เปิดกรุ Skincare Routine ของคนขี้เกียจทาครีม ปังง่ายๆ แค่ไม่กี่ขั้นตอน

เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ใช้ชีวิตติดคอนเทนต์กันทั้งนั้น ทุกนาทีมีค่า ทุกเวลากลายเป็นเงินเป็นทองไปหมด จนบางครั้งก็หลงลืมการดูแลร่างกายตัวเอง มารู้ตัวอีกทีคือเพื่อนทักว่า ‘โทรมจัง แกไปทำอะไรมา’ เนี่ยแหละ แต่ยังดีที่รู้ทันก่อนสายเกินแก้ มาอัพสกิลความสวยใสที่ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานาน หรือต้องคอยทาครีมหลายกระปุกกันดีกว่า

ทาครีม, ขั้นตอนทาครีม, Skincare Routine, สกินแคร์, ขี้เกียจทาครีม

ใครที่รู้สึกว่าไม่มีเวลาดูแลผิวให้ครบทุกขั้นตอน วันนี้เรามาเปิดกรุ Skincare Routine แบบง่ายๆ สำหรับคนขี้เกียจทาครีม แต่ยังอยากมีผิวสวย เป๊ะปัง แถมยังมีสุขภาพดีเหมือนทานมะเขือเทศวันละ 10 ลูก กัน

ก่อนอื่นเลย เราต้องมาทำความรู้จักกับสภาพผิวของเรากันก่อน เพราะทุกคนมีสภาพผิวแตกต่างกัน การเลือกใช้สกินแคร์จึงต่างกันไปด้วย
 
  • ผิวแห้ง รู้สึกผิวแห้งตึง และลอกเป็นขุยบ่อยๆ 
  • ผิวมัน ผิวจะดูมันเยิ้ม มีรูขุมขนกว้าง
  • ผิวผสม คนที่มีผิวมันบริเวณ T-zone แต่มีผิวแห้งบริเวณแก้ม
  • ผิวแพ้ง่าย ผิวที่แพ้ระคายเคืองง่าย ขึ้นผื่นแดง หรือคันบ่อยๆ

บำรุงแค่ 4 ขั้นตอนนี้ สุขภาพผิวดีแน่นอน! 

1. ล้างหน้า
ขั้นตอนแรกที่หลายคนอาจมองข้าม แต่กลับสำคัญที่สุด ก็คือการล้างหน้า เพื่อขจัดสิ่งสกปรก ผงฝุ่นละอองต่างๆ และความมันบนใบหน้า เราแนะนำให้ใช้เจลล้างหน้าสูตรอ่อนโยนในตอนเช้า เพราะเหมาะกับทุกสภาพผิว เพื่อเป็นการปลอบประโลมผิวให้ค่อยๆ ตื่นเริ่มต้นวันที่สดใส หรือจะล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าที่สะอาดอย่างเดียวก็ได้ ส่วนตอนเย็นควรล้างหน้าด้วยคลีนซิ่งออยล์ เพื่อล้างเครื่องสำอาง และสิ่งสกปรกบนใบหน้าให้สะอาดที่สุดก่อนนอน

2. โทนเนอร์ (Toner)
โทนเนอร์เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ควรใช้หลังล้างหน้าเสร็จ เพราะสิ่งนี้คือตัวช่วยชั้นดีในการขจัดสิ่งสกปรก ละอองฝุ่น คราบน้ำมัน และปรับสมดุลค่า PH ของผิว ช่วยให้ความชุ่มชื้น ลดการอุดตันของรูขุมขน แถมยังทำให้รูขุมขนดูเล็กลงอีกด้วย

ทาครีม, ขั้นตอนทาครีม, Skincare Routine, สกินแคร์, ขี้เกียจทาครีม

ซึ่งโทนเนอร์ก็มีอยู่หลายประเภท แบ่งแยกตามผลลัพธ์ของการใช้งาน เช่น โทนเนอร์ปรับสมดุลผิว โทนเนอร์เพิ่มความชุ่มชื้น โทนเนอร์สำหรับผิวแพ้ง่าย โทนเนอร์ช่วยให้ผิวกระจ่างใส และอีกมากมาย 
ดังนั้นการเลือกใช้โทนเนอร์ควรเลือกที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล เพราะจะช่วยให้ผิวของคุณดูสุขภาพดีและสดใสอย่างเป็นธรรมชาติ เช่น 
 
  • คนผิวแห้ง  เหมาะกับโทนเนอร์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว สามารถใช้เป็นน้ำตบแทนการเช็ดได้ เพราะผิวหน้าจะได้ไม่ลอกเป็นขุย แต่ควรหลีกเลี่ยงโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอร์ เพราะอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองขึ้นได้ และอาจทำให้ผิวแห้งขึ้นไปอีก
  • คนผิวมัน หรือผิวผสม  ยิ่งควรใช้โทนเนอร์ทำความสะอาดหน้ามากๆ เพราะอาจมีคราบมันหรือความมันส่วนเกินหลงเหลืออยู่ ซึ่งทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนและเกิดสิวบ่อยขึ้น แม้ว่าเราจะอาบน้ำแล้วก็ตาม
  • คนที่มีผิวแพ้ง่าย  ควรเลือกใช้โทนเนอร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์และสารเคมีที่รุนแรง ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ หรือสูตรออร์แกนิก
  • คนที่มีผิวหมองคล้ำ  ควรเลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวดูสดใสมากขึ้น

3. มอยส์เจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer)
มอยส์เจอร์ไรเซอร์ เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เราแนะนำให้ใช้มากๆ เพราะช่วยบำรุงและดูแลผิวของเราให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ ทำให้ผิวดูสุขภาพดี เรียบเนียน หน้านุ่ม แถมยังช่วยป้องกันผิวแห้งกร้านหรือหน้าลอกได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย เคล็ดลับในการทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ คือ ควรทาบางๆ ทั่วใบหน้าและลำคอ ตอนเช้าและก่อนนอน

วิธีเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ทำได้ดังนี้

เลือกประเภทที่เหมาะกับสภาพผิว
 
  • คนผิวแห้ง เหมาะสำหรับมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เป็นเนื้อครีม เพราะให้เนื้อสัมผัสที่เข้มข้น จึงช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดี และควรเลือกที่เป็น Oil-based คือมีน้ำมันสำหรับบำรุงผิวเป็นส่วนประกอบ เพื่อให้น้ำมันเคลือบผิวไม่ให้ความชื้นจากผิวระเหยออกไป 
  • คนผิวมัน ควรเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่ออกแบบมาสำหรับคนผิวมันโดยเฉพาะ เพราะจะทำให้คุมความมันบนผิวหน้าได้ดี และไม่ทำให้เกิดสิว แนะนำให้ใช้เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์แบบ Water-based ที่อาจอยู่ในรูปแบบโลชั่นเหลว เพราะให้เนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมเข้าผิวง่าย แห้งเร็ว ปราศจากน้ำมัน พร้อมมองหาส่วนผสม เช่น กรดไฮยาลูโรนิก กลีเซอรีน หรือไนอาซินาไมด์ที่ให้ความชุ่มชื้น แต่ไม่เติมน้ำมันให้กับผิวอีก
  • คนผิวผสม เหมาะสำหรับมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของน้ำกับน้ำมันในอัตราส่วนที่เท่ากัน เพราะจะช่วยให้ผิวคงสมดุลของน้ำไว้ในผิวอย่างสม่ำเสมอ ไม่แห้งหรือมันจนเกินไป

เลือกส่วนผสมที่เหมาะกับความต้องการ เช่น
 
  • Hyaluronic acid เติมความชุ่มชื้น
  • Ceramides เสริมสร้างชั้นป้องกันผิว
  • Niacinamide ลดรอยดำ รอยแดง และควบคุมความมัน

ทาครีม, ขั้นตอนทาครีม, Skincare Routine, สกินแคร์, ขี้เกียจทาครีม

4. ครีมกันแดด (Sunscreen)
ตัวช่วยที่ปกป้องผิวไม่ให้เสื่อมสภาพไวนั่นก็คือ ครีมกันแดด เพราะช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอย ฝ้า กระ และมะเร็งผิวหนัง ซึ่งมีสาเหตุมาจากแสงแดดที่มีทั้ง UVA และ UVB ตัวการร้ายที่ทำลายผิว และที่สำคัญ คือ ควรทาครีมกันแดดทุกวัน แม้จะอยู่ในร่มก็ตาม และควรทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 15 นาที และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องผิว 

โดยควรเลือกครีมกันแดดที่มี SPF (Sun Protection Factor) 30 ขึ้นไป เพราะยิ่ง SPF สูง ก็จะทำให้เราสามารถอยู่กลางแดดได้นานขึ้น โดยที่ไม่เกิดอาการผิวไหม้แดดนั่นเอง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่ SPF 50 ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป เหมาะกับแสงแดดของประเทศไทยพอดี


เลือกครีมกันแดดยังไง ให้เหมาะกับผิวของเรา
 
  • คนผิวแห้ง เหมาะกับครีมกันแดดเนื้อครีม เพราะมีเนื้อสัมผัสที่เหมือนกับครีมมอยส์เจอร์ไรเซอร์ และมีสารบำรุงในตัว ช่วยเสริมให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น ไม่แห้งเป็นขุยง่าย
  • คนผิวมัน เหมาะกับการใช้ครีมกันแดดแบบเนื้อเจล เพราะมีเนื้อสัมผัสที่เบาบางกว่ากันแดดแบบอื่นๆ ซึมไว ไม่มีสี ไม่เหนอะหนะผิว และไม่เพิ่มความมันให้ผิว ลดการเกิดรูขุมขนอุดตัน และลดโอกาสในการเกิดสิว รวมถึงควรเลือกกันแดดที่ระบุว่า “Non Comedogenic” เพราะจะเป็นกันแดดที่ไม่ทำให้เกิดสิว เหมาะกับคนที่ชอบแต่งหน้าบ่อยๆ หรือผู้ชายที่อยากปกป้องผิว
  • คนผิวผสม ใช้ครีมกันแดดได้ทั้งแบบครีม และแบบเจล โดยครีมกันแดดเนื้อครีมนั้นควรจะเลือกที่มีเนื้อสัมผัสไม่หนักจนเกินไป เพราะคนที่มีผิวผสมนั้นก็ยังถือว่ามีความมันบนผิวอยู่ ถ้าเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะ ก็อาจเกิดการอุดตันของรูขุมขน และทำให้เกิดสิวตามมาได้
  • คนผิวแพ้ง่าย สำหรับสภาพผิวแพ้ง่าย หรือระคายง่ายนั้น ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่ไม่มีสารก่อการระคายเคือง เช่น พาราเบน แอลกอฮอล์ หรือน้ำหอม เป็นต้น หรืออาจจะเลือกครีมกันแดดที่ระบุว่า “สำหรับผิวแพ้ง่าย” ที่เป็นกันแดดที่มีความอ่อนโยนกับผิวเป็นพิเศษ 

นอกจากนี้ ยังมีเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่ช่วยทำให้ผิวหน้าเราดีขึ้นกว่าเดิม ถ้าหมั่นทำเป็นประจำซ้ำๆ นั่นก็คือ การมาส์กหน้า สัปดาห์ละครั้ง หรือการดื่มน้ำบ่อยๆ ก็ช่วยให้ผิวดีขึ้นได้เช่นกัน

เพียงเท่านี้ คุณก็จะมีผิวหน้าที่ดูสุขภาพดี เปล่งปลั่ง โดยไม่ต้องใช้เวลานาน หรือทาครีมหลายขั้นตอน ลองทำตาม Skincare Routine ของเรา แล้วคุณจะเห็นผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน! อย่าลืมปรับใช้เพื่อให้เหมาะกับผิวหน้าของแต่ละคนด้วยล่ะ รับรองว่าคนต้องทักกันตรึม

หรือถ้าใครมีเทคนิคในการดูแลผิวแบบปังๆ ก็อย่าลืมมาแชร์กันนะ
-->