ที่ (ยัง) โสดเพราะ Philophobia โรคกลัวการตกหลุมรัก...หรือเปล่า
“ก็โสดโสด อยู่ทางนี้ ยังโสดโสด อยากเอารักมาโหลดโหลด…” ร้องมาก็หลายปีแล้วยังไม่เห็นจะมีคู่กับเขาสักที หรือจะเป็นเพราะเลือดกรุ๊ปบีหรือเปล่านะ อ่ะ! มาดูตัวเลขผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติกันดีกว่า เขาบอกว่า ‘วัยทำงาน’ ในกลุ่ม Gen Y ที่เกิดในช่วงปี พ.ศ. 2523 - 2543 หรือคนที่มีอายุระหว่าง 22 - 42 ปี มีค่านิยมในการใช้ชีวิตคู่ที่เปลี่ยนไป คือ มุ่งทำงานให้ประสบความสำเร็จ ครองตัวเป็นโสด ไม่แต่งงาน และไม่มีลูก มีแนวโน้มสูงขึ้นติดต่อกัน 5 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 – 2564 หรือตัวเลขคนโสดที่สูงขึ้นทุกๆ ปีจะเกี่ยวกับ...โรคกลัวการตกหลุมรัก (มั้ยนะ?)มีด้วยเหรอ...โรคกลัวตกหลุมรัก?
โรคกลัวการตกหลุมรัก (Philophobia) หรือ โรคกลัวความรัก ถือเป็นความกลัวเมื่อต้องทำความรู้จักใครสักคน โดยถือเป็นโรคทางจิตเวชชนิดหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นเป็นอันตรายต่อผู้คนรอบข้าง แต่ถ้ายังปล่อยให้กลัวความรักต่อไปเรื่อยๆ ก็อาจจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้เลย บางครั้งอาจทำให้เรากลายเป็นคนเก็บตัว ไม่กล้าออกไปเจอใคร พยายามที่จะหนีจากสังคม จนเกิดความเครียดและความกดดัน เสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าได้อีกด้วย โดยสาเหตุของโรคกลัวการตกหลุมรักอาจเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น….
- ความเจ็บปวดจากครอบครัว เช่น ผู้ที่เติบโตมาท่ามกลางครอบครัวที่มีปัญหา ไม่ได้รับความอบอุ่น จนทำให้เกิดความกลัวและไม่เชื่อมั่นในความรักหรือการสร้างครอบครัว
- ประสบการณ์จากความรักที่ผิดหวัง ไม่ว่าจะพบเจอกับความรักที่ผิดหวังอย่างรุนแรง หรือการไม่สมหวังในความรักอยู่ซ้ำๆ ก็ทำให้ช้ำจนกลัวความรักไปเลย
- วัฒนธรรมหรือศาสนา การถูกกีดกันหรือมีข้อห้ามเรื่องความรัก หรือถูกบังคับให้แต่งงานโดยไม่ได้เกิดจากความรัก ถือเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ไม่เชื่อมั่นในเรื่องของความรัก
- ไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง ขาดความเชื่อมั่น หรือการเคารพตัวเอง คิดว่าตัวเองนั้นไม่ดีพอที่จะได้รับความรักจากใคร จนไม่กล้าเปิดใจให้กับใคร
เช็คสิ! อาการนี้กลัว (มี) ความรักมั้ย?
“กลัว” ความรัก กับ “ไม่อยากมี” ความรัก บางทีก็แยกไม่ค่อยออกเหมือนกันนะ ดังนั้นลองมาเช็คดูหน่อยมั้ยว่าตกลงที่เป็นอยู่แค่เพราะไม่อยากมีจริงๆ หรือว่ากลัวกันแน่
- เป็นกังวลทุกครั้งที่จะต้องเริ่มต้นความสัมพันธ์แบบคนรัก หรือเวลาที่ตัวเองเริ่มรู้สึกหวั่นไหวกับใครสักคน
- สร้างกำแพงและไม่เปิดโอกาสให้กับคนอื่นๆ ที่พยายามจะเข้ามาทำความรู้จักเรา
- มีความสุขกับการอยู่คนเดียว และชอบทำอะไรคนเดียว
- เกิดอาการมือชา เท้าชา หน้าชา หายใจเร็วแรง อาเจียน หรือ เป็นลม เมื่อถูกคนอื่นเข้ามาจีบ
พร้อมปะทะ...ถ้าอยากมีความรักดีๆ
เอาจริงๆ ถ้าเรายังกลัวการตกหลุมรักอยู่ บางทีก็พลาดได้เจอกับรักดีๆ เหมือนกับคนอื่นๆ ดังนั้นถ้าคิดว่าตัวเองมีอาการแบบนี้อยู่ ลองหันมาปะทะกับสิ่งที่กลัว (Exposure Therapy) ดูมั้ยละ ซึ่งวิธีการรักษาในขั้นแรกที่ได้ผลค่อนข้างดี โดยผู้เชี่ยวชาญจะจัดให้ผู้ป่วยเจอกับสถานการณ์หวานๆ เพื่อฝึกให้มีแรงต้านทานต่อความกลัวของตัวเองเพิ่มมากขึ้น และลดแรงกดดัน ความวิตกกังวลเมื่อเจอสถานการณ์รักในชีวิตจริง นอกจากนี้ยังมีวิธีการรักษาที่เรียกว่า ความคิดและพฤติกรรมบำบัด (Cognitive Behavioral Therapy) โดยจิตแพทย์จะเข้ามาทำความเข้าใจ ชวนพูดคุยในประเด็นที่คนไข้รู้สึกกลัว เพื่อปรับทัศนคติเรื่องความรักให้ดียิ่งขึ้น หรือถ้ายังไม่ดีขึ้นอาจต้องใช้การรักษาด้วยยา เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยควบคุมอารมณ์และการแสดงออกของตัวเองได้ดีขึ้น เห็นอย่างนี้แล้วก็น่าจะลองดูสักยก เผื่อจะกลายเป็นคนคลังรักเหมือนกับคู่อื่นๆ เขาบ้าง
เรื่องของความรักมันก็มีดีทั้งสุขภาพกายและสุขภาพ (จิต) ใจ อะนะ เวลาเรามีความรักเรามักจะสดใสและดูร่าเริงกว่าปกติ อย่างงานวิจัยหลายแห่งบอกว่าคนมีความรักมีอัตราเสี่ยงต่อโรคมะเร็งน้อยกว่าคนโสด เอ้า!! งานนี้ต้องหาคู่มาให้ชุ่มชื่นหัวใจเหมือนกับคนอื่นเขาบ้างแล้วแหละ