กินไปบ่นไป เผ็ดแค่ไหนก็ยังชอบกิน
ปัจจุบันเทรนด์อาหารคลีนนั้นมาแรงในผู้ที่รักสุขภาพ เพราะนอกจากจะเป็นการลดทอนการปรุงอาหารด้วยน้ำมันแล้ว ยังลดสารปรุงแต่งรสประเภทต่างๆ ที่มักแฝงอันตรายหากร่างกายได้รับมากเกินไป
หลายคนที่งดหวาน มัน เค็ม เพราะทราบดีว่าจะช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนัก แต่เมื่อต้องขาดบางรสไป ก็ต้องมีรสอื่นเข้ามาเสริมเพื่อเพิ่มความอร่อย การปรุงอาหารด้วยพริกจึงมักเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้อาหารมีรสชาติน่าทานขึ้น
เรามาดูกันดีกว่าว่า การกินเผ็ดหรือกินพริกนั้นจะมีประโยชน์หรือโทษอย่างไรบ้าง
ประโยชน์ของพริก
1.ในพริกจะมีสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า สารแคปไซซิน ซึ่งเป็นสารที่ช่วย บรรเทาอาการเจ็บปวด บรรเทาอาการไข้หวัด ลดน้ำมูก ลดปริมาณคอเลสเตอรอล นอกจากนี้พริกยังมีวิตามินซีสูง พริกที่มีสีแดง ส้มหรือเหลือง จะมีสารเบตาแคโรทีนซึ่งเป็นสารในกลุ่มวิตามินเอที่ช่วยต้านการเกิดอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งอีกด้วย
2.มีการวิจัยพบว่า พริกช่วยเพิ่มอุณหภูมิให้ร่างกายและช่วยให้เกิดการเผาผลาญมากขึ้น จึงมีประโยชน์เรื่อง การควบคุมน้ำหนัก
3.กินพริกช่วย ลดปริมาณสารอินซูลิน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้แก่เร็ว มีรายงานว่า 30 นาทีหลังกินพริก อินซูลินจะไม่ขึ้นเลย
4.พริกยังสามารถนำมาเป็นส่วนประกอบในการ ผลิตเป็นเจล ใช้ทารักษาโรคผิวหนังอักเสบ แก้ปวดข้อ เข่าอักเสบ ปวดเมื่อย เริม หรืองูสวัด ได้ด้วย
กินพริกต้องระวัง
1.สารแคปไซซินในพริกจะก่อให้เกิดการ ระคายเคือง ต่อเยื่อเมือกต่างๆ ที่สัมผัสถูก ทั้งทางตา จมูก ทางเดินหายใจ และทางเดินอาหาร แต่จะระคายเคืองมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณของพริกที่ได้รับ และยังขึ้นกับความทนหรือความไวต่อการรับสารนี้ของแต่ละคนที่ไม่เท่ากันด้วย
2.หากคุณเป็นโรคเกี่ยวกับทางระบบทางเดินอาหาร เช่น แผลในกระเพาะอาหาร กระเพาะอาหารอักเสบ โรคกรดไหลย้อน หรือแม้แต่โรคริดสีดวงทวาร ควรรับประทานพริกให้น้อยลง เพราะสารแคปไซชินจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองส่งผลต่อโรคเหล่านี้ได้
3.ความเผ็ดและแสบร้อนจากพริกอาจ กระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายทำงานมากขึ้น ดังนั้นผู้เป็นโรคความดันสูง หรือโรคหัวใจ ควรระมัดระวังในการกินพริกเช่นกัน
4.การกินพริกก็ต้องรู้สึกเผ็ด แต่การดื่มน้ำเย็น หรือดื่มน้ำมากๆ ไม่ได้ช่วยลดความเผ็ดลงได้ วิธีที่ถูกต้องคือการดื่มนม กินไอศกรีม หรือทานอาหารมันๆ เนื่องจากสารแคปไซซินที่ทำให้เกิดความเผ็ด แสบ ร้อน นั้น จะละลายได้ดีในไขมัน การกินอาหารที่มีความมันจึงทำให้สารนี้เจือจางไป อาการเผ็ด แสบ ร้อนก็จะลดลง
5.หลายคนมีความเชื่อว่าการกินพริกมากๆ หรือรับประทานอาหารรสเผ็ดจัดจะทำให้เป็นโรคกระเพาะอาหาร นั่นเป็นการเข้าใจผิด แม้สารในพริกจะมีฤทธิ์เป็นกรด แต่ก็ไม่ทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหาร อาการที่เกิดขึ้นหลังกินพริก อาจจะแค่ หลอดอาหารหดเกร็ง ทำให้รู้สึกจุกแน่นลิ้นปี่ คุณอาจจะสังเกตว่าอาการเหล่านี้หายไปหรือไม่ ถ้าเป็นมากหรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยควรหลีกเลี่ยงการกินพริก และถ้ารู้สึกอาการแย่ลงเรื่อยๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์
แพ้พริกขนาดไหนต้องไปพบแพทย์
ปกติแล้วกินพริกก็ต้องรู้สึกเผ็ดร้อน แต่หากคุณมีอาการแพ้พริกมากกว่าปกติ เมื่อมีอาการเหล่านี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์
1.ริมฝีปากหรือใบหน้าบวม และ/หรือมีผื่นขึ้นตามลำตัว แขน ขา หรือใบหน้า
2.หากพริกเข้าตาจนแสบตา เมื่อล้างตาด้วยน้ำสะอาดแล้วแต่อาการยังไม่ดีขึ้นหรือกลับยิ่งแย่ลง
3.มีอาการปวดท้อง ท้องเสีย และไม่ดีขึ้นเมื่อดูแลตัวเองตามสมควรแล้ว
4.มีอาการหอบเหนื่อย หายใจลำบาก ไอ หรือไอมีเลือดปน
5.อาเจียนและ/หรืออุจจาระเป็นเลือด และ/หรือถ่ายอุจจาระเป็นสีดำเหมือนยางมะตอย
จะว่าไปแล้วการกินอาหารทุกชนิด ไม่ว่าจะมีรสชาติอร่อยถูกปากอย่างไร ควรคำนึงถึงความสะอาดและความปลอดภัยเป็นอันดับแรก และเพราะในแต่ละคนนั้นก็มีการแพ้หรือไวต่อสารในอาหารที่ไม่เหมือนกัน เราจึงควรสังเกตตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงอาการไม่พึงประสงค์จากอาหารนั้น รวมถึงพริกด้วย
