ใครบ้างที่เจอกับภาวะ “เตียงดูด” ในตอนเช้าบ้าง ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกทีไรก็อยากจะกดปุ่ม snooze ไปเรื่อยๆ ยิ่งช่วงนี้ฝนตกบ่อยๆ ยิ่งเหมือนเป็นการเพิ่มดีกรีความขี้เกียจมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว เพราะอากาศเย็นๆ ที่เหมาะกับการซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม บวกกับภาวะรถติดที่ไม่อยากเผชิญ ยิ่งทำให้เราอยากนอนต่อ

อาการเหล่านี้ฟังดูเหมือนว่าคุณขี้เกียจตื่น จนไปเรียนหรือไปทำงานสาย... แต่อย่าเพิ่งรู้สึกผิด เพราะมีงานวิจัยที่บอกว่าการตื่นสายเป็นสัญญาณหนึ่งที่บอกว่าคุณฉลาด

จากงานวิจัยเรื่อง Why night owls are more intelligent ของซาโตชิ คานาซาวา และคชา เปรินา 2 นักวิจัยจากเกาะอังกฤษ ได้ศึกษาความเชื่อมโยงของระดับไอคิวและเวลาเข้านอน โดยแบ่งเป็น 5 กลุ่ม คือกลุ่มหัวทึบมาก IQ<75 กลุ่มหัวทึบ IQ75-90 กลุ่มปกติ IQ90-100 กลุ่มหัวดี IQ 110-125 และกลุ่มหัวดีมาก IQ >125
ส่วนสาเหตุของการตื่นสาย ต้องย้อนดูไปถึงบรรพบุรุษของมนุษย์... พฤติกรรมของมนุษย์ถ้ำคือจะเข้านอนหัวค่ำและตื่นนอนเร็ว แล้วก็เริ่มมีมนุษย์กลุ่มหนึ่งไม่ทำตามขนบเดิมๆ คือ "ตื่นสาย" กว่าปกติ นั่นเพราะพวกเขาฟังความต้องการของร่างกายว่าอยากนอนต่อ ไม่ตกอยู่ภายใต้อำนาจของนาฬิกาปลุกหรือขนบเดิมๆ นั้นสะท้อนว่าเรามีอิสระในการคิดและใช้ชีวิต และเกิดกระบวนการคิดถึงวิธีการจัดการการงานต่างๆ ภายในเวลาอันจำกัดเพื่อให้ตัวเองได้ตื่นสาย
 

ทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยเซาธ์แธมตัน ได้ศึกษารูปแบบการนอนของผู้หญิงและชายรวม 1,229 คนเปรียบเทียบกับสถานะทางเศรษฐกิจและสังคม พวกเขาพบว่าคนนอนดึกหรือพวก Night owl ที่เข้านอนราวๆ เที่ยงคืนและตื่นนอนหลังแปดโมงเช้า จะมีรายได้สูงกว่า มีความเป็นอยู่ที่สะดวกสบายกว่าและแน่นอนว่ามีความสุขมากกว่าคนตื่นเช้า

ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ได้หมายความว่าการนอนเยอะๆ จะทำให้มีความสุขขึ้น เพราะ "ความสุข" ที่มีอาจต้องใช้หลายปัจจัยรวมกัน นอกจากนี้ก็เคยมีงานวิจัยที่พบว่าคนที่นอนมากกว่า 12 ชั่วโมงต่อวัน มีความเสี่ยงจะเสียชีวิตก่อนวัยอันควรมากกว่า ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะกับการนอนและมีความเสี่ยงน้อยที่สุดคือ 8 ชั่วโมง