เปิดใจแบบเรียลๆ หลังไปถ่ายรีวิวคาเฟ่แห่งหนึ่งย่าน “BTS อารีย์”
คาเฟ่ย่าน BTS อารีย์ ซอยสายลม 1 ที่เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับเราย่านนั้นจะเป็นที่ไหนไปได้นอกจากที่นี่เล้ยย! “Beaker and Bitter” วันนี้ขอแชร์ประสบการณ์แบบเรียลๆ กันซักหน่อย ก่อนที่จะพาคุณไปรีวิวกันอีกทีในรายการ “HA พาไป” ที่จะออนแอร์ผ่านทางช่องยูทุป HEALTH ADDICT และ FACEBOOK FANPAGE เร็วๆ นี้สิ่งที่เราจะมาเล่าคือ ความรู้สึกที่สุดเรียลหลังจากได้ไปลองทำกาแฟกับทางร้านและพูดคุยกับเจ้าของร้านมาพอหอมปากหอมคอ บอกได้คำเดียวเลยว่า เราสัมผัสถึง “ความไม่ธรรมดา”ที่มีอยู่จริงของที่นี่ เหมือนที่ชาวเน็ตบอกไว้เลยจริงๆ แต่จะรู้สึกได้แบบไหน ก็คงต้องมาสัมผัสด้วยตัวคุณเองเท่านั้น!
ความตั้งใจจริงที่อยากไปที่นี่คือ ส่วนตัวเราเป็นคนเสพติดกาแฟอยู่แล้ว หนักถึงขั้นไปไล่อ่านตำนานกาแฟเลยทีเดียวว่าความเป็นมามันคือยังไง? อ่านยาวไปจนถึงขนาดที่ Passion ต่อไปของเราคืออยากรีวิวกาแฟที่ดีที่สุดในโลกอย่าง “กาแฟขี้ช้าง” จากบ้านเรานี่ล่ะ ก่อนเราจะโม้ไปเรื่อย มาทำความรู้จักกับคาเฟ่ที่เราจะเล่าให้ฟังเลยดีกว่า
ทำความรู้จัก BEAKER AND BITTER ชื่อร้านนี้เขาได้แต่ใดมา?
BEAKER AND BITTER ถ้าคุณแปลได้ตรงตัวเป๊ะๆ เลย คำว่า “BEAKER” จะแปลว่า “ขวดทดลองยา” เป็นถ้วยทดลองสารเคมีที่อดีตเด็กสายวิทย์หลายคนคงผ่านตากันมาแล้ว ส่วนคำว่า “Bitter” ก็แปลว่าขม แต่ “ขม” ในที่นี้อาจจะไม่ใช่ความหมายของยาซะทีเดียว แต่มันคือความขมของกาแฟที่แสนอร่อยยังไงล่ะและก่อนที่เราจะเริ่มถ่ายรายการ HA พาไป “พี่เคน” เจ้าของร้านเล่าว่า ก่อนหน้านี้ ย้อนไป 50 ปี…ที่นี่คือโรงงานผลิตยาเก่า ซึ่งของจริงก็ยังคงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักรทุกอย่างยังคงไว้เหมือนเดิมหมด แม้แต่ขวดโหลเก่าๆ ที่เคยมีการใช้ทดลองยา ทุกอย่างที่เราเห็นหรือสัมผัส ยังคงมีอยู่ ไม่มีการตกแต่งอะไรเพิ่มเติมรวมถึงเค้าโครงโรงงานผลิตยาก็เหมือนเดิมเลยจ้า ป้ายชื่อห้องทดลอง ห้องเก็บยาห้องปลอดเชื้อก็ยังไม่ได้เอาออกเลย ภาพมะโนในการเป็นนักเคมีก็ลอยมาในหัวเราทันที ที่นี่เจ๋งมากจริงๆ ที่ทำให้เรารู้สึกย้อนวัยได้เหมือนหลุดกลับอดีตแบบนั้น
ภายในโรงงาน เอ๊ย ไม่ใช่! คาเฟ่นี้ เขายังมีห้องซอยแบ่งย่อยออกมาหลายมุมมาก เช่น ห้องเก็บเสียงใช้สำหรับประชุม อ่านหนังสือ ทำรายงานหรือแม้แต่จะเป็นห้องเมาท์มอยส์ พูดคุย ดูซีรีย์ยกก๊วน หรือแม้แต่จะถ่ายภาพลงนิตยาสาร ไอจี ที่นี่เขาเตรียมไว้ให้หมดเลย แถมยังมีชุดกราวน์กับแว่นให้คุณๆ ได้สวมใส่เหมือนนักเคมีจริงๆ ซะด้วย
หลังจากที่รู้ประวัติความเก่าแก่ของที่นี่เท่านั้นล่ะ เราก็เดินขึ้นบันได้ทรง Spiral ที่ตั้งเด่นอยู่ช่วงกลางโถงชั้นล่างทันที พอได้ขึ้นไปก็ตั้งใจจะไปเก็บฟุตนะ แต่พอมองไปรอบๆ ก็เห็นห้องเก่าและห้องว่างๆ โดยรอบ ด้วยความอยากรู้ เราก็ซูมกล้องและชะโงกดู ทำให้เห็นความเก่าและขลังของสถานที่นี้จริงๆ แม้กระทั่งกระเบื้องสีเหลืองๆ ซึ่งเรามั่นใจมากว่านั่นเป็นสีที่ Original แบบสุดๆ และห้องเหล่านั้นคือห้องเก็บยาชัดๆ เลย เก่ามากจริงๆ
อันแน่! เข้าใจว่าเรามารีวิวความหลอนรึป่าว? ไม่ใช่นะ แต่เราจะมาบอกว่า…นี่ล่ะคือที่สำหรับคอกาแฟและคนรักคาเฟ่อย่างแท้ทรู ตอบโจทย์คนทุกวัยด้วย!
ที่สำคัญ! คุณจะได้ลองทำกาแฟเองด้วยนะ!
“เพราะเราชอบทานมากกว่าทำ” ก็เลยไม่มีสกิลด้านนี้ แต่พี่เคนเขาช่วยชีวิตไว้ ทำให้ได้เรียนรู้ว่า แต่ละขั้นตอนของทางร้านนั้น Neat มาก แถมยังมีการใช้บีกเกอร์ในการชง และมี Dry ICE กับตะแกงจิ๋วเตรียมไว้ให้เราวางกาแฟพร้อมทำความเย็นให้อีกด้วยนะ สนุกมาก ควันฟุ้งงง เหมือนเราเป็นนักวิทยาศาสตร์เลยจริงๆสายแฟ สายถ่ายภาพ อย่าลืมเก็บมุมให้ครบ !
ถ้า Search หาตามแฮชแท๊กไอจี #beakerandbitter คุณก็จะเจอแล้วว่ามุมเด่นๆ มีจุดไหนบ้าง เช่น มุมกระจกทางเข้า มุมขวดโหลโบราณ มุมคอมพิวเตอร์เก่า และมุมบันไดแต่มุมนอกกระแสจุดอื่นที่เราขอแนะนำให้ไปตามเก็บเลยคือ ภาพหนังสือเมนูที่ตั้งอยู่ตรงเคาวน์เตอร์สั่งเครื่องดื่มนั่นละ ถ้าคุณเปิดอ่านมันทุกหน้าเหมือนเราล่ะก็ จะเห็นว่านั่นเป็นหนังสือสูตรเคมีเลยนะ มีชื่อโมเลกุลต่างๆ แถมยังเก่ามากด้วย
นอกเหนือจากนั้นจะมี มุมขวดแกลลอนพลาสติกใส่ยาเก่าที่น่าขนลุกมากก และอีกมุมคือ เครื่องจักร แค่คุณเข้าไปนั่งจ้องนานๆ บวกเก็บภาพไปด้วย รับรองต้องได้ความรู้สึกถึงมนตร์เสน่ห์และความขลังของสถานที่นี่