ถ้าให้พูดถึงนาทีนี้คงจะไม่ใช่ Gen Z ที่ถือว่าเป็นเจนฯ ล่าสุดอีกต่อไปแล้ว เพราะตอนนี้เราก้าวมาถึงจุดที่ต้องใช้ชีวิตร่วมกันกับเจนเนอเรชั่น “อัลฟ่า” กันแล้ว และในอีกไม่นานเจนเนอเรชั่นนี้ก็จะยิ่งเข้ามามีบทบาทในสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นแล้วรีบมาทำความรู้จักกับธรรมชาติของเจนฯ นี้กันไว้เเต่เนิ่นๆ จะได้เตรียมรับมือกันถูก



 

คือเด็กที่เกิดตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นไป เด็กเจนฯ นี้ส่วนใหญ่จะเกิดจากพ่อแม่ที่มาจาก Gen Y และ Gen  Z  ซึ่งในตอนนี้ก็จะอยู่ในวัยอนุบาลกัน เติบโตมาพร้อมกับอุปกรณ์ดิจิตอล เรียกได้ว่าอยู่กับเทคโนโลยีต่างๆ ตั้งแต่เกิด 

 

เด็กเจนฯ นี้ส่วนใหญ่เกิดในยุคที่พ่อแม่ไม่นิยมมีลูกเยอะ ทำให้การเลี้ยงดูเป็นแบบไข่ในหิน เป็นศูนย์กลางของครอบครัว บวกกับเทคโนโลยีต่างๆ แบบรอบด้าน ทำให้เขาเติบโตไปพร้อมกับวัตถุนิยม คุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลง เบื่อง่าย และมีความอดทนต่ำ เลยทำให้มีการคาดการณ์ว่าเด็กเจนฯ นี้จะเป็นเจนฯ ที่มองหาสูตรความสำเร็จที่จะทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุน้อยๆ รวมไปถึงการเติบโตในยุคของเทคโนโลยี AI และ AR อยู่ในยุคที่สกุลเงินดิจิตัลเป็นเรื่องปกติสำหรับเขา หรือแม้แต่การไปท่องเที่ยวในอวกาศจะเกิดขึ้นจริงในยุคของเด็กเจนฯ นี้อีกด้วย จึงไม่แปลกที่พวกเขาจะมีความคิดที่สุดโต่ง มีการใช้ชีวิตที่อิสระ ไม่ยึดติด แม้แต่การศึกษาในระบบเดิมๆ ก็อาจจะไม่ใช่คำตอบที่เด็กเจนฯ นี้ต้องการเลยก็ได้

 

มีผลสำรวจจาก คอมมอน เซนส์ มีเดีย บริษัทผู้จัดทำข้อมูลตรวจสอบสื่อรูปแบบต่างๆ ของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่ามากกว่า 30% ของของเล่นชิ้นแรกสําหรับคนเจนฯ อัลฟ่า คืออุปกรณ์สื่อสารแม้ในยามพวกเขาหลับ ดังนั้นจึงคาดการณ์ได้ว่า หนึ่งในรายการของเล่นที่จะโดนใจเด็กๆ เจนฯ นี้ จะอยู่ในกลุ่ม Ed-tech หรือเทคโนโลยีสร้างการเรียนรู้

 

ถึงเด็กเจนฯ อัลฟ่าจะเติบโตมากับเทคโนโลยีก็จริง แต่ในทางกลับกันเขาจะโหยหาความเป็นส่วนตัว เพื่อหลีกหนีจากชีวิตที่รีบเร่ง แสวงหาการค้นหาทางจิตใจ ผ่านศิลปะ ดนตรี พูดคุย เพื่อเชื่อมโยงกับธรรมชาติ หาความสมดุลใหักับชีวิตในระดับจิตวิญญาณแบบยั่งยืน แล้วการเกิดมาในยุคที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่สามารถประเมินตัวเองได้อย่างมากมาย เลยทำให้พวกเขามีการตระหนักถึงตนเองมากกว่าเจนฯ อื่นๆ อีกด้วย 

 

แต่ถึงจะยังไงก็ตามทุกสิ่งอย่างที่บอกมานั้นเป็นเพียงแค่การคาดการณ์พฤติกรรมโดยรวมจากสภาพแวดล้อม ไม่ได้หมายความว่าเด็กเจนฯ อัลฟ่าจะต้องเป็นแบบนี้ทั้งหมด เพราะสุดท้ายแล้วเด็กจะเป็นยังไงก็ต้องขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูของพ่อแม่เป็นหลักอยู่ดีนะแหละ