6 วิธีหนีเครียดของมนุษย์เงินเดือน เมื่อเจอ “รถติด”

นอกจากเรื่องของตารางงานที่อัดแน่นในแต่ละวันแล้ว เรื่องของการเดินทางก็เป็นสิ่งที่อัดแน่นมากเช่นกัน ที่ไม่ว่าจะขับรถเอง นั่งรถไฟฟ้าแล้วต่อพี่วิน ก็ดูจะมีปัญหาให้ปวดหัวมันหมดทุกทาง ที่สำคัญต้องเผชิญ "รถติด" ทั้งรอบเช้ารอบเย็นไปอีกกก... อ่ะ! ในเมื่อเลือกไม่ได้ งั้นเราก็มาหาแอคทิวิตี้สร้างความโพสิทีฟให้ชีวิตกันดีกว่า 

ไหนๆ ก็ติดอยู่ด้วยกัน...ก็เมคเฟรนไปซะเลย
ผลวิจัยของวารสารชื่อดังออนไลน์อย่าง  Social Psychological & Personality Science ในอเมริกา บอกว่า การได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมทางมักจะช่วยให้ทำให้เรารู้สึกดีได้ ยิ่งถ้าใครที่ใช้รถสาธารณะ ทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า หรือใต้ดิน ก็สามารถการสร้างมิตรภาพดีๆ ระหว่างทางได้เหมือนกัน เริ่มง่ายๆ จากการแจกรอยยิ้มให้คนข้างๆ หรือรถคันข้างๆ ไม่แน่นะ รอยยิ้มของคุณอาจไปสร้างกำลังใจที่ดีให้กับคนที่เขากำลังรู้สึกมืดหม่นในชีวิตอยู่ก็ได้ หรือถ้าเล็งเห็นทาร์เก็ตอยู่ในระยะที่เข้าถึงได้ ก็อาจจะเริ่มจากบทสนทนาดินฟ้าอากาศก่อน ไม่แน่หรอก...วันนี้อาจจะได้คุยกันตรงหน้าแค่ประโยคเดียว แต่พรุ่งนี้อาจจะได้คุยกันผ่านไลน์ก็ได้หนิ ใครจะไปรู้ 

Window Shopping ในโบกี้รถไฟฟ้ากันไปเลย
ก็แหมช่วงเวลาตอนเช้าคงเป็นเวลาที่สุดแสนจะรีบเร่งของคนทำงาน ยิ่งคนที่ขึ้นรถไฟฟ้า พอประตูเปิดมา...โอ๊ยย ยิ่งกว่าปลากระป๋อง ไหนจะต้องเล็งรูและแทรกตัวมุดเข้าไปในขบวน ไหนจะต้องยืนเกร็งทรงตัวไม่ให้หัวทิ่ม เราขอให้คุณเปลี่ยนจากอารมณ์มู้ดดี้ แล้วใช้โมเม้นท์นี้ในการสำรวจการแต่งตัวของคนรอบข้างที่ดูดีมีสไตล์ จะเสื้อผ้าหน้าผมสีเล็บสีลิป ก็เมมเก็บไว้เป็น reference มันอาจจะไม่ได้สวยเว่อร์วังเหมือนใน Pinterest แต่อย่างน้อยมันก็เป็นชุดที่อยู่ในบอดี้ของคนจริงๆ ที่ไม่ได้สูง 180 หุ่นผอมเพรียวไปซะหมดนั่นแหละหน่า คิดซะว่า “ถ้าเขาใส่สวย เราก็อาจจะใส่รอดได้เหมือนกัน” มีผลวิจัยจาก Family and Consumer Sciences Research Journal บอกไว้ว่าคนที่แต่งตัวดูดีจะสร้างความรู้สึกโพสิทีฟให้กับคนภายนอกที่มองมานั่นเอง 

ใช้หูเก็บ Data ทำ Social Listening แบบฟรีๆ
งานวิจัยที่จากเว็บไซต์ mindtools.com บอกว่า การฟังแบบมีสติในเรื่องใดเรื่องหนึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะด้านการจัดการระบบงาน และการเจรจากับผู้คนได้มากขึ้น แต่บอกก่อนเลยว่าเราไม่ได้สอนให้คุณไปแอบทำหูผึ่งแอบฟังคนอื่นคุยกันบนรถไฟฟ้าหรอกนะ แต่ถ้ามันไม่ใช่เรื่องส่วนตัวหรือความลับระดับชาติแล้วยังบังเอิญเข้าหูมาเองอันนี้ก็ไม่ได้ผิด ถือซะว่าเป็นการอัพเดทข่าวสารไปในตัวก็ล่ะกัน อย่างน้อยคุณก็จะรู้ว่าตอนนี้อะไรกำลังเป็นท็อปปิคทอล์คออฟเดอะทาว์นที่คุณได้พลาดไป เพราะบางเรื่องคุณอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้ จริงมั๊ยละ ​

บิ้วท์อารมณ์สุนทรีย์ ด้วยการฟังเพลง
บอกเลยว่านี่ก็ทำประจำ รถติดใช่มั๊ย...งั้นเปิดคอนเสิร์ตบนรถก็ได้ หรือใครคิดว่ากำลังจะปรี๊ดดดด ลองฟังเพลงคลาสสิคหรือป๊อบร็อคดู เขาบอกว่ามันจะช่วยผ่อนคลายจากความเครียดได้นะ ทางสำนักข่าวดังอย่างบีบีซีเขามีผลจากการสำรวจออกมาเลยว่า ดนตรีที่มีผลต่อความรู้สึกในช่วงเวลารถติด แถมยังช่วยลดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้อีกด้วยนะ แต่ถ้าคุณกำลังอยู่ในรถไฟฟ้า อาจจะต้องใช้อุปกรณ์เสริมอย่างหูฟัง เพราะไม่อย่างนั้นมันอาจจะดังจนโดนคนอื่นพาดพิงถึงบุพการีที่บ้านได้

โทรเม้ามอยส์กับแก๊งค์เพื่อนสาว
ช่วงรถติดถ้าฟังเพลงก็แล้ว ยิ้มให้คนข้างๆ ก็แล้ว ก็ยังไม่ขยับซะที อ่ะ! กดโทรออกหาเพื่อนเลยดีกว่า เพราะเขาอาจจะกำลังรถติดอยู่เหมือนกันก็ได้ พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ที่ผ่านมาคุณอาจจะหมกมุ่นกับการทำงานจนไม่มีเวลาอัพเดตชีวิตกับเพื่อนๆ เลย ใช้เวลานี้ล่ะคุยกันไปเลย มีงานวิจัยจากหลายสถาบันยืนยันว่า การสนทนากับเพื่อนจะช่วยคลายความเครียดได้ดี แต่ถ้าคุณเดินทางด้วยรถสาธารณะอย่างรถไฟฟ้า การคุยโทรศัพท์อาจจะไม่ใช่ทางออก เพราะมันอาจจะไปรบกวนคนรอบข้างได้ เอาเป็นว่าเราขอสงวนวิธีนี้ไว้ใช้กับคนที่ขับรถเองล่ะกัน แต่ก็อย่าลืมใช้บลูทูธเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ด้วยนะ

หยิบหนังสือเล่มโปรดขึ้นอ่านหนังสือ
อีกหนึ่งแอคทิวิตี้สุดคลาสสิคที่มีงานวิจัยรองรับจากมหาวิทยาลัย Minisota ว่ามันช่วยลดความเครียดจากสิ่งต่างๆ ได้ถึง 68% ก็คือ การอ่านหนังสือนี่ล่ะ ถ้าสังเกตดีๆ คุณจะเห็นคนที่กำลังเดินทางไปทำงานอีกหลายคนเลยล่ะ ที่พกหนังสือไว้ข้างตัว ไม่ว่าจะหนังสือนิยาย หนังสือฮาวทู หรือแม้แต่หนังสือพิมพ์ บางคนนี่หยิบขึ้นมาอ่านทันทีที่ได้ที่นั่ง หรือบางคนยืนอ่านเลยด้วยซ้ำ ซึ่งก็เรียกว่าเป็นทำในสิ่งที่มีประโยชน์มากเหมือนกันนะ ดีกว่ามานั่งบ่นอารมณ์เสีย หน้าเครียดกับการจราจรที่ติดไปจนถึงดาวอังคารนู่นนน 

เอาเป็นว่ายิ่งเรารีบมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องผ่อนคลายความเครียดให้มากเข้าไว้เพราะ เครียดมาก ก็ทุกข์มาก สุขภาพกายและใจก็จะแย่ลงไปด้วย  ไม่อยากเครียดจนโรคเครียดถามหา อย่าลืมลองใช้วิธีที่เราบอกล่ะ!





 
-->