ทำไมสาวที่ดู “รว้ายๆ” ถึงแฮปปี้เวอร์


สาวที่ดู “รว้ายๆ” ที่เรากำลังจะพูดถึงนั้น ไม่ใช่สาวๆ ที่มีนิสัยหรือบุคลิกโหดร้ายหรือก้าวร้าว ใจดำอำมหิต แต่เป็นผู้หญิงที่มีความเป็นตัวของตัวเอง ดูไม่ค่อยแคร์สังคม มีความกล้าหาญ เคารพในตัวเอง และมองว่าไม่มีความสุขไหนยิ่งใหญ่กว่าความสุขในชีวิตของตัวเอง 

Jill P. Weber นักจิตวิทยาจากวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา บอกว่า เด็กผู้หญิงที่โตมากับคำชม ชอบทำให้คนรอบข้างมีความสุข มักเป็นพวกเรียนรู้พฤติกรรมแบบ “เด็กดี” ได้ง่าย เมื่อเธอโตขึ้นก็ยังพยายามพิสูจน์ “ความดี” ของตัวเองให้คนอื่นเห็น ซึ่งการทำแบบนี้ยากจะให้ความสุขได้ ต่างกับ “เด็กรว้ายๆ” ที่คำนึงถึงความสุขของตัวเองเป็นลำดับแรก 

อ่านถึงตรงนี้ หลายคนอาจมองว่า Bad girl เห็นแก่ตัว... แล้วพวกเธอทำยังไงให้ตัวเองมีความสุขอยู่เสมอ? มาเรียนรู้วิธีรว้ายๆ ที่ไม่ทำร้ายคนอื่นของพวกเธอกัน

 


1) ไม่อายที่จะบอกว่าเวลาว่างทำอะไร 
สาวๆ บางคนรู้สึกผิดหรืออายที่จะบอกว่า “เวลาว่างทำอะไรบ้าง” เพราะกลัวถูกมองว่าไร้สาระ เช่น ดูเรียลริตี้โชว์ ติดนิยายรักน้ำเน่า แต่ Leonard Reinecke จากมหาวิทยาลัยไมนซ์ ประเทศเยอรมนี บอกว่าบางครั้งเราไม่ควรสนใจความคิดเหล่านั้น เพราะมันไม่ได้ทำให้เราดีขึ้น และความพอใจในความบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ บางครั้งก็ช่วยให้เราสามารถอดทนและพยายามจนบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้... ต่อไปก็อย่าอายเมื่อดูรายการเรียลริตี้โชว์แทนที่จะชมงานศิลปะชั้นครู อ่านนิยายทไวไลท์มากกว่าอ่านเฮมิงเวย์ หรือการกินบิ๊กแมคกับน้ำอัดลมหลังออกจากยิม



2) ไม่คร่ำครวญกับการผิดหวังในรัก
เธอไม่เสียเวลาไปกับความเสียใจเมื่อคนที่เธอคิดว่าใช่ ไม่สนใจเธอ และไม่หวังจะคืนดีกับอดีตคนรักที่สะบั้นรักจากไป ขณะที่ “เด็กดี” จะลืมยากกว่า โดยนักวิทยาศาสตร์บอกว่านั่นเพราะพวกเธอถูกเลี้ยงดูมาแบบผู้หญิงตั้งแต่เด็กๆ ถูกสอนว่าความเข้มแข็งและอำนาจของพวกเธอขึ้นอยู่กับเสียงชื่นชมจากคนรอบข้าง เมื่อโตขึ้นก็ยังเชื่อในหลักการนี้ การถูกผู้ชายปฏิเสธจึงทำให้เด็กดีทั้งหลายรู้สึกว่าตัวเองทำได้ไม่ดีพอ และพยายามแก้ไขสถานการณ์นั้น... ขณะที่ยายตัวร้ายทั้งร้ายได้ก้าวข้าม และพบเจอผู้คนใหม่ๆ



3) ไม่ทนรอ หากเพื่อนมาสาย 
พวกเธอมองว่าเวลาเป็นสิ่งมีค่าและจะไม่เสียเวลาไปกับคนที่ไม่เห็นคุณค่าของเวลา เหตุผลของการมาสายไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้คนอื่นต้องเสียเวลา เพราะมันเป็นการไม่เคารพและไม่เต็มใจมาเจอกันต่างหาก เช่น หากมีการนัดประชุมเพื่อคุยงาน ยัยตัวร้ายทั้งหลายจะต้องการให้ยกเลิกประชุมแล้ว แทนที่จะเสียเวลาไปกับการรอ 


4) แสดงความไม่พอใจอย่างตรงไปตรงมา 
หลายคนมองว่าการแสดงความรู้สึกด้านลบออกมา ไม่เป็นผลดีต่อการปฏิสัมพันธ์กับคนรอบตัว ทำให้หลายคนเลือกที่จะอดกลั้นเพื่อหลีกเลี่ยงความบาดหมางที่อาจเกิดขึ้น ส่วนสาวรว้ายๆ จะรู้ว่าการเลี่ยงความขัดแย้งก็ไม่ได้ช่วยให้ความสัมพันธ์ดีขึ้นเช่นกัน ยิ่งหลีกเลี่ยงมากเท่าไหร่ เท่ากับเพิ่มความแม่ชัดเจนซึ่งบั่นทอนชีวิตให้อ่อนแอลง... ยัยตัวร้ายจึงแสดงความรู้สึกออกมาตรงๆ พร้อมกับแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น อีกแง่คือได้ยุติความสัมพันธ์แย่ๆ ได้อีกด้วย



5) ไม่กลัวที่จะมีปากเสียงกับแม่
Kira Birditt นักวิจัยด้านสังคมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน สหรัฐอเมริกา บอกว่าคนเป็นแม่มักสนิทกับลูกสาว จึงกังวลในตัวลูกสาวมากกว่าลูกชาย และแม่ที่พยายามควบคุมหรือมีอิทธิพลในชีวิตลูกสาว จะมีความตึงเครียดมากกว่า ซึ่ง Bad girl จะแยกแยะการเชื่อฟังแบบไม่ลืมหูลืมตา การเคารพในตัวเอง และความมีอิสระในการตัดสินใจ ถ้าสิ่งที่เธอเลือกทำให้แม่ไม่พอใจ เธอจะพยายามทำเต็มที่ แม้ผลที่ตามมาไม่เป็นอย่างที่หวัง
 
รู้อย่างนี้แล้ว จะเลือกเป็นสาวที่ดูร้ายในสายตาคนอื่น แต่มีความสุขกับตัวเอง หรือเลือกเป็นคนดีในสายตาคนอื่นแล้วต้องจมทุกข์อยู่คนเดียวล่ะ... เลือกไม่ยากใช่มั้ยล่ะ


 
-->