Helicopter parenting บินวนจนลูกไม่ยอมโต

หลายคนคงเคยได้ยิน “พ่อแม่รังแกฉัน” การที่รักมากไป อาจทำให้ลูกทำอะไรไม่เป็นเลย ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป พ่อแม่เริ่มใส่ใจกับลูกๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งการใช้ชีวิตหรือแม้กระทั่งการเรียน จริงๆ แล้วปัญหานี้เริ่มเป็นกันทั่วโลก อาจเป็นเพราะโครงสร้างทางสังคมเปลี่ยนไป พ่อแม่มีกำลังทางการเงินมากขึ้น เลยทำให้เค้าทุ่มเทกับลูกมากขึ้น อยากเลี้ยงลูกให้ได้ดีกว่าที่เราเคยเป็น ซึ่งในประเทศอเมริกาได้เรียกกลุ่มนี้ว่า “Helicopter parents” เปรียบได้ว่า พ่อแม่บินวนเหมือนเฮลิคอปเตอร์ตามดูแลลูกไปเรื่อยๆ 



จากความรัก อาจกลายเป็นรังแกลูกในระยะยาว
เรื่องการเลี้ยงลูกแบบ Helicopter style อาจไม่ได้มีการวิจัยหรือคนพูดถึงอย่างจริงจัง แต่กำลังแพร่ระบาด เช่น จากรายงานปี 2009 โดยมหาวิทยาลัยอินเดียนนา บอกว่า นักศึกษาประมาณ 38% ที่เข้ามาเรียนใหม่ ยังมีพ่อแม่ที่เข้ามาก้าวก่ายช่วยแก้ปัญหาอยู่บ่อยครั้ง

นักจิตบำบัด Deborah Duley ผู้ก่อตั้ง Empowered connections กล่าวไว้ว่า มีผู้เข้าบำบัดอายุระหว่าง 20-30 ปี พูดถึงพ่อแม่ในเชิงว่าโตมากับพ่อแม่เฮลิคอปเตอร์ จึงทำให้เค้าไม่รู้สึกว่าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวเลย กลายเป็นไม่มีอิสระ และไม่รู้ว่าจะจัดการปัญหาตัวเองอย่างไร เนื่องจากพ่อแม่คอยเป็นคนที่เข้ามา stand by ช่วยเหลืออยู่เสมอทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ขอความช่วยเหลือเลยด้วยซ้ำ

Michelle M. Reynolds, PhD, นักจิตวิทยาคลินิกและผู้ก่อตั้ง LifeCatalyst: Therapy and Coaching พ่อแม่กลุ่มนี้มักจะกังวลเกี่ยวกับลูกๆ มากเกินไป เช่นการจัดการตารางเวลาของลูกๆ อย่างละเอียดและ Micromanaging บ่อยครั้งเพื่อทำให้ทุกอย่างราบรื่นขึ้นสำหรับลูกๆ ของพวกเขา จนบางทีลูกอาจจะกลายเป็นคนที่รู้สึกว่าทุกอย่างดูง่ายไปหมด

รักลูก ห่วงลูก ไม่ดีตรงไหน?
แม้ว่าการเลี้ยงดูแบบเฮลิคอปเตอร์ (helicopter parenting) ไม่ใช่สิ่งไม่ดีเสมอไป โดยเฉพาะเมื่อไม่ได้ถูกทำเกินขอบเขต แต่นักวิชาการเตือนว่ามันอาจกลายเป็นปัญหาในระยะยาวได้ ต่อไปนี้คือทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงดูแบบเฮลิคอปเตอร์ รวมถึงสาเหตุ สัญญาณ และวิธีการส่งเสริมการช่วยเหลือตัวเองในเด็ก

สาเหตุของการเลี้ยงดูแบบเฮลิคอปเตอร์
  • ความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย: พ่อแม่บางคนมีความกังวลเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับลูกๆ จึงพยายามปกป้องอย่างมาก เลี้ยงลูกแบบไข่ในหิน
  • ความปรารถนาที่จะเห็นลูกประสบความสำเร็จ: ความคาดหวังสูงในเรื่องการศึกษาและความสำเร็จในอนาคต อาจทำให้พ่อแม่รู้สึกว่าการเข้าไปควบคุมเป็นวิธีที่ดีที่สุด
  • ความรักและความห่วงใย: พ่อแม่บางคนอาจรู้สึกว่าการเข้ามามีส่วนร่วมจะทำให้ลูกมีชีวิตที่สะดวกสบายและปราศจากความเครียด ไม่อยากให้ลูกต้องคอยกังวลเรื่องอะไร 

สัญญาณบ่งบอกว่าคุณกำลังเป็นพ่อแม่เฮลิคอปเตอร์
  • การตัดสินใจแทนลูก: ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องเรียน การแต่งตัว ความถนัด หรือแม้แต่ของเล่นที่เราหยิบยื่นให้เพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด  โดยที่ไม่เคยถามลูกสักคำว่าเค้าอยากได้อะไร เช่น ลูกอยากเรียนอะไร? ของเล่นที่ลูกชอบคือชิ้นไหน? ลูกชอบสีอะไร อยากใส่เสื้อตัวไหน?
  • เป็นคนช่วยเหลือลูกทุกเรื่อง: ป้อนข้าวลูก เพราะกลัวลูกเปื้อน ช่วยการบ้านงานประดิษฐ์ลูกแทบทุกชิ้นเพื่อให้ลูกได้คะแนนดีๆ จนลูกไม่ได้ทำเองเลย
  • ติดตามลูกไปทุกที่ ยิ่งกว่า stalker: ไม่เคยให้ลูกคลาดสายตา แม้ว่าจะมีคุณครูคอยดูแลอยู่ที่โรงเรียน ไม่ยอมปล่อยให้ลูกเล่นกับเพื่อนๆ 



แล้วเราจะทำยังไงได้บ้าง ห่วงใยแต่ก็ให้ลูกดูแลตัวเองได้ด้วย
  • สนับสนุนให้ลูกตัดสินใจด้วยตัวเอง: เริ่มให้ลูกมีส่วนในการตัดสินใจที่สำคัญในชีวิต เพื่อพัฒนาทักษะการตัดสินใจ
  • ส่งเสริมการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง: เวลาเกิดปัญหา ให้ลูกได้ลองพยายามแก้ปัญหาด้วยตัวเองก่อน เรียนรู้จากความผิดพลาด อย่าเพิ่งพุ่งตัวเข้าไปช่วยทันที
  • ตั้งเป้าหมายอย่าง Realistic: อย่าเอาความต้องการของเราไปแบกไว้บนบ่าลูก แทนที่จะคาดหวังว่าเค้าต้องเป็นทุกอย่าง ทำได้ทุกอย่างแบบเพอร์เฟค ลองทำความรู้จักลูกดีๆ ว่าเค้าชอบ หรือเค้าถนัดอะไร แล้วคอยสนับสนุนให้พวกเค้าทำให้ดีในสิ่งที่พวกเค้าสามารถทำได้ดีกว่า

ต้องรักลูกแล้วให้เค้าเติบโตเพื่อดูแลตัวเองได้ ในวันนึงเค้าก็เหมือนนกที่ต้องบินออกจากรัง เราไม่สามารถคอยแก้ปัญหาให้ลูกได้ตลอด อย่าปล่อยให้ความรักของเรากลายเป็นการทำร้ายลูกในระยะยาว ต้องยอมให้เค้าพลาดและแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง แต่เราก็พร้อมสนับสนุนเค้าเสมอ 
-->