เขาวิจัยมาแล้ว... มี “ความสุข” แถมงานดีมากกว่า ถ้าทำกับเพื่อน

 
สมมติว่าคนเรามีอายุเฉลี่ย 80 ปี... 20 ปีแรกถูกใช้ไปกับการศึกษาหาความรู้ เพื่อที่อีก 40 ปีต่อมาจะใช้ความรู้นั้นไปกับการทำมาหาเลี้ยงชีวิตและเติมเต็มความฝันของตัวเอง ขณะที่อีก 20 ปีในช่วงบั้นปลาย หลายคนอาจยังทำงาน ขณะที่อีกหลายคนพักผ่อนอย่างสุขสบาย
 
ถ้าดูคร่าวๆ แล้วจะเห็นว่าเราใช้เวลาทำงานไปครึ่งหนึ่งของชีวิต ในแต่ละวันเราอาจได้เจอหน้าเพื่อนร่วมงานนานกว่าเห็นหน้าคนในครอบครัวด้วยซ้ำ... ซึ่งนอกจาก “เรื่องงาน” ที่เราต้องคุยกับเพื่อนร่วมงานอยู่แล้ว การมี “เพื่อน” ในที่ทำงาน สามารถพูดคุย “เรื่องส่วนตัว” กันด้วยความไว้ใจและสบายใจ ก็ยังมีผลดีต่อตัวคุณเองด้วยนะ
 
โดย Gallup บริษัทข้ามชาติที่เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรบุคคล ศึกษาพบว่าการมีเพื่อนสนิทอย่างน้อย 1 คนในออฟฟิส จะช่วยให้คุณทำงานได้ดีและมีความสร้างสรรค์ใหม่ๆ มากขึ้น


 
• มีความเป็นไปได้มากกว่า ในการทำให้งานสำเร็จ
ทำไมเราถึงต้องมีเพื่อนสนิทในที่ทำงาน? คำตอบอาจจะเป็นอะไรที่เรียบง่ายอย่าง “เพื่อนสนิททำให้คุณอยากไปทำงานและใช้ช่วงเวลาแห่งความสุขร่วมกัน”... แอนนามารี มานน์ หนึ่งในทีมที่ศึกษาเรื่องนี้บอกว่า การมีเพื่อนสนิทจะทำให้คุณอยากร่วมโปรเจ็คต์ต่างๆ มากขึ้น 7 เท่า ไม่ว่าจะเป็นการแชร์ไอเดียเรื่องงานหรือแม้แต่ทำให้งานออกมามีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีโอกาสน้อยกว่า 20% ที่คุณจะมองหางานใหม่อีกด้วย
 
• พวกเขาทำให้เราคิดอะไรใหม่ๆ ส่งผลให้ธุรกิจก้าวไกล
ในการมองหางานแต่ละครั้ง นอกจากเรื่องค่าตอบแทน โอกาสในการก้าวหน้า และสวัสดิการต่างๆ ที่จะได้รับแล้ว ผู้หญิงมากถึง 2 ใน 3 หรือเกือบ 70% ยอมรับว่าวัฒนธรรมองค์กรหรือเรื่องสังคมยังเป็นปัจจัยสำคัญที่พวกเธอเลือกงานนั้น
 
มิตรภาพที่เบ่งบานในที่ทำงานสามารถทำให้องค์กรเกิดกำไรมากถึง 12% เพราะพนักงานในทีมรู้สึกเชื่อมโยงถึงกัน นั่นหมายความว่าพวกเขากล้าที่จะคิดหรือทำอะไรใหม่ๆ ยิ่งไปกว่านั้น ความรู้สึกแย่ๆ อย่างความวิตกกังวล ความเครียด และความเหนื่อยล้าจากการทำงานยังมีน้อยกว่าด้วย
 
• โอกาสเกิดข้อผิดพลาดน้อยกว่าถึง 36%
จากการสำรวจพบว่า 6 ใน 10 ของบริษัทที่ทำการสำรวจ พบว่ายิ่งพนักงานรักกัน พูดคุยได้ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ก็จะลดปัญหาด้านความปลอดภัยลงได้ 36% เพราะความสัมพันธ์แน่นแฟ้นที่พวกเขามีให้กัน เป็นเหมือนเกราะป้องกันเรื่องร้ายๆ ที่อาจเกิดขึ้น
 
คุณคิดเห็นยังไงกับงานวิจัยชิ้นนี้ หรือคิดว่าในที่ทำงานไม่ควรมีเรื่องส่วนตัว มาแชร์กับเราได้นะ



 
-->