3 งานวิจัย ทำไม? รู้แล้วถึงอยากมี “ความรัก”
เคยได้ยินมั๊ยว่าความรักเป็นเหมือนพลังวิเศษช่วยนำสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต วันนี้เรามีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มานั่งยันนอนยันกับ 3 งานวิจัยที่จะมาช่วยคอนเฟิร์มว่าการมีความรักนั้นมันดีต่อเราจริงๆ1. “ความรัก” ช่วยคุม “น้ำหนัก” และป้องกัน “เบาหวาน”
มีผลการศึกษาของคุณหมอ โยชินโนบุ คอนโด (Dr Yoshinobu Kondo) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเบาหวาน บอกไว้ว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของ คู่สามี-ภรรยาที่ใช้ชีวิตด้วยกันมานานและไม่เคยนอกใจกัน สามารถควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้เพิ่มขึ้นได้อย่างดี ซึ่งอาจเป็นเพราะความแฮปปี้และเฮลท์ตี้จากการใช้ชีวิตคู่ และอีกหนึ่งข้อดีของการมีคนรักที่จริงใจ โดยเฉพาะในคุณผู้ชาย คือ กว่า 58 เปอร์เซ็นต์ของการมีคู่รักที่ดีสามารถช่วยลดโอกาสของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ให้กับคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นไขมันในเลือด ความดันโลหิตสูง รวมไปถึงเบาหวานด้วยเช่นกัน
2. “ความรัก” ช่วยดูแล “หัวใจ” ให้แข็งแรง
คนโสดมีแนวโน้มว่าจะเผชิญกับโรคที่เกี่ยวข้องกับหัวใจมากกว่าคนมีคู่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแม้ว่าจะดูไม่มากนัก แต่มันก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เรารู้ว่าคนมีคู่รักที่ดี ทะนุถนอมใจซึ่งกันและกัน สามารถช่วยลดระดับความเครียด รวมถึงการทำงานหนักของหัวใจไปได้ในตัว จากผลงานวิจัยของ โปรเฟสเซอร์ อาร์เชด คุยยุมีย์ (Arshed Quyyumi) พบว่า คนโสดที่เป็นโรคหัวใจเรื้อรัง มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคหัวใจวายตายเฉียบพลันมากกว่าคนที่มีคู่มากถึง 52 เปอร์เซ็นต์เลยล่ะ
3. “ความรัก” สร้างไออุ่นจาก “อ้อมกอด”
งานวิจัย จากมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon ในสหรัฐ เผยว่าอาการป่วยหนักจากการเป็นหวัดสามารถป้องกันได้ด้วยอ้อมกอดจากคนที่ห่วงใยกัน เพราะพบว่าคนป่วยที่ได้รับอ้อมกอดไม่มีอาการเจ็บป่วยหนักจากการเป็นหวัดเลย รวมทั้งมีนักวิจัยออกมายืนยัน นอนยันเลยว่า การกอดกันระหว่างคู่รักอย่างน้อย 8 ครั้งต่อวัน ช่วยลดความความเครียด และดีต่อการทำงานของระบบประสาทผ่านการหลังฮอร์โมน ซิโทซินที่มาจากต่อมใต้สมองส่วนหลัง ซึ่งช่วยบรรเทาความเจ็บปวดทางกายและใจได้อย่างน่าทึ่ง
รู้อย่างนี้แล้ว คนที่โสด หรือคนที่ไม่เคยมีความรักมาก่อน ควรจะลองเปิดใจให้ใครสักคนเข้ามาเพิ่มความหวานกันสักหน่อย แต่ก็อย่าลืมโฟกัสว่านั่นควรจะเป็น “ความรักที่ดี” ไม่งั้น ชีวิตรักของคุณคงสร้างปัญหามากมายจนคุณต้องปวดใจมากกว่ามีสิ่งดีเข้ามาก็ได้