14 เมืองไม่ฮิต! แต่คนแบบคุณอาจอยากไป
ต่างคน ต่างสไตล์ ต่างความต้องการ... บางคนชอบปีนน้ำตก บางคนชอบนอนอาบแดดบนหาดทรายขาว บางคนสรรหาของอร่อย ส่วนบางคนก็ดั้นด้นค้นหาไวน์ดีๆสักขวด
แต่สถานที่ท่องเที่ยวนั้นมีมากมาย... มาดูกันว่ารสนิยมสไตล์เรา เหมาะกับเมืองไหนกันนะ
1. Romance girl : เมืองกอลมาร์ (Colmar) ประเทศฝรั่งเศส
เมืองเล็กๆติดชายแดนเยอรมนีแห่งนี้ถูกขนานนามว่า “ลิตเติ้ลเวนิซ” เพราะมีแม่น้ำสายเล็กๆทอดผ่าน บรรยากาศของที่นั่นเหมือนเมืองในเทพนิยาย จะเลือกเดินชมสีสันของเมืองบนถนนอิฐจากยุคกลางหรือจะล่องเรือในแม่น้ำก็ให้ความรู้สึกที่น่าประทับใจอีกแบบ... และอย่าลืมสำรวจไร่องุ่นแถวนั้นพร้อมชิมไวน์สักแก้ว เพราะมันอาจเป็นไวน์ที่ดีที่สุดเท่าที่กินมา
2. Like Adventurous : เมืองอินเตอร์ลาเคน (Interlaken) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
เมืองเล็กๆแต่งดงามที่ซ่อนตัวอยู่ในเขตเทือกเขาแอลป์แห่งนี้ จะทำให้อะดรีนาลีนของคุณพุ่งพล่านด้วยประสบการณ์หวาดเสียว ทั้งกระโดดร่ม เครื่องร่อน ล่องแก่ง และโดดบั้นจี้จัมพ์ รับรองว่าไม่ผิดหวัง
3. Love Art : เมืองมาร์ฟา (Marfa) รัฐเทกซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา
หลายคนอาจเลือกไปยุโรป แต่ขอบอกว่าที่เมืองมาร์ฟานั้นเป็นที่ตั้งของมูลนิธิ The Chinati Foundation ที่ก่อตั้งโดยศิลปินแนวมินิมอลลิสต์ชื่อดัง โดนัลด์ จัดด์... มิวเซียมและศิลปะจัดวางนับสิบแห่งตั้งอยู่ที่นี่ แต่ที่ไม่ควรพลาดคือ Chinati museum บนพื้นที่ 340 เอเคอร์ซึ่งมี Prada Marfa เป็นแลนด์มาร์กสำคัญ... เสพงานศิลป์ท่ามกลางทะเลทราย อาจทำให้คุณรู้สึกเหมือนต้องมนต์จนเกือบลืมหายใจ
4. Eataholic : เมืองซาน เซบาสเตียน (San sebastien) ประเทศสเปน
เมืองทางเหนือของสเปนที่อยู่ติดทะเลแห่งนี้เป็นปลายทางสำหรับคนรักอาหารที่ดีที่สุดในโลกก็ว่าได้ มีภัตตาคารที่ติด 1 ใน 30 แห่งของภัตตาคารที่ดีที่สุดในโลก 2 แห่ง ไม่รวมร้านอาหารที่ได้ดาวจากมิชลินอีก 7 แห่ง... หากยังไม่ถูกใจ เมืองนี้ยังมีร้านขาย pintxos ขนมปังกรอบสารพัดหน้าอยู่นับไม่ถ้วน ที่ไม่พลาดชิมคือแก้มลูกวัวและหน้าปลาหมึก
5. Like outdoor activities : เมืองวอสส์ (Voss) ประเทศนอร์เวย์
เมืองเล็กๆนี้ทำให้คุณก้าวไปอีกระดับ ทั้งน้ำตก Tvindefossen ที่สูงกว่า 500 ฟุต, การพิชิตเส้นทางบน Bordalsgjelet Gorge, ล่องแก่งที่แม่น้ำ Stranda, หรือจะล่องเรือชม Sognefjord and Hardangerfjord ชายฝั่งฟยอร์ดซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของภูมิประเทศแถบนั้น... หรือจะเลือกขึ้นรถไฟ Flåm Railway มุ่งหน้าสู่เมือง Bergen ที่แล่นผ่านชายฝั่งฟยอร์ดสุดลูกหูลูกตา จนถูกยกย่องว่าสวยที่สุดในโลก
6. Party girl : เมือง Novalja ประเทศโครเอเชีย
หากอยากรู้ว่า “วันหยุด” ที่แท้จริงหน้าตาเป็นอย่างไรต้องมาดูที่เมืองนี้ เมืองนี้ตั้งอยู่ที่เกาะ Pag Island ซึ่งคนรักปาร์ตี้ต่างอยากมาสักครั้ง ชายหาดคลาคล่ำไปด้วยคลับและบาร์ เมืองนี้เป็นสถานที่จัดเทศกาลดนตรีซึ่งเป็นที่รู้จักในระดับโลก โดยตลอดฤดูร้อนจะมีหลายอีเว้นต์ให้เลือก... แต่ทริปนี้จะสมบูรณ์ไม่ได้เลยหากไม่ได้ชิมความงามของทะเลเอเดรียติกที่อยู่ตรงหน้า
7. Cheap travel : เชียงราย ประเทศไทย
สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแล้ว สิ่งที่แพงที่สุดจาการเดินทางมาเชียงรายคือค่าเดินทาง นอกนั้นก็สบายกระเป๋า ค่าที่พักมีตั้งแต่คืนละ 5 ดอลลาร์ อาหารมื้อละ 1 ดอลลาร์ สิ่งที่ไม่ควรพลาดคือชมสถาปัตยกรรมของวัดร่องขุ่นและวัดพระแก้ว
8. Like peace : เมืองมอร์โร เด เซาเปาโล (Morro de São Paulo) ประเทศบราซิล
เมืองนี้ตั้งอยู่ที่เกาะ Tinharé ทางตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล ที่นี่เป็นเมืองปลอดรถยนต์ ผู้คนก็ไม่พลุกพล่านนัก แต่หากอยากรู้ว่าแสงสีของที่นี่เป็นอย่างไร ก็ไปยังหาด Segunda Praia ซึ่งมีบาร์และค็อคเทลให้เลือกลิ้มรส
9. Beeraholic : เมืองเบนด์ (Bend) รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา
เมืองเล็กๆ ทางตอนเหนือของรัฐโอเรกอนแห่งนี้ถูกขนานนามว่า “เมืองเบียร์ของสหรัฐ” มีจำนวนเครื่องต้มเบียร์ขนาดเล็กมากที่สุดเมื่อเทียบกับจำนวนประชากร มีเส้นทางเฉพาะสำหรับชิมคราฟต์เบียร์จาก 22 โรงต้ม... ที่ไม่ควรพลาดคือ Black Butte Porter และ Mirror Pond Pale Ale จากโรงต้มดั้งเดิมที่มีชื่อว่า Deschutes Brewery
10.Historic : เมืองบรูจส์ (Bruges) ประเทศเบลเยียม
สิ่งปลูกสร้างจากยุคกลางทำให้ทิวทัศน์ของเมืองมรดกโลกแห่งนี้สวยงามจนต้องตกตะลึง ประวัติศาสตร์ของเมืองนี้นับย้อนไปได้ถึงศตวรรษที่ 9 ซึ่งชาวไวกิ้งได้ร่วมกันสร้างเมืองนี้ขึ้น... หากได้ไปเยือนแล้วล่ะก็ต้องไม่พลาดไปเยือนหอคอย The Belfry แลนด์มาร์กของเมือง และ Holy Blood โบสถ์สไตล์โกธิคที่สร้างเสร็จเมื่อศตวรรษที่ 12
11. Like the sea : เมืองเซียสตา คีย์ (Siesta Key) รัฐฟลอริดา
ชายหาดเซียสตาได้ชื่อว่า “ละเอียดและขาวที่สุดในโลก” เพราะหาดทรายเป็นแร่ควอตซ์บริสุทธิ์ 99% ครองอันดับ 1 หาดทรายที่สวยที่สุดในโลกจากการจัดอันดับโดย Dr. Beach และ TripAdvisor
12. Wine taste : เมืองทราเวิร์สซิตี (Traverse City) รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา
เมืองนี้อยู่ในเส้นละติจูดเดียวกับเบอร์กันดีและบอร์กโดซ์ แหล่งผลิตไวน์ชั้นเลิศของฝรั่งเศส ทำให้คุณภาพไวน์จากเมืองทราเวิร์สซิตี้ไม่ต่างจากที่ฝรั่งเศสนัก แต่ราคาถูกกว่ามาก ทั้งไวน์ขาวและไวน์แดงสไตล์ฝรั่งเศสที่จะทำให้คุณต้องอึ้ง... ส่วนทิวทัศน์ของทะเลสาบมิชิแกนก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน
13. Animal lover : เมือง Alajuela ประเทศคอสตาริกา
ที่นี่มีแหล่งพักพิงสุนัขชื่อว่า Territorio de Zaguates ที่เป็นเหมือนสวรรค์ของเจ้าสี่ขาเพราะเป็นสถานรับเลี้ยงที่ไม่ฆ่าสัตว์เหมือนแห่งอื่นๆ อาสาสมัครสามารถพาสุนัขไปเดินเล่นได้ในแถบชนบทรอบๆ เมืองได้
14. Architectures : เมืองอ็อกฟอร์ด (Oxford) ประเทศอังกฤษ
อาคารสถานที่ในเมืองปรากฏลักษณะทางสถาปัตยกรรมถึง 8 แบบ ตั้งแต่แบบแองโกล-แซกซอน, อิงลิชโกธิค, นีโอคลาสสิค, บาโร้ค, ปัลลาดีโอ, แบบฟื้นฟูโกธิค, แบบฟังชันนอลิซึม และแบบโพสต์โมเดิร์น... ถือว่าทั้งเมืองเป็นห้องเรียนให้เราได้เลย