิมพ์ฉลากที่ถูกต้องแม่นยำ และข้อมูลที่พิมพ์บนฉลากยาไม่หลุดลอกเมื่อโดนความชื้น ซึ่งเครื่องพิมพ์ฉลากสี Epson ColorWorks สามารถตอบโจทย์ความต้องการตรงนี้ได้ ด้วยเทคโนโลยีหัวพิมพ์ PrecisionCore ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้พิมพ์ฉลากออกมาได้อย่างรวดเร็ว มาพร้อมกับตัวหมึก Pigment Ink ที่สามารถพิมพ์ข้อมูลบนฉลากที่เป็นวัสดุเคลือบเงาได้โดยที่ตัวหนังสือยังคงความละเอียด คมชัด ไม่ซีดจางและหมึกไม่ละลายเมื่อโดนน้ำ ทนน้ำ ทนรอยขีดข่วนได้อย่างดี
และอย่างที่เกริ่นไปในตอนแรกว่าในโรงพยาบาลก็มีการใช้งานเอกสารจำนวนมาก ดังนั้นการเลือกเครื่องพิมพ์ที่มีฟังก์ชันที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมของเครื่องพิมพ์ Epson ก็น่าสนใจเช่นกับ เช่น เทคโนโลยีการพิมพ์ที่ไม่ใช้ความร้อน หรือ Heat-Free Technology จากเอปสันที่จะช่วยประหยัดพลังงาน เพราะไม่ต้องรอวอร์มเครื่องก่อนพิมพ์ เครื่องพิมพ์สามารถใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น ไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์บ่อยและไม่สิ้นเปลืองวัสดุ ให้ทั้งประสิทธิภาพ รายละเอียดคมชัด สีสันสดใส และมีความรวดเร็วในการพิมพ์ ซึ่งสามารถตอบโจทย์ Back Office ของโรงพยาบาลตามนโยบายการทำธุรกิจให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
หลายคนอาจมองว่าโลกทุนนิยมและการแข่งขันของธุรกิจที่มากขึ้นส่งผลให้สิ่งแวดล้อมถูกทำลายมากขึ้นด้วยเช่นกัน แต่ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจไหนอุตสาหกรรมใดก็ยังต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกันด้วยอยู่เสมอ และความท้าทายคือจะทำอย่างไรให้การดูแลสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นเกิดความต่อเนื่องและมีความ ‘ยั่งยืน’ ซึ่งต้องเริ่มต้นจากกระบวนการทำงานเล็กๆ ในออฟฟิศเช่น อุปกรณ์สำนักงานที่เอื้อต่อการดูแลสิ่งแวดล้อมและยังสามารถช่วยประหยัดพลังงาน เหมือนที่ Epson ออกแบบโซลูชันการทำงานสำหรับเพื่อรองรับธุรกิจการแพทย์ให้สามารถพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานและยังคงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไปได้พร้อมๆ กันได้ด้วย