จริงหรอ...ที่ 'อาการหัวร้อน' ทำให้เสี่ยงอายุสั้น
อากาศร้อน...ช่วงเวลาแห่งสารพัดเรื่องน่าหงุดหงิดของใครหลายคน บางเรื่องจากที่เคยปล่อยผ่าน เป็นสีทนได้ แต่พอเจออากาศร้อนๆ ขึ้นมาทีไร ก็พาลกลายร่าง เห็นอะไรก็ขวางหูขวางตาไปซะหมด ซึ่งอาการแบบนี้นอกจากจะเป็นผลจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดแล้ว ในงานวิจัยโดย Zlatan Krizan นักวิชาการปริญญาเอกและศาสตราจารย์ภาควิชาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยแห่งรัฐไอโอวา (Iowa State University) ซึ่งถูกตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ Journal of Experimental Psychology ยังได้บอกว่าการนอนหลับที่ไม่เพียงพอก็เป็นที่มาของอาการนี้ได้ด้วยเช่นกัน
แต่ไม่ว่าอะไรที่เป็นสาเหตุของอาการหัวร้อนก็ขอเตือนก่อนเลยว่าเบาได้เบา เพราะนอกจากอาการหัวร้อนจะเสี่ยงทำให้มีเรื่องแล้ว ยังอาจเสี่ยงเป็นโรคที่ทำให้อายุสั้นลงไปอีก
โรคเครียด
อาการที่เกิดขึ้นตามมาเป็นอันดับต้นๆ เพราะความหงุดหงิด หัวร้อนเป็นสิ่งที่เกิดจากการคิดหมกมุ่นอยู่กับเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจ ไม่ว่าจะมีการแสดงออกมาหรือไม่ก็ตาม ซึ่งยิ่งหากว่าไม่มีการแสดงออกก็จะเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคเครียดได้ถึง 2 เท่า แถมยังอาจทำให้โรคซึมเศร้าเข้าคิวรอถามหาได้อีกต่างหาก
โรคหัวใจและหลอดเลือด
เมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดความรู้สึกในด้านลบจนไม่อาจควบคุมได้ ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนในกลุ่มความเครียด (Stress hormones) อย่างอะดรีนาลีน (Adrenalin) และคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นตัวเร่งอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้หายใจให้เร็วขึ้น เกิดการเกร็งของกล้ามเนื้อ และความดันโลหิตสูงขึ้น โดยการหลั่งฮอร์โมนในกลุ่มความเครียดเป็นปริมาณมาก จะส่งผลต่อหัวใจและหลอดเลือด เพราะหัวใจจะถูกกระตุ้นให้บีบตัวเร็วและแรงขึ้น ทั้งยังมีการสะสมของไขมันเพิ่มขึ้นในหลอดเลือดเพื่อเป็นที่เก็บพลังงาน ซึ่งอาจทำให้เส้นเลือดแข็งตัวกว่าปกติ เกิดการตีบตันหรือแคบเล็กลง อาจจะเกิดลิ่มเลือดไปเกาะที่ผนังเส้นเลือด ที่ส่งผลให้หัวใจขาดเลือดและเสี่ยงเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดได้
เส้นเลือดอุดตันในสมอง
อาการต่อเนื่องหลังจากที่หัวใจและหลอดเลือดถูกกระตุ้นให้ทำงาน สมองซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งอวัยวะที่หลอดเลือดและเส้นเลือดมากมายนำเลือดไปหล่อเลี้ยง ซึ่งเมื่อระดับความโมโห และอารมณ์หัวร้อนพุ่งทะยาน สังเกตว่าบางคนจะหน้าแดง และอาจมีความรู้สึกร้อนผ่าว นั่นเป็นเพราะเลือดมีการสูบฉีดขึ้นมาถึงบริเวณศีรษะ เป็นเหตุให้อาจเกิดการอุดตันของเส้นเลือดในสมอง และเส้นเลือดในสมองแตกได้ ยิ่งถ้าหากโกรธนานๆ ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงของโรคร้ายทั้ง 2 นี้ จนอาจถึงขั้นเป็นอัมพาตหรือเสียชีวิตได้เลยทีเดียว
โรคปอด
มีการศึกษาโดยทีมแพทย์จากมหาวิทยาลัยแพทย์ฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา พบว่า อารมณ์โมโหสามารถส่งผลต่อการทำงานของปอดได้ คือคนที่มีความเกลียดชังหรือโมโหมาก การทำงานของปอดก็จะลดลงมากกว่าคนที่อารมณ์ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงหรือมองโลกในแง่ดีมากกว่า โดยทุกๆ ระดับของอารมณ์โกรธที่เพิ่มมากขึ้น จะทำให้อากาศที่ขับออกมาจากปอดน้อยลงไป 9 มิลลิลิตร เพราะฉะนั้นมนุษย์ขี้โมโหทั้งหลายก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมปอดพังทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้สูบบุหรี่