อย่ายอมเป็นตัวสำรอง ใน Backup Relationship

พอพูดเรื่องความรัก มันก็มีทั้งดีและก็ไม่ดีกันทั้งนั้นแหละ แต่ใครจะไปเลือกสิ่งไม่ดีละจริงมั้ย อย่างงานวิจัยของ ทีมนักวิจัยด้านวิศวกรรมชีวการแพทย์ (biomedical engineering) จากมหาวิทยาลัยมิชิแกนสเตต (MSU) ของสหรัฐฯ บอกไว้ในวารสาร Frontiers in Cell and Developmental Biology ว่าฮอร์โมนแห่งความรัก “ออกซิโทซิน” (oxytocin) สามารถซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจหลังเกิดอาการหัวใจวายได้ อย่างน้อยความรักไม่ดี แต่หัวใจเราก็ยังอยู่ดี แต่มันคงเจ็บใจอยู่ไม่น้อย ถ้าเราตกอยู่ในสถานะ “ตัวสำรอง” ของใครสักคนนึง



แชตหนักขวาเพราะว่าเราเป็น “ตัวสำรอง” อยู่หรือเปล่า?
Backup Relationship หรือ Backburner Relationship เป็นความสัมพันธ์ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพยายามอยู่ข้างเดียวที่จะเดินหน้าสานต่อความสัมพันธ์ โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้ให้ความสำคัญสักเท่าไหร่ แต่ก็ยังไม่ปล่อยไป จึงเลือกที่จะแสดงพฤติกรรม (เหมือนจะ) รักเพื่อให้ความหวังไปเรื่อยๆ เพราะอยากจะเก็บความสัมพันธ์นี้ไว้เผื่อว่าวันหน้าจะเลือกมาเป็นตัวจริง ทำให้ฝ่ายที่ตกอยู่ในฐานะตัวสำรองทำได้แค่ “อดทน” (กับการเป็นที่ 2 3 หรือ 4) “รอ” (และภาวนาว่าสักวันอาจเป็น) วันของเรา พูดง่ายๆ ว่าก็เป็นพวกที่คบไว้เผื่อเลือกนั่นล่ะ หรือจะเรียกว่า “Breadcrumbing” ที่เปรียบการกระทำในลักษณะเช่นนี้ว่าเป็นเหมือนการวางเศษขนมปังล่อให้คนเดินตามก็ได้ 



เพราะอะไรทำให้เขามองเราเป็นตัวสำรอง  
ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ แต่คนที่ชอบยัดเยียดบทตัวสำรองให้คนอื่น อาจเพราะ ‘ความเหงา’ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของมนุษย์อยู่แล้ว จึงแก้เหงาด้วยการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน คนในครอบครัว หรือคนรัก แต่ในทุกความสัมพันธ์ต่างก็มีปัญหาทั้งนั้น นั่นเลยทำให้บางคนเลือกที่จะสร้างความสัมพันธ์แบบฉาบฉวยกับคนหลายๆ คน แทนการรักษาและสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับคนเพียงไม่กี่คน ในขณะที่บางคนก็อาจเกิด ‘ความรู้สึกไม่มั่นคง’ (insecure) กับความสัมพันธ์ในปัจจุบัน จึงหาแผนสำรอง เพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกปลอดภัย เลยเลือกเก็บเธอไว้ทั้งสอง (หลาย) คน ส่วนคนที่ไม่ตั้งใจจะให้ใครมาเป็นตัวสำรอง แค่เพราะอาจยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร จึงเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เรียนรู้ไปเรื่อยๆ แบบนี้ก็คงไม่ผิดหากว่าต่างฝ่ายต่างยังไม่มีตัวจริง แต่เมื่อไหร่ที่แน่ใจแล้วล่ะก็ อย่ารอช้าที่จะเคลียร์ตัวเอง จะได้ไม่ทำให้อีกฝ่ายเสียทั้งเวลาและ...ความรู้สึก

ส่วนคนที่รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองอยู่ในสถานะตัวสำรอง แต่ก็ยังยอมรับได้ เพราะกลัวว่าจะไม่มีใครคุยล่ะก็ แน่ใจนะว่ามีความสุขกับความสัมพันธ์แบบนี้ หรือจะคุยกันให้ชัดเจน ถ้าไม่มีวี่แววว่าจะคืบหน้าค่อยถอยออกมา เพื่อจะได้ไม่เสียทั้งเวลาและโอกาสที่จะสร้างความสัมพันธ์ครั้งใหม่

อย่าลืมว่า...ตัวสำรองในกีฬาฟุตบอลยังพอมีโอกาสได้ลงสนามเป็นตัวจริง แต่ที่นั่งตัวสำรองในความรัก คงไม่ได้อัพขึ้นมาเป็นตัวจริงได้ง่ายๆ นะ...ลองคิดดู
-->