มาแล้วว...ส่อง 7 เทรนด์สีแห่งปี 2019 !!!!
ล่าสุดเราไปอ่านเจอใน E-Book ของทาง TCDC เกี่ยวกับเรื่อง Trend 2019 NOW AGE: Manifesto and Action ที่เขาวิเคราะห์เจาะเทรนด์โลกในปี 2019 ซึ่งในนั้นก็จะพูดถึงเรื่องของสังคม วัฒนธรรม ลักษณะการใช้ชีวิตและมุมมองของคนในเจเนอเรชั่นต่างๆ รวมถึงเรื่องของ “สี” ที่หลายคนตั้งหน้าตั้งตารอซึ่งในปี 2019 ทาง TCDC เขามองว่าเป็นปีแห่งการเริ่มต้นที่ทุกคนสามารถลุกขึ้นมากำหนด Standard ใหม่ได้ อย่างคำว่า NOW AGE ของเขาก็หมายถึงการแสดงออกทางความคิดและลงมือทำจนเกิดผลลัพธ์ที่ออกสู่สาธารณะได้อย่างชัดเจน หรือเรียกว่าเป็นยุคของการประกาศเจตนารมณ์และจุดยืนต่างๆ ที่ทั้งหมดนี้ล้วนแต่ส่งผลต่อโลกออนไลน์ ที่สามารถมองเห็นเป็นรูปธรรมทางความคิดในโลกออฟไลน์
อ่ะ...มาดูกันดีกว่าว่า 7 โทนสีแห่งปี 2019 จะมีสีอะไรกันบ้าง
Photo Credit: @luxuryroombathroom
Color #1: Dusty Pink
เป็นสีชมพูโทนนู้ด ที่เข้าถึงคนได้ทุกกลุ่ม และถึงแม้ว่าในอดีตสีชมพูอาจจะดูเหมือนตัวแทนของผู้หญิง มีความหวานแหวว มุ้งมิ้ง แต่จริงๆ แล้วนี่แหละคือสีที่ใช้แสดงออกถึงความเท่าเทียมของชนชั้นทางสังคมมาตั้งแต่ปี 1950 เห็นได้จากการมี “Pink Palace” ในไวท์เฮ้าส์ การที่ผู้ชายใส่เสื้อผ้าโทนสีชมพูในภาพยนตร์ The Great Gatsby หรือแม้แต่โปรดักท์ต่างๆ อย่างโทรศัพท์ไอโฟนเองก็ยังออกคอลเลคชั่นสี Rose Gold ออกมาเลย นั่นเป็นตัวพรูฟที่ดีว่าสีชมพูไม่ใช่แค่สีของผู้หญิงเท่านั้น แต่มันกลายเป็นสีที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ต่างหาก
Color #2: Tango Red
สีแดงเฉดนี้เป็นเหมือนตัวแทนของการหลอมรวมวัฒนธรรมต่างๆ เข้าด้วยกันแบบนอนสต็อป เป็นสีที่ให้ความรู้สึกถึงกระบวนการก่อสร้างตัวของสิ่งต่างๆ รอบตัว ตั้งแต่กรวด หิน ดิน ทราย ที่คงคุณค่าของความเป็นตำนาน ให้ความรู้สึกเหมือนย้อนเวลาไปยังอดีต และในขณะเดียวกันสีแดงนี้ก็เป็นสีแห่งพลังที่สามารถบิ้วท์ความรู้สึกของคนที่เคยหมดแรงให้กลับมามีพลังได้อีกครั้ง
Photo Credit: www.harrods.com
Color #3: Bristol Green
ทาง TCDC บอกว่านี่เป็นสีแห่งค่ากลางใหม่ ที่เกิดมากจากอิทธิพลของพลาสติกและขยะจำนวนมหาศาลในท้องทะเล เป็นเฉดสีเขียวที่ช่วยยกระดับความรู้สึก และเชื่อมโยงคนให้เข้ากับต้นทุนทรัพยากรขยะที่เรากำลังเผชิญอยู่ ซึ่งในช่วงสองสามปีหลังมานี้ มีสินค้าแฟชั่นต่างๆ มากมายที่ขึ้นมาเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรมสีเขียวทางทะเล หลายๆ แบรนด์หันมาใช้วัสดุรีไซเคิลกันมากขึ้น ทำให้เกิดการตื่นตัวของกระแสการรักษ์โลก และนอกจากนี้สีเขียวยังเป็นสีที่สะท้อนถึงความหรูหรา ที่ช่วยเพิ่ม value ให้กับสินค้าได้ไม่น้อยเลย
Photo Credit: HelloGiggles
Color #4: Freesia
สีเหลืองเฉดนี้ เป็นสีที่แสดงออกถึงความกล้าที่จะแตกต่าง กล้าลองผิดลองถูกจนกลายเป็นความชื่นชอบในสิ่งใหม่ๆ ซึ่งความรู้สึกนี้ก็มาพร้อมกับอิสระทางความคิด โดยเฉพาะเด็กในยุคใหม่ที่เรียกว่าเป็นแรงผลักดันสำคัญให้สีเฉดนี้เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในสังคม รวมถึงมีหลายแบรนด์ดังที่เริ่มมีการใช้สีเหลืองตกแต่งร้าน เพื่อสร้างความรู้สึกและประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้า
Photo Credit: http://kacentar.me
Color #5: Hot Coral
สีเฉดส้มอมแดง หรือส้มอมชมพู ไปจนถึงส้มอ่อนๆ ซึ่งถ้าจะพูดกันจริงๆ ก็เป็นเฉดสีที่ยังไม่ค่อยถูกหยิบน้ำมาใช้กันมากเท่าไหร่ในชีวิตประจำวัน แต่นี่แหละ ถึงเวลาที่เราจะต้องเริ่มต้นก้าวออกมาจากคอมฟอร์ตโซน เพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่สร้างความแตกต่างให้กับชีวิต และไม่ใช่แค่นั้น เพราะเขาบอกว่าสี Hot Coral นี้ยังเป็นเหมือนตัวแทนการทดลองสิ่งใหม่ๆ
Photo Credit: www.coggles.comColor #6: Smoke
ว่ากันว่าสีเทา Smoke มาจากสีของคอนกรีต ปูนเปลือย ที่สะท้อนความเจ็บปวดจากโลกหลังยุคปฏิวัตอุตสาหกรรม เป็นแรกผลักดันให้เรากล้าที่จะก้าวข้ามไปข้างหน้าด้วยสิ่งที่เรามี เป็นความคลาสสิกที่ทุกคนเข้าถึงได้ ความจริงแล้วทุกวันนี้เราก็เห็นเทรนด์ของสิ่งก่อสร้างที่เป็นปูนเปือยกันมากขึ้น แต่ก็ไม่ใช่แค่นั้น เพราะข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ก็หยิบเอาสีนี้มาถ่ายทอดเรื่องราวด้วยเหมือนกัน
Photo Credit: https://static.dezeen.com
Color #7: Metallic
เมทาลิก คือสีที่หลายคนเรียกว่าเป็นสีแห่งอนาคต ซึ่งทาง TCDC มองว่าสีนี้สะท้อนถึงการก้าวไปข้างหน้าด้วยทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ทำให้เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ในอนาคตจะมีการนำมลพิษมาเป็นส่วนหนึ่งในแหล่งพลังงานสำคัญที่ขับเคลื่อนโลก นี่ยังไม่รวมถึง The Orb บอลลูนสีเมทาลิกไซส์ยักษ์ ขนาด 32 เมตร ที่ว่ากันว่าสามารถเปลี่ยนควันพิษตอนกลางวันให้กลายเป็นแสงไฟในตอนกลางคืนได้ด้วย เริ่ดไปอีกก
และก็ครบแล้วกับ 7 โทนสี แห่งปี 2019 ใครชอบสีไหนก็เตรียมเล็งหาไอเท็มที่ชื่นชอบกันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ หรือใครอยากจะทำบ้านใหม่ การเปลี่ยนสีห้องก็อาจช่วยสร้างอินสไปเรชั่นให้กับชีวิตที่กำลังอึนๆ ได้เหมือนกันนะ ลองดูสิ
