ปกติเวลาที่ทุกคนดูเเลผมกันนั้น ส่วนใหญ่ก็มัวแต่ไปใส่ใจกันแต่เส้นผมว่าเสียมั้ย แตกปลายหรือเปล่า ผมร่วงเยอะมั้ย แต่เชื่อเลยว่าไม่เคยมีใครใส่ใจหนังศีรษะเราสุขภาพดีมั้ย ซึ่งรู้หรือเปล่าจริงๆ แล้วหนังศีรษะคือ ส่วนที่สำคัญในการดูแลเส้นผมทั้งหมด คิดง่ายๆ ว่าหนังศีรษะคือจุดเริ่มต้น ถ้าเรามีจุดเริ่มต้นที่ไม่แข็งแรง แล้วส่วนปลายเราจะดีได้ยังไง 
 

 

 

พอเกริ่นมาประมาณนี้หลายๆ คนน่าจะพอมองเห็นภาพแล้วว่าหนังศีรษะเกี่ยวข้องยังไงกับการดูแลเส้นผม แต่เราจะพามาเคลียร์ให้ชัดๆ กับ คุณกิ๊ฟท์ Senior Hair Stylist @Shiseido Salon & Spa สาขาสยามพารากอน กันดีกว่า 

 

เพราะหนังศีรษะเราเนี่ยคือจุดเริ่มต้นของรากผม ลองคิดง่ายๆ ว่าถ้าหนังศีรษะเราไม่แข็งแรง อ่อนแอ รากผมเราก็ไม่แข็งแรง พอรากผมไม่แข็งแรง ก็มีปัญหาผมหลุดร่วงตามมา รวมไปถึงผมแห้งเสีย ชี้ฟู แตกปลายด้วย 

 

ซึ่งเรื่องนี้คุณกิฟท์บอกว่าเป็นเรื่องที่แปลกมากบางคนทำทรีตเม้นท์ผมกันทุกอาทิตย์ ทุกเดือน แต่กับหนังศีรษะกลับไปเคยทำกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วหนังศีรษะก็ต้องการทำทรีตเม้นท์บำรุงเหมือนกัน เพราะก็สะสมสิ่งสกปรกทั้งความมัน มลภาวะ หรือพวกเหล่าสารเคมีต่างๆ ไม่ต่างจากเส้นผม อย่างน้อยควรทำเดือนละครั้งควบคู่ไปกับการทำทรีตเม้นท์เส้นผม เราก็จะได้มีหนังศีรษะที่สุขภาพดีไปพร้อมกับเส้นผมที่สวย แล้วก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเข้าร้านไปทำทรีตเม้นท์ได้อย่างเดียว เดี๋ยวนี้มีทรีตเม้นท์ที่ออกแบบมาเพื่อบำรุงหนังศีรษะเต็มไปหมด ซึ่งเราก็สามารถทำเองได้ที่บ้านสบายๆ  

 

ส่วนใหญ่คนจะชอบใช้สูตรไหนก็จะใช้สูตรเดียวกันไปหมดเพราะคิดว่าเพื่อประสิทธิภาพที่ดี อย่างบางคนทำสีก็จะใช้สูตรทำสีไปทั้งหมด แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นคุณกิฟท์บอกว่า “เราสามารถมิกซ์สูตรได้ อาจจะไม่ใช้สูตรเดียวกันทั้งหมดยังได้เลย อย่างเช่น สมมุติเราไปทำสีมา เรากังวลเรื่องสีเฟดก็เลือกใช้แชมพู และครีมนวดสำหรับผมทำสี แต่ทรีตเม้นท์ หรือลีฟออนก็เลือกเป็นแบบบำรุงหนังศีรษะให้แข็งแรง ลดการขาดหลุดร่วงก็ได้ เพราะการทำสีมานั้นหนังศีรษะเราก็ถูกทำร้ายไม่ต่างจากเส้นผมเหมือนกัน หรือบางคนหนังศรีษะมัน แต่ปลายผมแห้ง การใช้แชมพู และครีมนวดสำหรับผมแห้งเสียอย่างเดียวก็จะเป็นการหนักเกินไปสำหรับโคนผม ก็เลือกเป็นแชมพูสำหรับผมมัน และใช้ครีมนวดสำหรับผมแห้งบำรุงปลายผมอย่างเดียว ก็จะเป็นการบาลานซ์ที่ลงตัวกว่า”  

 

อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือการเป่าโคนผมให้แห้ง หลายคนเวลาเป่าผม สนใจแต่จะเป่าปลายให้แห้ง หรือมัวแต่กังวลจะม้วนผมนู่นนี่ ไม่สนใจโคนผมจะแห้งสนิทดีหรือยัง ซึ่งคุณกิฟท์บอกว่า “การเป่าผมสิ่งที่สำคัญที่สุดคือโคนผมต้องแห้ง ปลายผมไม่แห้งไม่เป็นไร เพราะถ้าเราปล่อยให้โคนผมไม่แห้ง จะเกิดการอับชื้น ยิ่งถ้าใครสระผมตอนกลางคืนแล้วนอนเลยเนี่ย เสี่ยงต่อการเป็นเชื้อราบนหนังศีรษะ พอเป็นเชื้อราปุ๊ป ผมร่วง ผมขาดมาแน่นอน” ส่วนเรื่องความร้อนจากไดร์เป่าผมเนี่ย ส่วนใหญ่เราเองก็คงไม่เอาไดร์ไปจ่อที่หนังศีรษะโดยตรงกันอยู่แล้ว คุณกิฟท์เลยขอฝากในส่วนของความร้อนว่าไม่ควรเกิน 90 องศา หรือง่ายๆ ก็คือความร้อนระดับกลางของไดร์ส่วนใหญ่ อาจจะไม่แห้งทันใจ แต่ดีต่อสุขภาพหนังศีรษะ และเส้นผมของเรา

 

ในความเป็นจริงกูรูส่วนใหญ่จะไม่แนะนำให้เราสระผมด้วยน้ำอุ่น เพราะจะทำให้หนังศีรษะแห้ง ยิ่งถ้าใครมีปัญหาเรื่องคัน หรือหนังศีรษะลอกเป็นแผ่นด้วยแล้วก็จะยิ่งพังไปกันใหญ่ แต่บางคนก็ติดใช้น้ำอุ่น หรือขี้หนาว เราเลยแอบถามคุณกิฟท์ว่าให้ทำยังไงดี ซึ่งก็ได้คำตอบว่า “ให้ใช้น้ำอุ่นสระผมในตอนแรก แล้วให้ปิดท้ายด้วยน้ำเย็นทุกครั้ง เพื่อเป็นการปิดเกล็ดผม และปลอบประโลมหนังศีรษะ” 

 

 

 

1. Shiseido Professional Adenovital Scalp Essence ตัวนี้คือดีงามยืนหนึ่งที่ต้องมีเลย เป็นเอสเซนต์บำรุงหนังศีรษะที่ช่วยปรับสภาพหนังศีรษะให้สมดุลย์ ผ่อนคลาย ช่วยลดปัญหาผมหลุดร่วง บำรุงให้รากผมเเข็งแรง ใครที่เจอกับปัญหาผมร่วงหนักๆ บอกเลยว่าตัวนี้ช่วยได้จริงๆ 

 

 

2. Shiseido Professional Sublimic Scalp Care  ไลน์ตัวนี้จะออกแบบมาเพื่อดูเเลหนังศีรษะโดยเฉพาะ มีตั้งแต่แชมพู ครีมนวด ทรีตเม้นท์ เอสเซนต์ โทนิค แถมยังแตกออกมาเป็นความต้องการของหนังศีรษะที่แตกต่างกันอีกด้วย มีทั้งหนังศีรษะแห้ง หนังศีรษะมัน หนังศีรษะอ่อนแอ 

 

 

เอาล่ะ! ได้วิธีดูเเลเส้นผมและหนังศีรษะจากกูรูกันไปแล้ว ใครที่เคยละเลย หรือไม่เคยเห็นความสำคัญของหนังศีรษะ ก็คงต้องหันกลับมาดูเเลกันอย่างจริงจังสักที ก่อนที่รู้ตัวอีกทีผมจะร่วงกราวจนต้องนั่งน้ำตาตก