ถ้าให้พูดถึง “พิลาทีส” เราเชื่อว่ามีทั้งคนที่รู้จักและไม่รู้จัก หรือบางคนอาจจะรู้จักแต่อาจจะไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วพิลาทีสคืออะไร เล่นไปแล้วได้อะไร หรือเป็นแค่การออกกำลังกายสวยๆ เอาไว้โพสต์อวดคนในโซเชี่ยลหรือเปล่า?? เอาเป็นว่าวันนี้เราจะได้ฟังจากกูรู  “พี่เดือน พิทยา นันทะ” Certificate Pilates Instructor แห่ง PoleStar Pilates กันว่า จริงๆ แล้วการออกกำลังกายด้วยพิลาทีสนั้นให้ประโยชน์อะไรกับเราบ้าง


 

พิลาทีสเป็นการออกกำลังกายที่เน้นเรื่องการสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย ที่คิดค้นโดยโจเซฟ พิลาทีส ชาวเยอรมัน โดยอยากแก้ปัญหาพื้นฐานของตัวเองที่มีร่างกายไม่แข็งแรง ซึ่งหลักการของพิลาทีสคือเน้นประโยชน์ด้านการควบคุม การเคลื่อนไหวของร่างกาย และจิตใจให้เป็นหนึ่งเดียวกัน  โดยการออกกำลังกายแบบพิลาทีสนั้นสามารถทำได้ทั้งแบบไม่มีอุปกรณ์ คือเล่นบนเสื่อ หรืออาจจะเล่นควบคู่กับลูกบอล ผ้า หรือเชือก และแบบมีอุปกรณ์พิเศษ อย่างเครื่องรีฟอร์เมอร์ ที่เป็นตัวช่วยให้การเล่นพิลาทีสเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น 
 

หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้กันมาก่อนว่า พิลาทีสนั้นเป็นการออกกำลังกายแบบ Low Impact ที่กระทบกระเทือนกับร่างกาย ข้อต่อ กระดูกต่างๆ น้อยมาก เน้นให้ศูนย์พลังบริเวณจุดกึ่งกลางของร่างกายเป็นตัวควบคุมการเคลื่อนไหวต่างๆ  “เราต้องคอนโทรลร่างกายตัวเองตลอดเวลาการเล่น ไม่มีการกระแทก แต่เน้นการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก ความนิ่ง ความบาลานซ์ เพื่อสร้างความเเข็งแรงให้กับแกนกลางของลำตัว”

 

พี่เดือนเล่าให้เราฟังว่า คนเรามีกล้ามเนื้อสองประเภท คือกล้ามเนื้อมัดใหญ่ที่ใช้ในการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน และกล้ามเนื้อมัดเล็กที่ใช้สร้างความแข็งแรง ซึ่งกล้ามเนื้อทั้งสองมัดนี้ต้องทำงานควบคู่กัน “คือถ้าเราใช้แต่กล้ามเนื้อมัดใหญ่ แล้วไม่ได้กระตุ้นกล้ามเนื้อมัดเล็กเลย ก็จะเกิดความไม่บาลานซ์ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ หรือการใช้ชีวิตประจำวัน เรามักจะใช้แต่กล้ามเนื้อมัดใหญ่ ทำแต่ท่าเดิมๆ ซ้ำๆ เลยทำให้เราปวดเมื่อย เป็นออฟฟิศซินโดรม หรือบางคนเป็นหนักถึงขั้นกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท เพราะกล้ามเนื้อมัดเล็กไม่ได้ถูกใช้งาน ไม่ได้มีการยืดเหยียดที่ถูกต้อง ซึ่งพิลาทีสจะเข้ามาช่วยให้กล้ามเนื้อมัดเล็กทำงานได้ถูกต้อง ช่วยซัพพอร์ตกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ช่วยสร้างแกนกลางของร่างกายให้เเข็งแรง ช่วยให้กล้ามเนื้อแต่ละส่วนเคลื่อนไหวเป็นอิสระต่อกัน ลดการดึงรั้งของกล้ามเนื้อโดยไม่จำเป็น ซึ่งพอเรามีกล้ามเนื้อมัดเล็กที่เเข็งแรง แกนกลางของลำตัวก็จะเเข็งแรงตาม บุคคลิกภาพก็จะเป๊ะ หุ่น และรูปร่างก็จะฟิตแอนด์เฟิร์ม”

 

นี่คือผลพลอยได้ที่เซอร์ไพรส์สุดๆ ที่เราเชื่อว่าน้อยคนจะรู้ เพราะส่วนใหญ่แล้วก็มักจะคิดว่าการเล่นพิลาทีสนั้นจะได้ผลลัพธ์แค่กับร่างกายและรูปร่างเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วครูเดือนบอกว่า “พิลาทีสคือการ Aging ภายในได้เลย เพราะเมื่อเราได้ยืดเหยียดกระดูกสันหลังอย่างถูกต้อง คนที่หลังค่อม ตัวงอ กระดูกสันหลังทับหมอนรองกระดูก เขาจะมีโพสเจอร์ที่ดีขึ้น พอโพสเจอร์ดีขึ้นก็จะช่วยให้หายใจได้ลึกขึ้น ร่างกายเราไม่งอไปเบียดบังระบบการหายใจต่างๆ ทำร่างกายได้รับออกซิเจนมากขึ้นมันเหมือนเป็นการ Internal Shower Detox ไปในตัว พอข้างในเราดี ทุกอย่างก็จะเสื่อมช้า รวมไปถึงการรับรู้พวกรูป รส กลิ่น เสียง การฟังของเรามันจะดีขึ้นมาเลยจริงๆ หน้าจะดูเด็กขึ้น ผิวพรรณก็จะสดใส”

 

การเล่นพิลาทีสนอกจากจะได้ในเรื่องความแข็งแรงของร่างกายแล้ว ยังได้ผลในเรื่องของจิตใจด้วย “อย่างที่บอกว่าทั้งร่างกายและจิตใจต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน จึงเหมือนเป็นกึ่งการทำสมาธิ เราต้องโฟกัส มีสมาธิในการคอนโทรลร่างกาย มูฟเฉพาะจุดเพื่อให้แต่ละจุดยืดหยุ่น ทุกอย่างต้องมีสติ เหมือนเดินจงกรมยังไงยังงั้นเลย ทำให้ทุกคลาสในการเข้าเรียนเหมือนเราได้ใช้สติ หยุดให้เวลาทำความเข้าใจตัวเองจริงๆ”

 

เพราะทุกท่าทางของการเล่นพิลาทีสนั้นเราจะต้องใช้สติ ทำให้เราเลือกใช้กล้ามเนื้อได้อย่างเหมาะสม ส่งผลให้เราออกกำลังกาย หรือใช้ชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น แล้วยังช่วยลดอาการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายแบบผิดท่า เพราะความไม่รู้ได้อีกด้วย 

 

“พิลาทีสสามารถเล่นได้ทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่วัยรุ่น จนถึงผู้ใหญ่อายุประมาณ 65 ปีก็ยังเล่นได้เลย แล้วยิ่งโดยเฉพาะคนที่มีปัญหาปวดหลังล่าง เจอออฟฟิศซินโดรมเล่นงาน ยิ่งแนะให้มาเล่นเลย เพราะจะปรับท่าทาง บุคลิกภาพให้ดีขึ้น แถมพิลาทีสยังเป็นการออกกำลังกายที่ใช้ควบคู่กับการกายภาพบำบัดได้ด้วย  แล้วไม่ต้องมีพื้นฐานอะไรก็เล่นได้สบายๆ ขอแค่เตรียมใจมาอย่างเดียวพอ” 

 

ได้เห็นถึงประโยนช์ของพิลาทีสกันแล้วว่าแน่นขนาดนี้ ใครที่อยากจะหันมาเป็นสาวกพีลาทีสบ้าง ก็รีบเลย จะได้มีหุ่นฟิตแอนด์เฟิร์มไปพร้อมๆ กับร่างกายที่แข็งแรง แล้วอย่าลืมแชร์รูปมาให้เราดูบ้างนะ